รองผบ.ตร.เร่งสอบปมขัดแย้ง'สมยศ' ย้ำมุ่งประเด็นโกงเงินพนัน
วันพฤหัสบดี ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558, 16.10 น.
Tag :
2 ก.ค. 58 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี 2 คนร้ายยิงนายสมยศ สุธางค์กูร เจ้าของร้านพระราม 9 คาเฟ่ เสียชีวิตโดยเหตุเกิดที่บริเวณลานจอดรถด้านหลังร้านเฮงหูฉลามว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. ได้รับรายงานแล้ว ขอให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยรอบคอบ พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานให้รวดเร็วที่สุด และต้องจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ โดยเฉพาะมือปืนและผู้ร่วมก่อเหตุขับพาหนี ส่วนกรณีที่มีมีกลุ่มผู้จ้างวาน ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานติดตามตัวอยู่ โดยมีความคืบหน้าค่อนข้างมาก จึงได้เรียกประชุมด่วนวันนี้ เพื่อประชุมหารือเจ้าหน้าที่หลายหน่วยที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตรวจสอบหลักฐานวัตถุพยานนิติวิทยาศาสตร์เพื่อให้พยานหลักฐานสมบูรณ์ การดำเนินการสืบสวนสอบสวนไปด้วยกัน และใช้ระยะเวลาสักระยะ รวบรวมพยานวัตถุเอกสารตัวบุคคล ยืนยันว่าได้รับความร่วมมือทุกหน่วยงาน ร่วมมืออย่างดี เพื่อไล่ลำดับในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับข้องข้อสงสัยในแนวทางการสืบสวน
เมื่อถามถึงการควบคุมตัวนายเล็กเพื่อทำการสอบปากคำนั้น พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนนี้เป็นกระบวนการสืบสวนสอบสวน ต้องทำให้รอบคอบทุกฝ่าย ส่วนคำให้การซักทอดถึงใครเป็นผู้จ้างวานฆ่านั้น ขณะนี้ทางฝ่ายสืบสวนสอบสวนยังพยายามตรวจสอบข้อมูลทุกเรื่อง โดยเฉพาะการสอบปากคำฝ่ายนางรัศมี สุธางค์กูร อายุ 53 ปี ภรรยาของผู้ตาย ได้ให้การแย้งในสิ่งที่ก้อยให้การ แต่ยังรอพยานเอกสารเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในการให้การดังกล่าว ส่วนการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำเพิ่มเติมให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายสืบสวนดำเนินการส่งมอบให้ฝ่ายสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอน
เมื่อถามว่านน้ำหนักการก่อเหตุให้ไปที่ประเด็นเล่นพนันหรือไม่ พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าให้ประเด็นน้ำหนักไปในเรื่องความบาดหมางการโกงเงินพนันทำให้เป็นเหตุไม่พอใจ รวมถึงกรณีที่ประสานงานช่วยเหลือคดีต่างๆ เรื่อยๆ ทำให้เกิดเหตุความขัดแย้งรุนแรง โดยมีการต่อรองกัน หากไม่ทำตามก็ต้องเป็นอย่างนั้น ทำให้เหตุการณ์ความขัดแย้งเกิดขึ้นอีกส่วนที่ตั้งประเด็นเผื่อไว้เรื่องที่ดินมีบางส่วนนิดหน่อย
เมื่อถามว่ากลุ่มที่น่าสงสัยที่สุดคือกลุ่มของก้อยและวงพนันในวันนั้นได้หรือไม่ พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ขอใช้ว่าเป็นกลุ่มที่พอมีพยานหลักฐาน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อเติมเต็มข้อพิสูจน์ดังกล่าวก่อน ส่วนติดตามตัวมาสอบปากคำครบทุกคนแล้วหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการหารือกับพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พ.ต.อ.อัครเดช พิมิลศรี รรท.ผบก.ป. ว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อเร่งดำเนินการสอบปากคำให้ครบถ้วน นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบเรื่องพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ อาทิ ดีเอ็นเอ รวมถึงทางหน่วยสนับสนุนทางการสื่อสารให้เร่งตรวจสอบเกี่ยวกับข้อมูลทางโทรศัพท์ กล้องซีซีทีวี ซึ่งขณะนี้ยังคงกำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ตลอด ส่วนเบอร์โทรศัพท์ล่าสุดที่โทรเข้ามานั้น เป็นความละเอียดของผู้เสียชีวิต ที่นอกจากบันทึกเบอร์ไว้ด้วยตัวอักษร บันทึกข้อมูลไว้ในสมุดไดอารี่แล้วยังบันทึกเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ไว้ว่าพูดคุยโทรศัพท์บันทึกเสียงเอาไว้ด้วย
เมื่อถามว่า ผลการสอบปากคำพยานนายเล็กนั้น พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า จากตรวจสอบพบว่า นายสมชาย นิตยา หรือเล็ก ได้เปลี่ยนชื่อนามสกุลมาหลายครั้ง ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติว่า มีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเรียงลำดับความสำคัญ อย่างกรณีที่ดินหรือการอ้างช่วยในการรับเคลียร์คดีความหลอกเงินผู้ตายมา 50 ล้านบาท แต่ไม่ได้ดำเนินการช่วยเหลือแต่อย่างใด อาจจะทำให้เป็นสาเหตุทำให้โกรธเคืองเป็นเรื่องความขัดแย้ง ถามว่าได้เชิญฝ่ายที่ให้ผู้ตายมาช่วยเคลียร์เรื่องคดีหรือไม่ ยังคงตรวจสอบเพราะว่าอยู่ในกลุ่มเดียวกันหรือไม่ แต่ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะต้องตรวจสอบหาคนกลางพยานหลักฐานเอกสารมายืนยันข้อเท็จจริง อย่างเอกสารการเงิน และบัญชี ตรวจสอบไดอารี่ระบุไว้ถึงวันเวลาสถานที่บุคคล
ด้านพ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. กล่าวว่า ยังไม่ได้ให้น้ำหนักกลุ่มไหนเป็นพิเศษ แต่เน้นเรื่องของพยานหลักฐานเป็นตัวหลัก ส่วนเรื่องของการสืบสวนนั้น บก.ป.ได้รับคำสั่งมาให้ปฏิบัติร่วมกันในการทำหน้าที่เพื่อคลี่คลายคดีนี้ ประเด็นหลักมีอยู่ประมาณ 3-4 ประเด็น ต้องมาพิสูจน์ทราบแต่ละประเด็นเป็นอย่างไร มีใครเกี่ยวข้องบ้างอีกครั้ง
ด้าน พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้สามารถบอกได้เพียงกระสุนขนาด 9 มม. และได้หัวลูกกระสุนปืนภายในร่างกายของผู้เสียชีวิต ทางสถาบันนิติเวชวิทยาก็จะส่งหลักฐานดังกล่าวให้พนักงานสอบสวน เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับอาวุธปืนจริงต่อไป
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ธนงศักดิ์ บุญมาก นักวิทยาศาสตร์สบ 2 กลุ่มงานพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) สพฐ.ตร.กล่าวว่า หัวกระสุน 3 หัวกระสุน 3 หัว มาจากผู้ตาย และก็อยู่ที่รถยนต์คนที่เกิดเหตุอีก 1 หัว อยู่ระหว่างการนำส่งทำการเปรียบเทียบ เมื่อนำไปเปรียบเทียบตัวอย่างหัวกระสุนทั้งหมดมาจาหัวกระสุนชนิดไหน เบื้องต้นเชื่อว่ามาจากขนาดประมาณ .38 ลักษณะยาวใช้กับอาวุธปืนลูกโม่ และไม่พบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ ส่วนการวิเคราะห์ชนิดยี่ห้อต่างๆ อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ ว่าใช้กับอาวุธปืนชนิดใด ในส่วนวิถีกระสุนปืนค่อนข้างกดลงค่อนข้างมาก และการยิงในลักษณะใกล้ จึงยกตัวอย่างรูปแบบขออาวุธปืนเป็นแบบลูกโม่ แต่ชนิดนั้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ