ชาวประมงอวนลากร้องรัฐบาล เปิดโอกาสเรือผิดกม.ทำงานต่อ
วันศุกร์ ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558, 14.29 น.
Tag :
3 ก.ค. 58 ที่บริเวณลานวัฒนธรรมหน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี ได้มีกลุ่มประมงพาณิชย์อวนลากในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ประมาณ150 คน ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐทบทวนการบังคับใช้กฎหมายในการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุม(IUU Fishing) เพราะทำให้เรือเหล่านี้ในพื้นที่ปัตตานี ประมาณ72 ลำ ไม่สามารถออกไปทำประมงได้ ทำให้ชาวประมงเหล่านี้ได้รับความเดือดร้อน ขาดรายได้ จงได้ออกมารวมตัวเพื่อยื่นหนังสือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เพื่อให้มีการทบทวนการบังคับใช้กฎหมายตามคำสั่ง คสช. ที่10/58 มีการเขียนข้อความเรียกร้อง ความสำคัญ สะท้อนผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยมีนายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ลงมารับหนังสือ ก่อนมอบให้นายวัชรินทร์ รักษ์ยอดจิตร ประมงจังหวัดปัตตานี นำไปศึกษาข้อเรียกร้องดังกล่าวว่าสามารถดำเนินการช่วยได้หรือไม่อย่างไรบ้าง ตามขั้นตอนต่อไป จากนั้นทางชาวประมงอวนลาก ดังกล่าวจึงได้แยกย้ายกลับบ้าน
ซึ่งทางชาวประมงอวนลากดังกล่าว ได้เรียกร้องให้ดำเนินแก้ไขปัญหาดังนี้ 1.เรียกร้องให้รัฐดำเนินการเรือที่ผิดกฎหมายตามประกาศของกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ปี39 ปี42 ให้สามารถดำเนินการออกอาชญาบัตรได้ 2.แรงงานต่างด้าวให้มีการดำเนินการลงทะเบียนได้ตลอดทั้งปี จากเดิมที่ภาครัฐได้ดำเนินการเปิดลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวปีละ2ครั้ง 3.ให้มีการทบทวนการบังคับใช่กฎหมาย อย่างจริงจัง ตามมติประชุม ศปมผ. ครั้งที่8/2558 ได้กำหนดคณะทำงาน และกำหนดเรื่องการตรวจเรือประมง 15 ข้อ นั้นทำให้ชาวประมงบางส่วนไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ส่งผลให้เรือประมงบางประเภทกลายเป็นเรือผิดกฎหมายทันที
ด้านนายวัชรินทร์ รักษ์ยอดจิตร ประมงจังหวัดปัตตานี ได้กล่าวว่าวันนี้ได้มีชาวประมงเรืออวนลาก และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องปัตตานี ประมาณ 150 คน รวมตัวบริเณหน้าศาลากลางจังหวัด เพื่อยิ่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐทบทวนการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังตามคำสั่งของ คสช. นั้นทำให้เรือที่ไม่มีอาชญาบัตร ไม่สามารถออกไปทำประมงได้ โดยเฉพาะเรืออวนลาก ที่ไม่สามารถออกอาชญาบัตรเพราะเป็นเรือทีใช้เครื่องมือทำประมงที่ผิดกฎหมาย
ความจริงเมื่อปี พส.2539 กรมประมง โดยรัฐบาล ได้นิรโทษกรรมเรือประมงประเภทอวนลาก อวนรุน ที่ไม่มีอาชญาบัตร เพื่อให้มีอาชญาบัตรได้ทุกต้องทุกลำ แต่เนื่องจากช่วงเวลาที่ผ่านมา มีการเพิ่มจำนวนเรือดังกล่าวเพิ่มขึ้น ทั่วประเทศจาก 22 จังหวัดชายทะเล ประมาณ 3พันกว่าลำ ซึ่งมันเป็นเรือที่ผิดเงื่อนไขในระเบียบของประกาศ กฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงทำให้ไม่สามารถให้อนุญาตให้เรื่องเหล่านี้ถูกต้องตามกฎหมายได้ แต่เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าเข้ามาจัดการเรื่องนี้ให้เป็นถูกตามกฎหมาย บางครั้งมีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองเข้ามาแซกแซงการทำงานของข้าราชการประจำจึงทำให้ข้าราชการประจำปฏิบัติงานอย่างลำบาก จนทำให้ประเทศไทยถูกยุโรป(EU) ให้ใบเหลืองไทยเกี่ยวกับประมงไทย ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ให้โอกาสไทยแก้ปรับปรุง ครั้งนี้นับเป็นเรื่องดี โอกาสดีที่คณะ คสช.ให้ความสำคัญและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังสักที่ คาดว่าโดยภาครวมไม่น่าจะกระทบเป็นวงกว้างในระบบเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมประมงต่อเนื่อง เพราะยังมีเรือที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นส่วนใหญ่และได้ดำเนินการทำประมงตามปกติ คงไม่นานเรือทุกลำก็ต้องดำเนินการไปตามปกติ เพราะมีภาระทางการเงินที่ต้องดูแลลูกเรือ และต้องดูแลธุรกิจของตัวเอง จึงหยุดนานไม่ได้