ในปัจจุบันประเทศไทย เกิดการก่ออาชญากรรมมากมายหลายรูปแบบ ซึ่งภัยคุกคามในลักษณะของการก่ออาชญากรรมรูปแบบใหม่ๆ มีการก่อกำเนิดขึ้นอยู่เสมอ โดยใช้เทคนิควิธีการอันทันสมัยหรือวิธีการซึ่งยังไม่เคยเกิดขึ้น แม้แต่ทางเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ไม่เว้นแม้แต่การโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นอาชญากรรมที่มีแนวโน้มสูงขึ้น
พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี (ผบก.ภ.จว.ชลบุรี) กล่าวว่า ใน จ.ชลบุรี มีตัวเลขการโจรกรรมรถจักรยานยนต์เพิ่มสูงขึ้นจนน่าตกใจ เนื่องจากเป็นแหล่งนิคมอุตสาหกรรมและสถานที่ท่องเที่ยว ทำให้มีประชากรที่เดินทาง
เข้ามาทำงานและท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งรถจักรยานยนต์เป็นปัจจัยที่สำคัญในการดำรงชีวิต ดังนั้น ปัญหาการถูกโจรกรรม
รถจักรยานยนต์จึงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเกิดจากเจ้าของรถไม่รอบคอบ จอดรถในที่ลับตาคน หรือลืมถอดกุญแจออกจากรถ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่เปิดโอกาสให้มิจฉาชีพ
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้ออกมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม ขึ้นในทุกสถานีตำรวจ มีการจัดทำแผน การตั้งจุดตรวจ การก้าวสกัดจับ รวมทั้งได้จัดเก็บข้อมูลรถหายในเว็บไซต์ของตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งตั้งทีมวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่รถหายอย่างจริงจังอีกด้วย
“ภายหลังจากที่ให้ทีมเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ถึงสาเหตุการหายของรถจักรยานยนต์ มีสาเหตุหนึ่งที่น่าสนใจ กรณีรถหาย (การแจ้งความเท็จ) พบว่า 50 เปอร์เซ็นต์จากการแจ้งความนั้น มาจากกระบวนที่นายทุนกู้เงินนอกระบบเป็นกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองกำลังเร่งติดตามตัวกลุ่มนายทุนกลุ่มนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด” ผบก.ภ.จว.ชลบุรี กล่าว
พล.ต.ต.นิติพงศ์ กล่าวต่อว่า การแจ้งความเท็จ ว่ารถจักรยานยนต์หาย ถูกพบบ่อยครั้งขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง โดยมักจะเกิดขึ้นกับประชาชนที่ต้องการใช้อย่างเร่งด่วน จึงเข้าไปพึ่งพานายหน้าเงินกู้นอกระบบ ซึ่งนายทุนเงินกู้นอกระบบ จะแนะนำผู้กู้ให้ไปทำการดาวน์รถจักรยานยนต์ที่มีราคาค่อนข้างสูง เช่น ฮอนด้า NSX, ZOOMER X, CLICK จากนั้นให้นำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวส่งต่อให้กับนายทุน โดยสถานที่ที่หายบ่อย คือ บริเวณหอพักนักศึกษา และหอพักของคนงานในนิคมอุตสาหกรรม ตลาดนัด ตลาดสด และหมู่บ้าน
จากนั้นนายทุนก็จะมอบเงินให้ ประมาณ 20,000-30,000 บาท และทิ้งช่วงไว้ 1-2 เดือน ค่อยให้ไปแจ้งความว่ารถจักรยานยนต์หายกับสถานีตำรวจ เพื่อจะได้ไม่ต้องผ่อนชำระ และบางทียังได้เงินประกันอีกด้วย สำหรับรถจักรยานยนต์ นายทุนจะนำไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้านหรือถอดชิ้นส่วนออกจำหน่าย
โดยช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมการแจ้งความเท็จ มากกว่า 20 ราย มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมกับการหายของรถจักรยานยนต์ ที่ยังไม่ได้มาทำการแจ้งความอีก ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดฐานแจ้งความเท็จ มีโทษทั้งจำและปรับ โดยมีผู้เคยโดนลงโทษ ปรับแล้ว 100,000 บาท การกระทำดังกล่าว ยังสร้างความเสียหายในระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยอีกด้วย
พล.ต.ต.นิติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนและเจ้าของกิจการห้องพัก ใน จ.ชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง
ให้ช่วยทำการตรวจสอบความเรียบร้อย เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเฝ้าระวังการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ดังนี้ 1.เนื่องจากรถจักรยานยนต์สามารถนำหรือยกขึ้นรถอื่นได้ง่าย ดังนั้น ควรล็อกกุญแจตามปกติแล้ว และล่ามโซ่ไว้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ทำให้
ไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถจักรยานยนต์ของท่านได้ง่าย 2.ไม่ควรจอดรถจักรยานยนต์ของท่านไว้ในที่ลับตาคนโดยเด็ดขาด 3.ไม่ควรจอดทิ้งไว้ค้างคืนบริเวณข้างถนน
4.เมื่อต้องจอดรถไว้เพื่อไปทำธุระ ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วให้ตรวจสอบว่าได้ดับเครื่องยนต์ ล็อกคอหรือได้ล่ามโซ่ และได้ถอดกุญแจรถออกเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว 5.การทำกุญแจรถหาย ควรเปลี่ยนกุญแจใหม่ทั้งชุด เพราะจริงๆ แล้วกุญแจของท่านอาจไม่ได้หล่นหาย แต่อาจถูกนำไปใช้ในการโจรกรรมรถของท่านก็เป็นได้ 6.การจอดรถจักรยานยนต์ตามแฟลต ทาวน์เฮาส์ ตลาด ศูนย์การค้า ควรจะจอดไว้ในที่ที่ทางเจ้าหน้าที่อำนวยการของสถานที่นั้น ได้จัดไว้ให้ เนื่องจากจะมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าดูแลให้ตลอดเวลา
7.ให้จดตำหนิรูปพรรณลักษณะพิเศษต่างๆ ของรถจักรยานยนต์ของท่านติดตัวไว้เสมอ 8.เมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติกับรถจักรยานยนต์ของท่าน หรือทราบว่ารถจักรยานยนต์ของท่านหายให้รับแจ้ง แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจทาง 191 โดยทันที เพื่อจะได้สกัดจับได้ทันเจ้าของกิจการ 9.ให้จัดที่จอดรถจักรยานยนต์ให้เป็นสัดส่วน มีแสงสว่างที่เพียงพอ มีราวล็อกล้อ กล้องวงจรปิดที่มีคุณภาพ หรือจัด รปภ.ดูแล
ทั้งนี้ ต้องขอความร่วมมือกับทางประชาชน เพื่อเป็นการช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลคืนความสุขให้แก่ประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี