ทำถึงสิ้นสิงหาฯ
ทรงรับสั่งศูนย์ฯฝนหลวง
เพื่อเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด
วิกฤติภัยแล้งลุกลามหนัก
เขื่อนภูมิพลเหลือใช้30วัน
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม นายวราวุธ ขันติยานันท์อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่และนักบินของกรมฝนหลวง เพื่อเตรียมแผนงานการทำฝนหลวงหลังเรดาร์ได้ตรวจพบกลุ่มก้อนเมฆจากทางทิศตะวันตกบริเวณผืนป่าแม่วงก์ จ.นครสวรรค์ และ ผืนป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ห้วยขาแข้งใน จ.อุทัยธานี จึงได้ขอให้เตรียมเครื่องบินบรรจุสารเคมีเพื่อเข้าโจมตีก้อนเมฆ ในการที่จะทำฝนหลวง
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสว่า ให้ศูนย์ฝนหลวงทุกศูนย์ เร่งดำเนินการทำฝนหลวงอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ แม้ว่าจะเข้าหน้าฝนแล้วก็ตาม เพื่อให้ได้น้ำฝนตกลงมาเก็บกักตามเขื่อนและแหล่งเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด”นายวราวุธ กล่าว
สำหรับสถานการณ์ภัยแล้งในขณะนี้ ยังลุกลามในขั้นวิกฤติหลายพื้นที่ เช่น ที่จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่นครสวรรค์ แข้งขอด กระทบต่อพื้นที่การเกษตรและระบบประปา นายจิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์ลงพื้นที่ตรวจโรงผลิตน้ำประปาและ จุดสูบน้ำที่ใช้น้ำจากแม่น้ำปิงและประกาศให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด หากน้ำปิงยังลดต่อเนื่องอาจต้องแบ่งจ่ายน้ำเป็นเวลา
ที่ จ.อำนาจเจริญ สถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ50 ปี หลังฝนทิ้งช่วงมากว่า1เดือน นาข้าวเสียหายเกือบ40,000 ไร่ ต้องงดจ่ายน้ำทำนา เพื่อเก็บไว้ผลิตน้ำประปาอย่างเดียว อ่างเก็บน้ำหลัก4 แห่ง เหลือน้ำเพียงร้อยละ10 เท่านั้น หากภายใน2เดือน ฝนไม่ตกลงมาเลยจะเข้าสู่ขั้นวิกฤตน้ำทั้งจังหวัดและมี2 อำเภอมีปัญหาน้ำประปา กำหนดจ่ายน้ำเป็นบางเวลา
ที่ จ.สุรินทร์ สถานการณ์ภัยแล้งที่หมู่บ้านโอทะลันพัฒนา ม.10 ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดเขตชายแดนกัมพูชา แหล่งน้ำที่ใช้ผลิตน้ำประปากลางหมู่บ้านแห้งขอด จนไม่สามารถผลิตน้ำประปาให้ชาวบ้านได้ใช้อุปโภคบริโภคมานานกว่า 2 เดือนต้องอาศัยซื้อน้ำจากพ่อค้าน้ำแร่ขายให้ถังละ 200 บาท
ขณะที่ จ.เลย ได้เกิดปลาในกระชังที่เกษตรกรเลี้ยงไว้ในแม่น้ำเลย บ้านท่ามะนาว ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย ลอยตายจำนวนมาก สาเหตุเกิดจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ขาดน้ำและร้อน ระดับลดต่ำลงจนปลาน็อกขาดอากาศหายใจ ประมาณ 30 ตัน สร้างความเสียหายให้เกษตรกรรายละกว่า1ล้านบาททำให้ต้องเร่งตักขึ้นมาเร่ขายในราคาถูก ยอมขาดทุน ราคา 4 กิโลกรัมต่อ100บาท
ที่จ.บุรีรัมย์ นายอาคม พิญญศักดิ์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดบุรีรัมย์ เผยว่าสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดฯได้ทำเรื่องขอสนับสนุนฝนหลวง จากหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ขอนแก่น และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.นครราชสีมาอย่างต่อเนื่อง หลังเกษตรกรในพื้นที่18 อำเภอจากทั้งจังหวัด23 อำเภอ ร้องขอความช่วยเหลือเนื่องจาก มีนาข้าวที่ไถหว่านไปแล้ว ประสบปัญหาขาดน้ำหล่อเลี้ยงกว่า 350,000 ไร่รวมถึงสวนยางพาราขาดน้ำอีกกว่า20,000 ไร่ หากฝนไม่ตกภายใน 2-3 สัปดาห์ ทั้งนาข้าวและสวนยางพาราจะแห้งตายเสียหายเป็นวงกว้าง
นอกจากนี้ ชาวนาในหลายพื้นที่หลายอำเภอของ จ.อุดรธานี ได้ประสบภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำเพื่อมาทำนากระจายวงกว้าง ได้ร้องขอฝนหลวงให้มาทำสักครั้ง
ดร.นพดล อมรเวช ผู้ช่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 2 กรกฎาคม ได้เกิดตลิ่งพังทรุดตัวลงอย่างกะทันหัน ริมแม่น้ำป่าสัก ความยาวมากกว่า 50 เมตร ทำให้บ้านเรือนประชาชนตำบลท่าหลวง พังเสียหายทันที 2 หลัง โชคดีไม่มีผู้ชีวิต โดยบ้านที่ได้รับความเสียหาย เป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ปลูกอยู่ติดแม่น้ำป่าสัก เป็น ของ นางนัยนา นพคุณ อายุ 42 ปีและบ้านของนายอุเทน แก่นสากล อายุ 69 ปี คาดสาเหตุน่าจะมาจากภาวะภัยแล้งน้ำในแม่น้ำป่าสักแห้ง และผลกระทบการเร่งขุดลอกแม่น้ำป่าสักในช่วงภาวะภัยแล้ง
ขณะที่นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล เผยว่าในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.-2 ก.ค.58 มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล ไม่ถึง 20 ล้านลูกบาศก์เมตร น้อยที่สุดในรอบ51ปีหรือ ตั้งแต่กักเก็บน้ำมา ทำให้เหลือน้ำในอ่างเก็บน้ำ241 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายเพื่อการอุปโภค บริโภคและรักษาระบบนิเวศท้ายเขื่อน วันละ8ล้านลูกบาศก์เมตรจึงเหลือน้ำที่จะระบายได้อีกเพียง 30 วันเท่านั้น ถึงแม้มีการทำฝนหลวง แต่มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพียง 4 วัน ซึ่งวันที่ 1 และ2 กรกฎาคม ไม่มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเลย ขณะนี้ ระดับน้ำแห้ง ส่งผลให้ผู้ประกอบการเรือ แพเหนือเขื่อน ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถประกอบอาชีพได้
ด้านนายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งว่าหลังจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศงดส่งน้ำเพื่อการปลูกข้าวนาปีและต่อเนื่องข้าวนาปรังรอบแรกในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและแม่กลอง โดยเลื่อนการทำนาปีออกไปนั้นประเมินว่าจะไม่กระทบปริมาณผลผลิตมากนัก อาจทำให้ผลผลิตนาปี ลดลงร้อยละ11หรือประมาณ24.14 ล้านตัน จากปีที่ผ่านมา มีผลผลิต27 ล้านตันรวมทั้งมีแนวโน้มการคลี่คลายของวิกฤติเศรษฐกิจโลก และมาตรการภาครัฐที่ช่วยเหลือภาคเกษตรอย่างต่อเนื่องจะเกิดผลพวงเศรษฐกิจภาคเกษตรดีขึ้นปลายปี ไตรมาสสุดท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี