เจ้าท่าสตูลเพิกถอนทะเบียนเรือ287ลำ สมาคมประมงยันไม่ปิดอ่าว
วันเสาร์ ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558, 13.21 น.
Tag :
4 ก.ค. 58 นายวินัย หมื่นสุวรรณ ผอ. เจ้าท่า จ.สตูล กล่าวว่า ทางเจ้าท่าสตูล ได้สั่งระงับเพิ่งถอนใบอนุญาตทะเบียนเรือไปแล้วจำนวน 287 ลำ เนื่องจากขาดอายุ และไม่มาต่อทะเบียนเรือเป็นเวลา 3 ปี จึงได้มีหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของเรือ หลังจากนี้ จะให้เจ้าของเรือนำทะเบียนเรือที่ทางเจ้าท่าออกให้มาคืนยังสำนักงานเจ้าท่า จ.สตูล และหากเจ้าของเรือทำเอกสารสูญหาย ให้ไปแจ้งความ และนำเอกสารการแจ้งความมายื่น เพื่อยืนยันว่าเรือลำดังกล่าวนี้ได้ถูกการระงับใบอนุญาตเรือไปแล้ว แต่หากมีการนำเรือมาใช้อีกซึ่งทางเจ้าท่า จับได้ จะถูกดำเนินคดี
สำหรับการจัดทำเอกสารเรือนั้นขณะนี้ ทางเจ้าท่าได้เปิดบริการให้ผู้ประกอบการเรือจัดทำเอกสารได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการประมง เพื่อที่จะให้การจัดทำเอกสารให้ถูกต้อง สำหรับเอกสารนายท้ายเรือ และช่างเครื่องที่มีปัญหาติดขัดอยู่ในขณะนี้ นั้น ทางเจ้าท่าได้จัดหน่วยบริการอบรมให้แก่นายท้ายเรือ และ ช่างเครื่องในวันที่ 8 ที่ศูนย์วิจัยชายฝั่ง อ.ละงู จ.สตูล และในวันที่ 9 ที่ สถานีประมงทางทะเล จ.สตูล โดยมีการฝึกอบรมนายท้ายเรือและช่างเครื่องเรือ พร้อมทั้งจะมอบเกียรติบัตรรับรองการฝึกอบรมให้ในวันดังกล่าว เพื่อนำมาจัดทำเอกสารประกอบการเดินเรือต่อไป
ผอ.เจ้าท่า จ.สตูล กล่าวต่อไปว่า เป็นที่น่ายินดีว่า ผู้ประกอบการประมงในพื้นที่ จ.สตูล นั้น จะให้ความร่วมมือในการจัดทำเอกสารเป็นอย่างมาก และได้มีการติดต่อขอคำปรึกษาในเรื่องของการจัดทำเอกสาร ทำให้ทุกภาคส่วนจำเป็นที่จะต้องเร่งจัดทำเอกสารให้ โดยได้ร่วมกับศูนย์แจ้งเรือเข้าออก หรือ พีโป้ เป็นศูนย์กลางในการให้คำปรึกษา และจัดทำเอกสาร
ขณะที่นายอรุณ ชูประสิทธิ์ นายกสมาคมการประมงจังหวัดสตูล กล่าวว่า เรือประมงในจังหวัดสตูลทั้งหมดมี 2,000 ลำ ทั้งเล็กและใหญ่ โดยทางสมาคมประมงจังหวัดสตูล ได้เรียกประชุมตัวแทนผู้ประกอบการแจ้งให้ทราบการเตรียมใบอนุญาตทะเบียนเรือ ที่หมดอายุ หรือเอกสารเรือที่ไม่ครบ ให้เร่งดำเนินการในช่วงที่ทางรัฐบาลจะดำเนินการเปิดการลงทะเบียนหรือตรวจสอบใหม่ในเร็วๆนี้ และยืนยันว่า เรือที่ไม่มีเอกสารครบจะเร่งดำเนินการมาทำเอกสารเพื่อจะได้ไม่ผิดกฎหมาย ส่วนการปิดอ่าวประท้วงหรือหยุดทำธุรกิจชั่วคราวที่จะสร้างความเดือดร้อนนั้น ทางผู้ประกอบการเรือประมงกับและตนเองได้พูดคุยกันแล้วว่าในส่วนจังหวัดสตูลจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น