เช้ามืดวันที่ 4 ก.ค. 2558 พ.ต.ต. ศิลประสิทธิ์ ศรีเกียรติ พงส.สภ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่ามีคนไข้เข้ามารักษาตัวแล้วเสียชีวิต จึงเดินทางไปร่วมตรวจชันสูตร พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบชื่อคือ นายสุนันท์ อนุพันธ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 17 ต.สำโรงตาเจ็น อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ สภาพศพไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยของการถูกทำร้าย แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการดื่มยาพิษ
นายจรัส อนุพันธ์ อายุ 30 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนทำงานอยู่ในตัวอำเภอ นานๆ กลับบ้านครั้งหนึ่ง ซึ่งที่บ้านนอกจากมีพ่อและแม่แล้วยังมีพี่ชายและน้องชายของตนอยู่ด้วย ที่บ้านมีนาสิบกว่าไร่ พ่อกับพี่ชายและน้องชายช่วยกันทำ ส่วนแม่ป่วยเป็นกระดุกทับเส้น เดินไม่มีแรงจึงทำอะไรไม่ได้มาก ที่ผ่านมาต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลในจังหวัดอุบลราชธานี เงินทองจะใช้จ่ายก็ไม่เพียงพอ
ประกอบกับช่วงนี้ชาวนาประสบปัญหานาข้าวแห้งแล้งต้นข้าวใกล้จะแห้งตาย จึงอาจจะเป็นสาเหตุทำให้พ่อเครียดจนถึงกับดื่มยาฆ่าหญ้าฆ่าตัวตายก็ได้ ซึ่งทุกคนในบ้านก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้แต่ทำใจเท่านั้น
ภัยแล้งกระทบนาข้าวบุรีรัมย์แสนไร่
ตอนสายวันเดียวกัน นายภูมิจิตร ศรีวงษ์ราช นายอำเภอเมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่สำรวจนาข้าวของเกษตรกรในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 17 ตำบล ที่ได้มีการไถหว่านข้าวและต้นกล้าไปแล้วกว่า 290,000 ไร่ พบว่ามีนาข้าวที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วงขาดน้ำหล่อเลี้ยงแล้วมากกว่าร้อยละ 70
ส่วนใหญ่อยู่นอกเขตชลประทาน อาศัยน้ำจากน้ำฝนในการทำนาเป็นหลัก และคาดว่าหากฝนยังไม่ตกลงมาหล่อเลี้ยงภายใน 1 เดือน ต้นข้าวที่หว่านไว้ก็จะทยอยแห้งตายเสียหายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพบว่ามีพื้นที่ที่กระทบแล้งหนักใน 3 ตำบล คือ ต.พระครู กลันทา และ ต.ถลุงเหล็ก
จึงได้กำชับให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือราษฎรที่จะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เพราะขณะนี้สระน้ำกลางหมู่บ้านในหลายหมู่บ้านเริ่มมีสภาพตื้นเขินแห้งขอดแล้ว ซึ่งหากได้รับการร้องขอก็ให้ท้องถิ่นออกให้ความช่วยเหลือ โดยการนำน้ำไปแจกจ่ายทันที
ราชบุรีวิกฤติบ่อน้ำประปาแห้งขอด
ขณะที่ จ.ราชบุรี ชาวบ้านหมู่ที่ 5 ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคอย่างหนัก หลังบ่อน้ำที่ใช้ผลิตประปาหมู่บ้านบ่อสุดท้ายได้แห้งขอดลง ทำให้ขณะนี้ไม่มีน้ำใช้เดือดร้อนกว่า 1,000 หลังคาเรือน เกษตรกรบางคนที่ปลูกพืชผักแบบผสมผสานหลายอย่างจำเป็นต้องเลือกชนิดผักเอาไว้เพียงชนิดเดียว พืชผลการเกษตรอื่นๆ ที่เหลือต้องยอมปล่อยให้เหี่ยวแห้งตายลง
นางพร แคล้วคำพุด อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 5 ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ เล่าว่า ที่หมู่บ้านไม่มีน้ำประปาใช้มาเกือบ 1 เดือนแล้ว ชาวบ้านต้องใช้น้ำในลำห้วยที่เน่าเสียและมีกลิ่นเหม็น ซึ่งยังไม่รู้สาเหตุของการเน่าเสีย เพราะไม่รู้จะไปใช้น้ำอื่นจากที่ไหน และยังต้องนำน้ำไปรดผักผลไม้ อย่าง ลำไย กระท้อน หน่อไม้ ที่ปลูกไว้ประมาณ 80 ไร่ โดยบางส่วนเริ่มเหี่ยวเฉาใบเหลืองร่วงหล่นยืนต้นตาย
เช่นเดียวกับนายบุษกร จันทร์โตศรี อายุ 45 ปี เปิดเผยว่า ตนปลูกพริก มะละกอ มะเขือ ถั่วฝักยาว รวมทั้งหมด 9 ไร่ ปีนี้มีปัญหาเกิดน้ำแล้งมากที่สุด จึงจำเป็นต้องเลือกพืชระยะสั้นอย่างถั่วฝักยาวไว้ และต้องปล่อยให้ผักอื่นๆ เหี่ยวแห้งตายโดยที่ไม่รู้จะหาทางแก้ไขอย่างไร
ศิลปินระบายสีอ่างเก็บน้ำ
ที่อ่างเก็บน้ำห้วยสำนักไม้เต็ง ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า มีกลุ่มศิลปินทำการฉีดพ่นสีสเปรย์ ในลักษณะศิลปะแบบ “กราฟิตี้” บนกำแพงปูนของอ่างเก็บน้ำจุดที่อยู่ในสภาพแห้งขอด มีทั้งเขียนเป็นตัวหนังสือลายไทย รูปหน้าคนใส่แว่น และรูปลักษณ์ต่างๆ หลากหลายสีสัน เรียกเสียงฮือฮาจากผู้พบเห็น และมีหลายคนขอเข้าไปถ่ายรูปกับภาพเหล่านี้ไว้เป็นที่ระลึก
สำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยสำนักไม้เต็ง เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของ จ.ราชบุรี มีความจุได้ถึง 36 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่จากวิกฤติภัยแล้งทำให้ขณะนี้เหลือน้ำติดก้นอ่างเพียง 3.27 ล้านลูกบาศก์เมตร ไม่สามารถส่งน้ำให้กับเกษตรกรทำการเกษตร และอุปโภค บริโภคได้ ส่งผลให้ประชาชนใน 3 อำเภอประกอบด้วย อำเภอเมือง อำเภอปากท่อ และอำเภอจอมบึง ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
ฝนหลวงโคราชได้ผล
นายสินชัย พึ่งตำบล นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า วันนี้เครื่องบินทำฝนหลวงได้วางแผนขึ้นบินปล่อยสารฝนหลวง 2 เที่ยว ในช่วงสาย และช่วงบ่าย โดยใช้สารฝนหลวงน้ำหนักประมาณ 10 ตัน โปรยเหนือท้องฟ้าบริเวณแนวป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งอยู่บริเวณเหนือเขื่อนลำตะคอง เพื่อให้มีปริมาณน้ำฝนไหลเข้าเพิ่มเติมน้ำในเขื่อนที่เหลือน้อย
ซึ่งปัจจุบันเขื่อนลำตะคองเหลือน้ำใช้การเพียง 57 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณร้อยละ 18 ของความจุเขื่อนเท่านั้น ทั้งนี้ข้อมูลตั้งแต่เดือนเมษายน 2558 จนถึงเดือนมิถุนายน 2558 ในระยะเวลา 3 เดือน ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา ได้ขึ้นบินทำฝนหลวงรวมแล้วมากกว่า 200 เที่ยว ใช้สารฝนหลวงน้ำหนักรวม 270 ตัน มีฝนตกลงมาร้อยละ 90 ของพื้นที่ที่ขึ้นบินทำฝนหลวง แต่ปริมาณฝนที่ตกลงมายังถือว่าน้อย
โดยการขึ้นบินทำฝนหลวงทุกครั้งจะเน้นทำให้เกิดฝนตกเหนือบริเวณเขื่อนต่างๆ และช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยแล้งขาดแคลนน้ำเป็นหลัก หากพื้นที่ไหนมีสภาพอากาศเหมาะสมศูนย์ฝนหลวงฯ ก็พร้อมขึ้นบินออกปฏิบัติการทำฝนหลวงทันที
กาฬสินธุ์ขอ 30 ล้านซ่อมอ่าง
ที่ จ.กาฬสินธุ์ นายอนันต์ศักดิ์ แย้มชื่น ผู้อำนวยการโครงการชลประทานกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากวิกฤติภัยแล้งที่เกิดขึ้น ตนได้นำแผนการฟื้นฟูอ่างเก็บน้ำห้วยจาน รายงานไปยังอธิบดีกรมชลประทาน โดยขอการสนับสนุนงบประมาณรวม 30 ล้านบาท เข้ามาฟื้นฟูอ่างเก็บน้ำแบบบูรณาการ ที่จะทำการขุดลอก อ่างเก็บน้ำให้มีสภาพดีดังเดิม
ทั้งนี้ อ่างเก็บน้ำห้วยจาน เป็นอ่างเก็บน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี 2523 และได้ดำเนินการจนแล้วเสร็จในปี 2524 เป็นการแก้ไขปัญหาความแห้งแล้งให้กับประชาชน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ ซึ่งได้รับการผันน้ำจาก ห้วยแข้ เขตเทือกเขาภูพาน จ.สกลนคร
“ที่ผ่านมาท้องถิ่น ก็ได้ทำการแก้ไขและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากมีพื้นที่กว้าง สามารถรองรับน้ำไปจำนวนสองแสนห้าหมื่น ลบ.ม. จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการจัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอ และในขณะนี้โครงการดังกล่าวได้นำเสนอเข้าแผนในปี 2559 เป็นที่เรียบร้อย และคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนทันทีเมื่อเข้าสู่ปีงบประมาณ” นายอนันต์ศักดิ์ ระบุ
อุตรดิตถ์เร่งทำคันผันน้ำช่วยชาวนา
ที่ ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ นายสมชัย กมลเทพเทวินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด เกษตรจังหวัด ชลประทานจังหวัด ทหารจากค่ายพระยาพิชัยดาบหักและชาวบ้าน ช่วยกันขนไม้ยูคาลิปตัส เพื่อตอกแทนเสาเข็มสำหรับวางแนวกระสอบทรายกั้นแม่น้ำน่าน จุดที่จะไหลเข้าปากสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าบ้านเกาะ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ทำนาปี ในพื้นที่ 3 ตำบล ครอบคลุมพื้นที่ปลูกข้าวนาปี 34,446 ไร่ เกษตรกร 1,750 ครัวเรือน หลังจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวต้องประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำ เพื่อใช้ในการทำนาปี
นายสมชัย กล่าวว่า การดำเนินงานครั้งนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้สนับสนุนรถแบ็คโฮแบบคอยาวเพื่อตอกเสาเข็มและวางกระสอบทราย โดยเมื่อสร้างคันแล้วก็จะตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 3 เครื่อง สูบน้ำจากแม่น้ำน่านที่ระดับต่ำให้เข้าแนวด้านหลังของคันเพื่อให้สูงขึ้นถึงหัวกะโหลกสูบน้ำ เพื่อให้สามารถเดินเครื่องสูบน้ำไปใส่ข้าวนาปีที่ปลูกไปรอบแรกในพื้นที่ดังกล่าวราว 40,000 ไร่เศษ ซึ่งกำลังตั้งท้องแต่อยู่ในภาวะขาดน้ำ แต่พื้นที่ใดที่ยังไม่ทำนา ขอให้ชะลอการทำนาออกไปก่อนจนกว่าจะมีฝนตกชุก เพื่อไม่ให้พืชผลเสียหายจนขาดทุน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี