เกษตรบูรณาการวันนี้ต้องบอกว่า อาการน่าเป็นห่วง ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ที่ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องของการทำงานโดย
องค์รวมเพราะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาล “ประยุทธ์” วาดหวังเอาไว้ งานในส่วนของกรมที่มีอาการน่าเป็นห่วงก็คงหนีไม่พ้น กรมชลประทาน ที่มี “เลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ” เป็นอธิบดี ที่เขาคนนี้มีที่มาที่ไปให้น่าศึกษา เพราะเข้ามานั่งในตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทานนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่ทางพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งไม่พอใจเรื่องการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ที่อธิบดีกรมชลประทานคนเก่า เมื่อปี 2554 ที่น้ำนองเกือบทั่วกรุงเทพฯ จนถูกเด้งเข้ากรุ นั่งตบยุงที่กระทรวงเกษตรฯและย้ายให้ “เลิศวิโรจน์” คนนี้มานั่งในตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทาน แทน เมื่อต้นปี 2555 และเป็นที่มาคำถามว่า น้ำมันท่วมในปี 2554 แล้วทำไม ปี 2555 มาต่อเนื่องถึงปัจจุบัน น้ำในเขื่อนที่เคยมีข่าวว่าน้ำมากแทบเขื่อนแตกและจากที่เขามานั่งอธิบดีกรมชลประทานน้ำมันหายไปไหน อันนี้ต้องไปติดกันเอาเอง
แต่ที่แน่ๆ การขึ้นมานั่งในตำแหน่ง อธิบดีกรมชลประทานวันนี้ มีการผลักดันจากพรรคการเมืองใหญ่ ที่คนไกลสั่งตรงให้ขึ้นเป็นรองอธิบดีกรมชลประทาน ก่อนที่จะขยับขยายอีกหลายตำแหน่งและกลับไปนั่งในตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทานในที่สุด เมื่อปี 2555 ตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ให้ดูโครงการใหญ่ในกรมชลประทานแบบเบ็ดเสร็จ ส่วนฝีไม้ลายมือเรื่องการบริหารงาน จะดีแค่ไหน
อันนี้คงแล้วแต่วิจารณญาณของผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรง แต่ที่แน่ๆ ในส่วนของการชี้แจงข้อมูลทุกครั้งกับสาธารณะเกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ส่วนใหญ่ต้องบอกว่าไม่ผ่าน และที่สำคัญงานนี้ ท่านนายกรัฐมนตรี ก็เจอด้วยตนเอง ในระหว่างที่เดินทางไปประชุม ครม. ที่เชียงใหม่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ในการชี้แจงเรื่อง ที่กรมชลประทาน วางระบบการแก้ปัญหาเรื่องน้ำที่จังหวัดเชียงใหม่ อันนี้เพราะท่านนายกฯ “ประยุทธ์” ออกอาการไม่ค่อยพอใจกับการชี้แจงของนายเลิศวิโรจน์ จนเป็นข่าวพาดหัวไปหลายฉบับ
มาถึงอีกกรมหนึ่งที่มีข่าวมาหลายครั้งว่าจะถูกโยกย้าย เนื่องจากท่านทำงานไม่เข้าตาในเรื่องการแก้ปัญหา IUU ที่เป็นปัญหาหนักของรัฐบาลอีกอันหนึ่ง นั่นคือ กรมประมง ที่มีนายจุมพล สงวนสิน เป็นอธิบดีกรมประมง ณ เพลานี้ โดยเมื่อวันพุธที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แม้ชาวประมงจะประกาศหยุดเรือเพราะไม่พอใจกับรัฐบาลที่ไม่ขยายระยะเวลาการขึ้นทะเบียนและอาชญาบัตรแต่วันนี้รัฐบาล “ประยุทธ์” ยังยืนยันขันแข็งไม่ขยายเวลา พร้อมย้ำหากไม่ทำวันนี้ จะมีปัญหาต่อการส่งออกสินค้าประมงไทยไปยัง ต่างประเทศ เพราะเราไม่ทำตามระบบสากลที่อารยประเทศเขาทำ หากมีการขึ้นทะเบียนเรือได้ทั้งหมด จะนำไปสู่การแก้ปัญหาแรงงานเถื่อน ปัญหาเรือที่ไม่ขึ้นทะเบียน รวมทั้งปัญหาเรื่องของเครื่องมือการทำประมงผิดกฎหมาย และที่สำคัญสามารถนำข้อมูลมาวางแผนการช่วยเหลือชาวประมงได้อย่างมีระบบ การใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดครั้งนี้ เพราะปัญหาเรื่องประมงผิดกฎหมายเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน หากยังขืนไม่ร่วมมือกันแก้ปัญหาคงต้องดำเนินตามกฎหาย
กว่าจะมาถึงวันนี้ มีการพูดคุยหลายครั้งเรื่องของการทำงานของท่าน “จุลพล” ว่าเป็นเพราะท่านไม่เก่ง เรื่องการชี้แจง หรือ เป็นเพราะท่านไม่เข้าใจกับงานกันแน่ เพราะก่อนหน้านี้ ที่ท่านถูกดันขึ้นไปเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ จากนายเก่าที่ “ยุคล
ลิ้มแหลมทอง” รัฐมนตรีในรัฐบาลที่ผ่านมา งานก็ไม่มีอะไรเดินหน้า สุดท้ายสรุปว่าท่านไม่ถนัดกับงานสหกรณ์ จนถูกจัดให้เป็นอธิบดีกรมประมง จากที่ท่านเติบโตมา ตั้งแต่บรรจุเป็นข้าราชการในตอนแรก วันนี้ก็คงจะสมควรแก่เวลาที่ท่านรัฐมนตรีว่าการเกษตรอย่าง “ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา” จะคิดได้ว่าเกิดจากอะไร เพราะงานบางอย่าง ที่เอาประเทศเป็นเดิมพัน มันรอใครบางคนเกษียณราชการอีก 2 เดือนไม่ได้ และที่สำคัญจากนี้ไป ท่านคงไม่ต้องแหงะไปถามใครว่า “จุมพล” ทำงานเป็นอย่างไร เพราะท่านบอกเองว่าท่าน “จุลพล” ตอบไม่ตรงคำถาม? เพราะทั้งอธิบดีกรมประมง และรองอธิบดี ตอบแบบเดิมๆ ตรงกันว่า กรมประมงกำลังเดินหน้า และกันยายนนี้ จะมีการตรวจสอบและประเมินอีกครั้งจาก EU อีกครั้ง ต้องถามท่านรัฐมนตรีดังๆว่า มาถึงเวลานี้ งานโดยรวมของกระทรวง ท่านจะยังถามใครอีกหรือไม่ว่า ใครทำงานเป็นอย่างไร เพราะท่าน “ประยุทธ์” เลือกท่านมาก็เพราะเห็นว่าท่านน่าจะมองออก ใครคือ กรวด ใครคือหิน เพราะเพชรคงหากยาก จะทำอะไรก็กล้าๆหน่อยครับ อย่าสนใจแต่ไอ้เรื่องเช่นว่าอย่างเดียว....เพราะวันนี้ กระทรวงเกษตรฯอาการน่าเป็นห่วงครับเจ้านาย
นายมะขามเปรี้ยว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี