นายเกรียงศักดิ์ พุ่มนาค หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำ สำนักชลประทานที่ 9 เปิดเผยว่า ผู้ใช้น้ำในลุ่มน้ำคลองใหญ่ 7 ราย ประกอบด้วย บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ East Water, บริษัทไทยแทฟฟิตา จำกัด, องค์การบริหารส่วนตำบลแม่น้ำคู้, การประปาส่วนภูมิภาค สาขาระยอง, การประปาส่วนภูมิภาค สาขาบ้านฉาง, บริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และ บริษัทสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) ได้รวมกันจัดตั้ง “กลุ่มบริหารการใช้น้ำนอกภาคเกษตรกรรม โครงการท่อผันน้ำเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำประแสร์-อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่”จ.ระยอง ขึ้นตามที่กรมชลประทานเสนอ เพื่อร่วมกันบริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรมชลประทานได้ทำการผันน้ำจากอ่างฯประแสร์ มายังอ่างฯคลองใหญ่ จ.ระยอง เพื่อผันน้ำส่วนเกินความต้องการของภาคการเกษตร ซึ่งปกติแต่ละปี จะมีน้ำไหลเข้าอ่างฯประแสร์ประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) กันไว้เพื่อภาคการเกษตร 100 ล้านลบ.ม. อุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศอีก 20 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ยังมีน้ำเหลืออีกกว่า 150 ล้าน ลบ.ม. ที่จะสามารถผันไปยังกิจกรรมภาคส่วนอื่นๆ ได้ กรมชลประทานจึงได้ดำเนินการผันน้ำมายังอ่างฯคลองใหญ่ แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ สร้างเสถียรภาพความมั่นคงในเรื่องน้ำในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี
“การผันน้ำจากอ่างฯประแสร์ มายังอ่างฯคลองใหญ่ ดังกล่าว จะไม่กระทบต่อเกษตรกรผู้ใช้น้ำชลประทานจากอ่างฯประแสร์ เนื่องจากเป็นการผันน้ำส่วนเกินความต้องการ ซึ่งปกติในแต่ละปีภาคการเกษตร อุปโภค-บริโภค และรักษาระบบนิเวศ จะใช้น้ำเพียงประมาณ 70-80 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่อ่างฯประแสร์ สามารถเก็บกักน้ำได้ถึง 248 ล้าน
ลบ.ม. และกำลังจะเพิ่มความจุเป็น 295 ล้าน ลบ.ม. อีกด้วย” นายเกรียงศักดิ์กล่าว
หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการน้ำ สำนักชลประทานที่ 9 กล่าวต่อว่า คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ (JMC) จังหวัดระยอง รับทราบ
การผันน้ำดังกล่าว ซึ่งกลุ่มได้จัดส่งผู้แทนร่วมลงนามในข้อตกลงกับกรมชลประทาน เพื่อชำระค่ากระแสไฟฟ้าสูบน้ำ ค่าดำเนินการสูบน้ำ ค่าบำรุงรักษา ค่าเสียหายที่เกิดจากการสูบผันน้ำ รวมทั้งยังจะต้องจ่ายค่าน้ำ ตาม
พระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พ.ศ. 2485 ลูกบาศก์เมตรละ 50 สตางค์ อีกด้วย
นอกจากนี้ทางกลุ่มผู้ใช้น้ำนอกภาคเกษตรฯ ยังจะต้องจัดกิจกรรมหรืองบประมาณด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมมาดูแลท้องถิ่นในอัตรา 10 สตางค์/ปริมาณน้ำผัน 1 ลบ.ม./ปี ซึ่งหากผันน้ำเต็มจำนวนที่ได้รับการจัดสรรคือ 80 ล้าน ลบ.ม. ก็จะมีเงินมาใช้ในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมประมาณ 8 ล้านบาทต่อปี นำมาจ่ายค่าน้ำของระบบประปาหมู่บ้านตามแนวท่อผันน้ำ 10 หมู่บ้าน และค่าดูแลสังคมด้านต่างๆ เช่น ขุดลอกคลอง ขุดสระเก็บน้ำ ก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้าน เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากน้ำอย่างคุ้มค่า เพราะนอกจากจะมีน้ำใช้ในภาคการเกษตรกรอย่างพอเพียงแล้ว ยังแบ่งปันน้ำให้กับภาคอุตสาหกรรม เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจให้กับประเทศชาติ และสุดท้ายยังนำเงินส่วนหนึ่งคืนกลับสู่ชุมนุมท้องถิ่นอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี