คำตอบ ดินเค็มชายทะเล เป็นดินที่มีปริมาณเกลือสูงมากพอที่จะทำอันตรายต่อพืชที่จะนำไปปลูกพื้นที่ดินนี้ จะพบตามชายฝั่งทะเลที่ส่วนใหญ่ยังมีน้ำทะเลขึ้น หรือท่วมถึงอยู่
วิธีการสังเกตพื้นที่ดินเค็ม
1.พื้นที่บริเวณนั้น ไม่ห่างจากฝั่งทะเลเท่าใดนัก และมีน้ำทะเลขึ้นท่วมถึงมาก่อน
2.บนผิวดินมักพบคราบเกลือสีขาวปรากฏอยู่บนผิวดินเป็นหย่อมๆ หรืออาจพบเนื้อดินฟุ้งกระจายเม็ดดินแตกสลาย เมื่อเปียกน้ำจะพองตัว เนื่องจากเนื้อดินมีเกลือโซเดียมคาร์บอเนตสูง บางแห่งเป็นดินแน่นทึบไม่มีพืชขึ้นอยู่เลย
3.บริเวณพื้นที่ดินเค็ม จะมีพืชที่สามารถทนเค็มได้ดีขึ้นอยู่ ซึ่งเราสามารถบอกได้ว่า ถ้ามีพืชพรรณชนิดนี้ขึ้นในบริเวณนี้ บริเวณนั้นๆ จะเป็นดินเค็ม เช่น ชะคราม จาก แสม โกงกาง ลำพู เหงือกปลาหมอ หนามแดง หญ้าทนเค็มบางชนิด ฯลฯ
4.พืชที่ปลูกบริเวณนั้น ตายเป็นหย่อมๆ อาการของพืชจะปรากฏว่าเกิดจากผลของความเค็ม เช่น ขอบใบจะไหม้ พืชแคระแกรน ไม่เจริญเติบโต เป็นต้น
5.ชิมดินและน้ำ จะมีรสกร่อย แสดงว่ามีอันตรายต่อพืชแล้ว หรือน้ำเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล
การปรับปรุงดินเค็มชายทะเล เพื่อการเกษตรกรรม โดยปกติแล้ว ควรที่จะไปปรึกษานักวิชาการเกษตรอย่างใกล้ชิด เพราะการจะปรับปรุงต้องใช้เวลานานและลงทุนสูง ควรพิจารณาถึงผลตอบแทนการปรับปรุง แนวทางการปรับปรุงที่ใช้กันมีดังนี้
-สร้างคันดินกั้นน้ำทะเล พร้อมประตูระบายน้ำ เป็นการป้องกันความเค็มของน้ำทะเล ที่จะเข้ามาสะสมเกลือในดิน คันดินที่สร้างต้องให้สูงพ้นระดับน้ำทะเลที่ขึ้นสูง และแข็งแรงพอที่จะป้องกันการรั่วซึมของน้ำที่จะไหลเข้ามาในบริเวณที่จะล้างดิน
-ขุดคลองระบายน้ำ ให้เพียงพอตามความจำเป็นสำหรับการล้างเกลือออกจากดิน เพื่อให้น้ำจืดหรือน้ำฝนล้างดินแล้ว ต้องระบายออก เพื่อลดระดับความเค็มของดินความลึกของคลองระบาย 1.50 เมตร ก็พอเพียงสำหรับไม้ยืนต้น และระยะห่างของคลองระบายสายย่อยใช้ระยะ 20 เมตร ความลึก 0.50 เมตร เหมาะสำหรับการล้างดินเค็มชายทะเล
-การดำเนินการล้างดิน โดยใช้น้ำชลประทานที่มีคุณภาพดีหรือน้ำฝน ด้วยการส่งน้ำจืดเข้ามาชะดิน เกลือจะถูกล้างออกไปจากดิน จากนั้นก็จะถูกระบายออกหรือสูบออกจากบริเวณที่ล้างดิน ปริมาณของเกลือในดินจะลดลงทุกปี การชะล้างในดินบนจะเกิดก่อน และมีมากที่สุด จะค่อยๆ ลดลงตามความลึก
-การใช้สารเคมีช่วยในการปรับปรุงแก้ไข วิธีนี้ ใช้กับดินเค็มและดินเค็มที่มีเกลือโซเดียมอยู่สูง การล้างด้วยน้ำจืดเพียงอย่างเดียวจะไม่เพียงพอ ให้ใช้ยิปซั่ม หรือกำมะถันผงใส่ลงไปในดิน เพื่อทำให้ดินลดความแน่นทึบ และชะเกลือด้วยน้ำได้ง่าย
-การใช้อินทรียวัตถุช่วยในการปรับปรุงดินเค็ม เป็นวิธีการหนึ่งที่จะปรับปรุงสภาพทางกายภาพของดิน ทำให้ดินไม่แน่นทึบ ทำให้ดินไม่สูญเสียความชื้น ลดการระเหยของน้ำ ซึ่งจะทำให้ไม่มีการพาเกลือจากดินชั้นล่างมาสะสมบนผิวหน้าดิน และยังเป็นการเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุและความอุดมสมบูรณ์แก่ดิน
-ลดระดับน้ำใต้ดิน โดยวิธีการระบายออกหรือสูบออก จะทำให้ดินแห้งและสุก เป็นการล้างดิน เพราะเมื่อดินแห้งจะแตกเป็นร่องลึกลงไป ทำให้น้ำซึมผ่านไปได้เร็วขึ้น
-ปลูกหรือรักษาพืชพรรณ ที่ขึ้นอยู่ในบริเวณที่ล้างดินเค็ม เพื่อให้ปกคลุมและปรับปรุงโครงสร้างของดิน และระบบรากพืช จะทำให้ดินมีการระบายน้ำดีขึ้น การล้างดินเค็มจะเป็นไปได้เร็วขึ้น
-พืชทนเค็มที่สามารถปลูกได้ ได้แก่ ถั่วฝักยาว ผักกาดหอม ใบขึ้นฉ่าย แตงร้าน แตงไทย พืชที่ทนเค็มปานกลาง ได้แก่ บวบ พริกยักษ์ ถั่วลันเตา น้ำเต้า หอมใหญ่ ข้าวโพด ผักกาด หัวปลี ผักกวางตุ้ง และกะหล่ำปลี พืชที่ทนเค็มมาก ได้แก่ ผักโขม ผักกาดหัว มะเขือเทศ คะน้า ถั่วพุ่ม และผักบุ้งจีน พืชสวนที่ทนเค็มได้ คือ มะพร้าว ละมุด พุทรา ฝรั่ง มะขามเทศ มะขามไทย สะเดา ไม้ประดับและไม้โตเร็วที่ทนได้ดีคือ แค ตันหยง กระถินณรงค์ สน ยูคาลิปตัส หูกวาง เป็นต้น
นาย รัตวิ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี