นักลงทุนเดินหน้าสร้าง ‘ราชนคร’เมืองนิเวศอีโคทาวน์

ชูเมืองคิตะคิวชูต้นแบบดันราชบุรีเป็นศูนย์กลางระดับเอเชีย

นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พลเอกภัสสร อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นายเชาวน์ ชาญบุรุษ พึ่งบุญ ณ อยุธยา นักสถาปนิก พร้อมด้วยคณะสื่อมวลชนจาก จ.ราชบุรี เดินทางเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเมืองคิตะคิวชู ประเทศญี่ปุ่นกับ จ.ราชบุรี โดยมีนายเคนจิ คิตาฮาชิ นายกเทศมนตรีเมืองคิตะคิวชู พร้อมคณะต้อนรับ

พร้อมเดินทางเยี่ยมชมการพัฒนาเมืองด้านสิ่งแวดล้อม การกำจัดขยะอุตสาหกรรม และความเป็นอยู่ของประชาชนในเมืองคิตะคิวชู ที่มีการแก้ไขปัญหาจากเมืองที่มลพิษที่เลวร้ายจนเป็นเมืองสีเขียวปลอดมลพิษและเป็นเมืองทางเศรษฐกิจที่สำคัญของแระเทศ จนต่างทั่วโลกให้การยอมรับ

โดยกลุ่มนักลงทุนหลักจากประเทศญี่ปุ่นเมืองคิตะคิวชู ได้มีการเข้าลงทุนสร้างนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่กว่า 20,000 ไร่ ที่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยใช้เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่แห่งใหม่ในระดับภูมิภาคเอเชีย ภายใต้เมืองที่จะเกิดขึ้นใหม่ที่มีชื่อว่า ราชนคร เมืองนิเวศ อีโคทาวน์ (Eco Tomn) ที่เน้นด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก พร้อมลงทุนเปิดเส้นทางสู่เมืองทวายประเทศพม่า หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นเข้าสนับสนุนเส้นทางทวายในการค้าระหว่างประเทศ

ทั้งนี้การลงทุนดังกล่าวเดินหน้าไปแล้วกว่า 10% ในเฟสแรกมีการดำเนินการสร้างเมืองพื้นที่สีเขียว หรือ เซฟตี้โซน ปลอดมลพิษ มีการวางผังเมืองภายในนิคมอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ใช้ระบบเมืองคิตะคิวชู มาเป็นระบบจัดการ จำนวนพื้นที่ 7,500 ไร่

นายเชาวน์ ชาญบุรุษ พึ่งบุญ ณ อยุธยา สถาปนิกและนักออกแบบ เปิดเผยว่า โครงการนิคมอุตสาหกรรม ราชนคร เมืองนิเวศ 
อีโคทาวน์ (Eco Tomn) ที่จะสร้างขึ้นในพื้นที่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ขณะนี้ได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 10% นักวิจัยจากเมืองคิตะคิวชู ได้เข้าสำรวจพื้นที่ในประเทศไทยโดยเฉพาะพื้นที่ไม่มีลอยเลื่อน พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม จึงเลือกที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพมหานคร มีความสะดวกหลายอย่าง

อีกทั้งยังมีพื้นที่เพียงพอต่อการสร้างเมืองนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งต้องยอมรับว่าในการพัฒนาประเทศ ในภาคอุตสาหกรรมปัญหาสิ่งแวดล้อมถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะสิ่งที่ตามมา
คือ มลภาวะที่มีต่อชุมชน การแก้ปัญหาการหาทางออกร่วมกัน ระหว่างภาครัฐ เอกชน ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ยังถือว่าไม่มีมาตรการและนโยบายที่ชัดเจน จริงจังในการแก้ปัญหา ในอดีตของประเทศญี่ปุ่นที่เมือง คิตะคิวชู ทางตอนเหนือของเกาะคิวชู หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 มีโรงงานผลิตเหล็กที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย กลายเป็นเมืองแห่งมลพิษ ทั้งทางอากาศและน้ำเน่าเสียปล่อยลงทะเลจนได้ชื่อทะเลเปลี่ยนสี หรือทะเลแห่งความตาย ในปี 1960 เป็นจุดสูงสุดในเรื่องมลภาวะ กระทั่งมีกลุ่มแม่บ้านกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งที่ทนไม่ไหวกับสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบกับเด็กๆ ที่เป็นลูกหลานของตน จึงต้องออกมาเรียกร้องเก็บข้อมูลรวบรวมปัญหาเสนอกับรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อเยียวยาและแก้ไขปัญหา 

กว่า 10 ปีที่ภาครัฐ ผู้ประกอบการ และประชาชนของเมือง คิตะคิวชู ร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหา จนปัจจุบันกลายเป็นเมือง
ต้นแบบของอุตสาหกรรมนิเวศ หรือเป็นศูนย์กลางผลิตแบบโลคาร์บอน เป็นรูปแบบการศึกษาดูงาน ให้คำปรึกษา ในหลายประเทศทั่วโลก และหนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทยที่มีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน mou โครงการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระหว่าง กรมโรงงานอุตสาหกรรม เมืองคิตะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น และบริษัท ไออาร์พีซี โดยมี ดร.พสุ โลหาชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นประธาน

นายเชาวน์ยังระบุอีกว่า สาเหตุที่กลุ่มนักลงทุนจะเดินหน้าลงทุนสร้างเมืองนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ที่จังหวัดราชบุรีนี้ คือจังหวัดราชบุรีไม่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ซึ่งนักลงทุนถือเป็นเรื่องใหญ่ นอกจากนี้ จังหวัดราชบุรีไม่มีรอยเลื่อนของแผ่นดินไหว ภายในนิคมอุตสาหกรรมมีการจัดสร้างที่อยู่อาศัย สถานพยาบาล หน่วยงานราชการ มารวมอยู่เพื่อเป็นวันสต็อป เป็นเมืองอุตสาหกรรมหลักในโครงการด้านไอที และไฮเทคและอิเล็กทรอนิกส์ จะทำทะเลสาบในเมืองเป็นพักผ่อน แห่ลงเรียนรู้อาจจะมีป่าในเมือง และที่นึกไว้ก็จะทำค่ายลูกเสือโลก และสร้างน้ำพุที่จะทำให้สูงที่สุดในโลกเป็นแลนด์มาร์คของประเทศและเป็นต้นแบบของการประหยัดพลังงานใน มีโซลาร์เซลล์ ติดตั้งในพื้นที่ไม่ใช้ประโยชน์ เช่น หลังคา พื้นน้ำ มาผลิตไฟฟ้าขึ้น และศูนย์การค้าชั้นนำของโลก ทั้งนี้ อนาคตจะดำเนินการให้เป็นกรุงเทพมหานคร 2

พลเอกภัสสร อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เมืองคิตะคิวชู หันมาลงทุนที่จังหวัดราชบุรีในครั้งนี้ นับว่าเป็นผลดีที่ประเทศไทยจะมีกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาลงทุน จะสามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมการทีจะสร้างสนามบินพาณิชย์เพื่อรองรับการเติบโตด้านเศรษฐกิจขึ้นมาอีกแห่งด้วย รวมไปถึงการพัฒนาด้านศักยภาพต่างๆ โดยจะมุ่งเน้นในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ความสะอาด ปลอดมลพิษ ทำเป็นเมืองต้นแบบขึ้นมาอีกแห่ง

สิริมงคล  ไกรวงศ์วิชญ์