นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่ากรมอนามัยดำเนินโครงการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านอาหารและโภชนาการมาตั้งแต่ปี 2556 ปัจจุบันมีจังหวัดที่สมัครใจร่วมโครงการ จำนวน 13 จังหวัด ใน 4 ภาค ซึ่งในปี 2558 กรมอนามัยและเครือข่ายโภชนาการสมวัยจะผลักดันให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม 4 เรื่อง ได้แก่ 1.การนำนโยบายเพิ่มค่าอาหารกลางวันนักเรียนตามงบประมาณที่เพิ่มขึ้นจาก 13 บาท เป็น 20 บาท สู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ความสำคัญกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใส มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับวัตถุดิบอาหาร สนับสนุนให้มีการนำมาตรฐานโภชนาการในการจัดบริการอาหารกลางวันนักเรียน ของสำนักโภชนาการกรมอนามัยไปใช้ในกระบวนการจัดซื้อ จัดจ้าง เพื่อควบคุมคุณภาพและราคาอาหาร 2.การบรรจุนักโภชนาการประจำตำบล โดยใช้งบประมาณท้องถิ่น 3.การผลักดันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและโรงเรียนมีการจัดบริการอาหารในรูปแบบครัวกลาง 1 ตำบล 1 ครัวกลาง เน้นการใช้วัตถุดิบอาหารและผลผลิตทางการเกษตรปลอดภัยในชุมชน 4.การมีระบบควบคุม กำกับ ติดตาม ประเมินผลการจัดการคุณภาพอาหาร และมีการเฝ้าระวังภาวะโภชนาการเด็กปฐมวัย และเด็กวัยเรียนต่อเนื่อง โดยการชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูงอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง สำหรับเด็กกลุ่มเสี่ยงได้รับการแก้ไขปัญหาโดยมีการติดตามเดือนละครั้ง
กรมอนามัยคาดว่าภายใน ปี 2567 หรือประมาณอีก 10 ปีข้างหน้าการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านอาหารและโภชนาการจะสามารถลดภาวะอ้วนในเด็กวัยเรียนลงได้ร้อยละ 0.5 ต่อปีเมื่อเทียบกับสถานการณ์เดิม หรือควบคุมไม่ให้ภาวะอ้วนเกิดเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 9.9 ภาวะเตี้ยจาก ร้อยละ 7.5 ลดเหลือร้อยละ 5 และส่งเสริมให้เด็กไทยเพศหญิงและเพศชายมีความสูงเฉลี่ย 165 และ 175 เซนติเมตร ตามลำดับ และมีไอคิวเฉลี่ยมากกว่า 100 จุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี