28 ก.ค. 58 ที่ อบต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ จ.สงขลา ยังคงมีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โครงการโรงไฟฟ้าเทพาและท่าเทียบเรือสำหรับโรงไฟฟ้าเทพา ครั้งที่ 3 (ค.3) ต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 2 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย โดยมี พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เดินทางมาเป็นประธาน และร่วมรับฟังการชี้แจง และรับฟังความคิดเห็นในส่วนของโครงการท่าเทียบเรือสำหรับโรงไฟฟ้าเทพา
หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้ชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่ และตัวแทนจากองค์กรต่างๆนับหมื่นคน ร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ล่าสุด ได้มีประชาชนชาว อ.เทพา และใกล้เคียง ทยอยกันเดินทางมาร่วมเวที ค.3 กันอย่างคึกคักหลายพันคน ท่ามกลางการดูและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย อย่างเข้มงวด เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้รับความสะดวก และปลอดภัย รวมทั้งเป็นไปตามประกาศของทาง จ.สงขลา ที่จะต้องควบคุมดูแลไม่ให้มีการรวมตัวชุมนุมสร้างความวุ่นวายในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ โครงการท่าเทียบเรือสำหรับโรงไฟฟ้าเทพาจะถูกสร้างขึ้นบนที่รวมของโครงการบริเวณชายทะเล ม.4 ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา และมีการสร้างแนวสะพาน เพื่อใช้สำหรับระบบรางขนส่งถ่านหินในระบบปิดจากเรือบรรทุกถ่านหิน ซึ่งอยู่ห่างออกไปจากชายฝั่งประมาณ 3 กิโลเมตร โดยที่บริเวณตอนกลางของสะพานขนส่งถ่านหินจะมีการทำเป็นสะพานท่าเทียบเรือความสูงประมาณ 9 เมตร จากระดับน้ำทะเลสูงสุด เพื่อให้เรือประมงสามารถลอดผ่าน ทั้งนี้ถ่านหินที่ใช้สำหรับโรงไฟฟ้าเทพาถึงแม้จะร่วงลงทะเล ก็จะไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำทะเลแต่อย่างใด เนื่องจากทะเลมีความเป็นด่าง แต่ถ่านหินที่ใช้จะทำปฏิกิริยากับกรดเข้มข้นเท่านั้น ซึ่งทาง กฟผ.ให้การรับรองว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอน
ขณะที่จากการลงพื้นที่สอบถามชาวบ้าน นายสมศักดิ์ ศรีวารีพิพัฒน์ ตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ ม.4 ต.ปากบาง อ.เทพา เผยว่า โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำหรับโรงไฟฟ้าเทพา ทางชาวประมงพื้นบ้านไม่ได้ถึงกับจะต่อต้านแบบหัวชนฝา แต่ทั้งนี้จะต้องวางแนวทางการช่วยเหลือในระยะยาวให้ชัดเจน และสามารถทำได้อย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากการก่อสร้างจะส่งผลต่อระบบนิเวศโดยรอบ รวมทั้งทิศทางน้ำ กระแสน้ำ การอพยพของฝูงปลา และปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง อีกทั้งประชาชนบางส่วนที่อาจจะต้องอพยพ หรือยกเลิกอาชีพประมง เนื่องจากที่อยู่อาศัยอยู่ในแผนที่จะทำโครงการดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดจะต้องมีการเยียวยาและชดเชยที่เหมาะสม ซึ่งตนจำนำปัญหาทั้งหมดนำเสนอบนเวที ค.3 ในวันนี้ เพื่อหาทางออกร่วมกันกับทุกฝ่าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี