28 ก.ค. 58 ที่เรือนจำกลางจังหวัดปัตตานี พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.)พร้อมด้วย พตอ.นรินทร์ บูสะมัน รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา พตอ.กีรติ แวยูโซ๊ะ ผกก.สภ.เมือง ปัตตานี ได้เดินทางมาที่เรือนจำกลางปัตตานี เพื่อมาดำเนินการแก้ปัญหาคดีอีก 2 คดี ที่ติดค้าง เพื่อจะได้ส่งหนังสือ เข้าพิจารณาประชุมหลักเกณฑ์การพักโทษได้เพื่อให้หะยีดาโด๊ะ ท่าน้ำ สามารถออกจากเรือนจำ เพื่อมาใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป เพียงแต่ ต้องออกมาช่วยเหลือสังคม โดยร่วมมือกับรัฐ ในการสร้างสังคมสันติสุขให้เกิดขึ้น ในพื้นที่ให้ได้ โดยมีนางแวลีเป๊าะ มะเซ็ง น้องสะใภ้ และนายวาเอล มะเซ็ง หลานชาย ของหะยีดาโอ๊ะ ท่าน้ำ หรือ นายดาโอ๊ะ มะเซ็ง อายุ 58 ปี เดินทางมารับทราบถึงแนวทางหารดำเนินการ และความคืบหน้า การดำเนินการพักโทษของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมเพื่อปล่อยตัว หะยีดาโด๊ะ ท่าน้ำ ให้เป็นอิสระเป็นรายที่ 3 หลังถูกคุมขังมาเป็นเวลา 18 ปี หลังจากถูกพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตในข้อหาขบทต่อราชอณาจักร แบ่งแยกดินแดน และเป็นอดีตแกนนำพูโลใหม่
ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศของการพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้ ที่รัฐบาลไทยต้องสร้างกระบวนการเชื่อมั่น ต่อการดำเนินการนโยบายการพูดคุย ไม่ใช้ความรุนแรงระหว่างผู้มีความคิดต่างกับรัฐไทยในการดำเนินการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ที่มีมาอย่างยาวนานให้เป็นรูปธรรม จึงมีความพยายามที่จะดำเนินการปล่อยตัวแกนนำสำคัญที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ เพื่อหวังบุคคลเหล่าจะเป็นกลไกลที่สำคัญที่จะคอยทำหน้าที่ช่วยกันขับเคลื่อนกระบวนการสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้
เนื่องจากนายดาโอ๊ะ มะเซ็ง ยังมีคดีเก่าตามโรงพักในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงไม่สามารถสู่กระบวนการปล่อยตัวตามนโยบายการพักโทษปล่อยตัวได้เหมือนกรณี นายหะยีแวดือราแม บือโต วัย70 ปี และนายมะแอ สะอะ หรือยีแอท่าน้ำ วัย 63 ปี ที่ได้ปล่อยตัวเป็นอิสระก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเห็นแย้งจึงสั่งไม่ฟ้อง ทำ ให้ครอบครัวดีใจมาก คาดว่าคงใช้เวลาไม่นานจะต้องได้รับการปล่อยตัวตามแนวทางการพักโทษต่อไปอย่างแน่นอน น่าจะไม่เกินเดือนสิงหาคมนี้
สำหรับ หะยีดาโอ๊ะ ถูกคุมขังที่คุกคลองเปรม หรือเรือนจำพิเศษกรุงเทพ จากนั้นมาอยู่เรือนจำพิเศษบางขวาง กรุงเทพฯ ต่อมานายภาณุ อุทัยรัตน์ ในขณะดำรงตำแหน่ง ผอ.ศอ.บต.ได้ดำเนินการพลักดันให้สู่กระบวนการพักโทษ แต่เนื่องจากยังมีข้อกฎหมายที่ติดพันอยู่หลายส่วนจึงไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จ จึงมีการดำเนินการทำเรื่องเพื่อให้มีการย้ายผู้ต้องหาดังกล่าวมาควบคุมตัวที่เรือนจำกลางจังหวัดสงขลาแทน ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวก ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของญาติที่จะสามารถเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาดังกล่าว และสร้างความเชื่อมั่นได้ในระดับหนึ่ง
จากนั้นผู้ต้องหาดังกล่าวในสมัย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต.ได้ประสานดำเนินการขอย้ายตัวมาคุมขังที่เรือนจำกลางจังหวัดยะลาและจังหวัดปัตตานี เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ญาติที่จะต้องเดินทางไปเยี่ยมมาเป็นเวลา 3 ปี
พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ (ผบช.ศชต.) เผยว่า 11 ปีที่ผ่านมาบอมช้ำมามากแล้ว ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เกิดเหตุการณ์อย่างไม่ปกติสุข มาเรือนจำมาพบ หะยีดาโอ๊ะ เพราะเขาถูกจำมา18 ปี เขาลำบากทุกข์มามากพอแล้ว เขาอยากกลับใช้ชีวิตที่เหลือ ช่วยสังคมช่วยแก้ปัญหาชายแดนใต้ ช่วยราชการเพื่อให้สถานการณ์เบาบาง ลดความรุนแรง เพื่อให้เกิดความสงบสุข ซึ่งตรงกับนโยบาย นายกรัฐมนตรีปัจจุบัน
ทั้งนี้ พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ (ผบช.ศชต.ยังเผยอีกว่า ตามหมายปล่อยตัวจริง แต่ยังติดคดี ซึ่งจากการดูแล้วสามารถแก้ปัญหาได้ เพราะการดำเนินคดี ต่อไปไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เพราะผู้ต้องหาแก่แล้ว ต่อไป คงต้องมาดูคดี เพื่อสั่งสำนวนต่อไป ในส่วนอำนาจของผม มีความเห็นสั่งแย้ง จะปล่อยตัวให้เร็วที่สุด เพื่อให้ นายหะยีดาโอ๊ะ ออกมาช่วยและเดินเคียงตู่กับตำรวจในการแก้ปัญหาชายแดนใต้ให้สงบได้อีกทางหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี