จากปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันส่งผลกระทบกับหลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งเป็นวงกว้าง ถึงแม้ช่วงนี้จะมีฝนตกมาบ้างแล้วแต่ปริมาณน้ำที่ได้ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ที่ผ่านมาหลายหน่วยงานต่างร่วมมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งกรมพัฒนาที่ดิน ถือเป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กำกับดูแลเรื่องทรัพยากรดินทั่วประเทศ ได้ลงพื้นที่สำรวจดินทั่วประเทศและพบปัญหาของการทำการเกษตรหลายรูปแบบ ซึ่งในบางพื้นที่นั้นห่างไกลจากเขตชลประทาน หรือ แหล่งน้ำธรรมชาติ
ดร.อภิชาต จงสกุล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า กรมพัฒนาที่ดินได้มอบหมายให้สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด เข้ามาดูแลในส่วนของการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อชุมชนซึ่งเป็นแผนงานอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้วางเป้าหมายการดำเนินงานมาตั้งแต่ ปี 2527 โดยได้วางแผนการบริหารจัดการน้ำ 3 โครงการ คือ 1.โครงการแหล่งน้ำเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ 2.โครงการแหล่งน้ำชุมชน
3.โครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน
นายสมควร ณ ลำปาง ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินน่าน กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา จังหวัดน่าน เป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง สถานีพัฒนาที่ดินน่าน จึงได้นำแผนการบริหารจัดการน้ำทั้ง 3 โครงการของกรมฯ มาใช้ในการแก้ปัญหา เริ่มจากโครงการแรก คือ โครงการแหล่งน้ำเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ จะสนับสนุนให้กับทางชุมชน เช่น องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นได้ทำเรื่องส่งมาที่กรมฯหรือสถานีฯ โดยระบุว่าแหล่งน้ำในพื้นที่มีความตื้นเขิน มีวัชพืชขึ้น หรือ ต้องการให้ขุดขึ้นมาใหม่ ซึ่งกรมพัฒนาที่ดิน พร้อมที่จะสนับสนุนในด้านกระบวนการในการส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจ ออกแบบ เพื่อที่จะบรรจุเข้าแผนในการก่อสร้างต่อไป ส่วนโครงการที่ 2.โครงการแหล่งน้ำชุมชน จะมีการบริหารจัดการน้ำ โดยให้กลุ่มของเกษตรกรรวมกลุ่ม ซึ่งกรมฯ จะเข้าไปพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่และจากนั้นก็จะมีการส่งน้ำด้วยระบบท่อ เข้าไปในพื้นที่ของเกษตรกรที่อยู่ในโครงการ โดยกลุ่มของผู้ใช้น้ำหรือกลุ่มเกษตรกรต้องมีการตกลงภายในเรื่องของการเก็บค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการน้ำอย่างไร เนื่องจากโครงการนี้จะต้องมีการสูบน้ำ ซึ่งจะต้องใช้พลังงานจากไฟฟ้า หรือ น้ำมัน และโครงการที่ 3.โครงการแหล่งน้ำนอกเขตชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแนวคิดที่จะให้กรมพัฒนาที่ดิน สร้างแหล่งน้ำขนาดเล็กให้กับพี่น้องเกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทาน หรือที่มีชื่อเรียกว่า “โครงการบ่อจิ๋ว” ซึ่งมีขนาด 1,260 ลูกบาศก์เมตร โดยตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อปี 2527 ได้ขุดบ่อไปแล้วประมาณ 50,000 บ่อ โดยในปี 2558 นี้จะมีโครงการขุดบ่อเพิ่มอีก 20,000 บ่อ
ปัจจุบันจังหวัดน่านมีบ่อจิ๋วที่ใช้งานไปแล้วกว่า 141 บ่อ ซึ่งพื้นที่กว่า 12% หรือ 8 แสนไร่ของจังหวัดน่าน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทำการเกษตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาซึ่งมีความชันสูง การเกษตรทั้งหมดในพื้นที่นี้อาศัยน้ำฝนในการเพาะปลูกเป็นหลัก ซึ่งปัญหาของดินส่วนใหญ่มักจะเป็นในเรื่องของการชะล้างพังทลายของหน้าดิน และดินขาดความอุดมสมบูรณ์ กรมพัฒนาที่ดินจึงเข้ามาปรับปรุงบำรุงดินพร้อมทั้งช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่อาศัยน้ำฝนในการเพาะปลูกพืชเป็นหลัก ด้วยโครงการแหล่งน้ำนอกเขตชลประทาน
นายสมควร กล่าวอีกว่า เกษตรกรได้ตั้งกลุ่มผู้ใช้น้ำพร้อมทั้งกำหนดมาตรการแบ่งน้ำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่ส่วนใหญ่ ปลูกข้าว เป็นหลัก และหลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จแล้ว เกษตรกรก็จะปลูกข้าวโพด ยาสูบ หรือ พืชใช้น้ำน้อยชนิดอื่นๆ ในพื้นที่นา โดยโครงการบ่อจิ๋วนี้มีเกษตรนอกพื้นที่เขตชลประทาน ได้รับประโยชน์จากแหล่งน้ำ 2 หมื่นกว่าครัวเรือน โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาภัยแล้งที่กรมพัฒนาที่ดินได้บรรจุเข้าไปในแผนการทำงาน โดยมีความจุ 1,260 ลูกบาศก์เมตร และด้วยขนาดความจุที่มีจำกัดเกษตรกรจึงต้องมีการบริหารการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยที่ผ่านมาเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะใช้ประโยชน์จากบ่อจิ๋วในการตกกล้าเพื่อรอรับปริมาณน้ำฝนในการปลูกข้าวเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้หากเกษตรกรจะปลูกพืชชนิดอื่นก็จะดูปริมาณน้ำในบ่อว่า เหมาะสมที่จะปลูกพืชชนิดใดเพื่อไม่ให้กระทบกับการปลูกข้าวในฤดูถัดไป พร้อมทั้งอยากจะให้เกษตรกรใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยหรือพืชอายุสั้น หลังการทำนา ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เสริม หากเกษตรกรรายใดมีพื้นที่นาอยู่สูงก็สามารถปลูกพืชปุ๋ยพืชสดเพื่อขายได้ โดยกรมพัฒนาที่ดินจะส่งเสริมให้เกษตรกร ปลูกต้นปอเทือง โดยปอเทืองเป็นพืชตระกูลถั่วชนิดหนึ่งที่ใช้ในการปรับปรุงบำรุงดิน และใช้แทนการใส่ปุ๋ยเคมีได้อย่างดี เนื่องจากปอเทืองจะดึงไนโตรเจนที่มีอยู่ในอากาศมาสะสมไว้ที่ราก เมื่อเกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตของปอเทืองแล้ว ก็จะให้ผู้ใหญ่บ้าน หรือ ผู้นำชุมชนเป็นผู้รวบรวมส่งขายให้กับกรมพัฒนาที่ดิน หรือ สถานีพัฒนาที่ดินในพื้นที่นั้น
สำหรับโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน หรือ “โครงการบ่อจิ๋ว” หากเกษตรกรสนใจขอรับบริการจะต้องจ่ายเงินสมทบให้กับทางราชการ บ่อละ 2,500 บาท และส่วนต่างของค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทางราชการจะเป็นผู้ออกให้ทั้งหมด เกษตรกรสามารถเขียนคำร้องโดยผ่านหน่วยงานของกรมพัฒนาที่ดิน หรือ ฝากเรื่องให้กับ หมอดินอาสา ซึ่งจะนำมารวบรวมคำร้องทั้งหมดเพื่อวางแผนการจัดการและจัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างต่อไป เกษตรกรสามารถติดต่อสอบถามได้หลายช่องทาง เช่น หมอดินอาสา เจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาที่ดิน หรือ ทางเว็บไซต์ http://www.ldd.go.th หรือ หมายเลข 1760 ตลอด 24 ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี