ฮึ่มสั่งปิดกิจการ
บ่อลูกรัง‘ท่าม่วง’
ลักไก่แอบทิ้งขยะ
ต้นน้ำ‘แควน้อย’
เมื่อบ่ายวันที่ 3 สิงหาคม นายจำรัส กังน้อย นายอำเภอท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ท.ชูพงษ์ สายอุบล ผบ.ร.9 พัน 3 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พ.ต.ท.สรรเสริญ ศิริพันธุ์ สว.กก.5.กองบังคับการปราบปรามการ กระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ปทส.)นายวิวรรธน์ มองเห็นทวีโชค หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 13 กรมป่าไม้ นายบรรพต พุ่มน้ำเย็น หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.10 (ห้วยน้ำขาว) ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี นายน้อม บุญปองหา รองนายก อบต.หนองตากยา พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ตำบลหนองตากยา ลงตรวจสอบพื้นที่พิสูจน์ความจริงเกี่ยกับ บ่อขยะ ใน ต.หนองตากยา อ.ท่าม่วง หลังแล้วเสร็จการประชุมที่ องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) หนองตากยาต่อประเด็นการร้องเรียนของชาวบ้าน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 หาคม ชาวบ้าน ต.หนองตากยาง นำสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ขุดตัก ดินลูกรัง หิน ทราย ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เนื้อที่กว่า 80 ไร่ ที่มีนายทุนชาวจังหวัดราชบุรี เป็นเจ้าของ แต่พื้นที่ดังกล่าวกลับนำขยะจำนวนมหาศาลมาทิ้งลักษณะฝังกลบ ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณ มาหนหนึ่งแล้ว
โดยชาวบ้านทั้งหมดเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือใน 3 ประเด็น คือ 1. ชาวบ้านต้องการให้เปิดเวทีแสดงความคิดเห็น 2. ขอให้หยุดการนำขยะมาทิ้งโดยเด็ดขาด 3. ทางบริษัทที่นำขยะมาทิ้งต้องทำการปรับปรุงบูรณะพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้กลับมาดังเดิม
ผู้สื้อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่บ่อขยะดังกล่าวที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.หนองตากยา ที่อยู่ห่างจาก อบต.หนองตากยาประมาณ 12 กิโลเมตร ซึ่งการเข้าไปตรวจสอบโดยคณะของเจ้าหน้าที่ภาครัฐหนนี้ ต้องขับรถไปตามชายป่าและเชิงเขา และ พบว่าพื้นที่ดังกล่าวล้อมรอบไปด้วยป่าไม้ติดกับเชิงเขา มีเนื้อที่ 2 แปลง มีลำห้วยธรรมชาติขั้นกลางเอาไว้ ซึ่งมองเห็นได้ว่า พื้นที่ทั้ง 2 แปลงมีกองขยะกระจัดกระจายไปทั่ว โดยขยะไม่ได้มีการคัดแยกก่อนนำมาฝังกลบแต่อย่างใด มีคนนำรถแม็กโฮ จำนวน 1 คัน ฝังกลบขยะอยู่ตามปกติ
นายจำรัส กังน้อย นอภ.ท่าม่วง เปิดเผยภายหลังตรวจสอบว่า มาตรวจตามที่ชาวบ้านร้องเรียน หลังจากตรวจสอบแล้วเสร็จ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาของแต่ละหน่วยงานได้ทราบตามลำดับชั้น
และอธิบายว่า สำหรับการสำรวจพื้นที่เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และกรมที่ดิน จากการประชุมทราบจากเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดว่า ได้มอบอำนาจให้ทาง อบต.เป็นผู้ดำเนินการพิจารณาออกใบอนุญาตให้ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎของอุตสาหกรรมที่กำหนดเอาไว้เท่านั้น สำหรับปัญหามลพิษทางกลิ่น เป็นหน้าที่ของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีหน้าที่รับผิดชอบที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการจะพิจารณาให้บริษัทดังกล่าวหยุดกิจการ ทุกหน่วยงานจะต้องมาสรุปและตัดสินใจดำเนินขั้นตอนตามหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน
ด้าน พ.ท.ชูพงษ์ สายอุบล ผบ.ร.9 พัน 3 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ กล่าวว่า หากประชาชนไม่เดือดร้อนจริงก็คงไม่ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ลงมาตรวจสอบ ซึ่งจะต้องพิจารณาว่าทางบริษัทได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ ประชาชนเองก็ต้องให้โอกาสกับทางเจ้าของบริษัทด้วย นี่คือขั้นตอนของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่จากการที่ได้ไปตรวจสอบพื้นที่จริง ตนจะได้เสนอให้ทาง อบต.หนองตากยา ที่เป็นผู้อนุญาตให้ยกเลิก และสั่งให้บริษัทหยุดกิจการเอาไว้ก่อน จนกว่าจะแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านได้ ซึ่งในเรื่องนี้ตนจะได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นต่อไป
นายน้อม บุญปองหา รองนายก อบต.หนองตากยา กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่ทหารที่เสนอให้ผู้ประกอบการหยุดกิจการในทันที แต่จะให้สั่งการภายในวันนี้คงจะไม่ทัน เพราะต้องรวบรวมเอกสารให้เสร็จเสียก่อน และจะได้ไปคุยนอกรอบกับผู้ประกอบอีกครั้งหนึ่ง โดยจะให้ผู้ประกอบการหยุดดำเนินแก้ไขปัญหาของกลิ่นให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ถึง 15 วัน หากผู้ประกอบไม่สามารถทำได้ จำเป็นจะต้องไม่อนุญาตให้ดำเนินการต่อไป
พ.ต.ท.สรรเสริญ ศิริพันธุ์ สว.กก.5.บก.ปทส.กล่าวว่า จากการตรวจพื้นที่เบื้องต้น พบว่าผืนป่าดังกล่าวเป็นผืนป่าต้นน้ำ สำหรับที่ดินจำนวน 80 ไร่ อยู่ติดกับลำคลองธรรมชาติที่รองรับน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขา หากมีขยะหรือสารพิษไหลลงสู่ลำคลองดังกล่าวก็จะกระทบต่อประชาชนที่ใช้น้ำในการอุปโภค-บริโภคอย่างแน่นอน ซึ่งตนจะรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยด่วนต่อไป
ในขณะที่ นายวิวรรธน์ มองเห็นทวีโชค หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ 13 (กรมป่าไม้) กล่าวว่า หลังจากที่เป็นข่าวตามสื่อต่างๆ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ อธิบดีกรมป่าไม้ ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเป็นอย่างมาก จึงเร่งสั่งการให้ตนและเจ้าหน้าที่เดินทางมาสำรวจรังวัดที่ดินทั้งหมด ว่าอยู่ในพื้นที่ใด โดยการรังวัดที่ดินจะร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อตรวจวัดหาพิกัดโดยรอบพื้นที่ทั้ง 2 แปลง หากพบตรวจสอบแล้วพบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพระราชกฤษฎีกา 2481 ก็จะต้องตรวจสอบกันต่อไปว่า ที่ดินทั้ง 2 แปลง ออกเอกสารสิทธิ์ใบ นส.3.ก มาได้อย่างไร
ด้านนายชัยยศ เฉียมวิเชียร ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า การที่ชาวบ้านร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เราไม่ต้องการแค่ให้ทางบริษัทแก้ไขปัญหาเรื่องของกลิ่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ชาวบ้านทั้งหมดต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดำเนินการสั่งการให้ทางผู้ประกอบการหยุดกิจการโดยทันที เพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำที่สำคัญของคนในพื้นที่ โดยน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขา ไม่เพียงแต่จะไหลลงลำคลองธรรมชาติที่ชาวบ้านใช้อุปโภค-บริโภคเท่านั้น แต่น้ำยังไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อยที่บริเวณ ตำบลยางเกาะ อ.ด่านมะขามเตี้ยอีกด้วย และหากผู้ประกอบการยังดำเนินกิจการอยู่เชื่อว่าในอนาคตข้างหน้าผืนป่าต้นน้ำแห่งนี้จะต้องได้รับความหายนะอย่างแน่นอน
ขณะที่ศักดิ์ชัย ไวคกุล ผู้ประกอบการ กล่าวว่า ตนพร้อมด้วยหุ้นส่วยยินดีที่จะปฏิบัติตามคำเรียกร้องของชาวบ้านทุกอย่าง แต่ถ้าหากทางหน่วยงานรัฐ พิจารณาสั่งให้หยุดกิจการ พวกตนก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม เพราะพวกตนอยู่ใต้กฎหมายอยู่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี