เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ผู้สื่อข่าว จ.นครสวรรค์ รับแจ้งจากพลเมืองดี พบหญิงชราป่วยเป็นอัมพฤกษ์มากว่า 9 ปี รอธารน้ำใจช่วยเหลือที่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 13 ต.วัดไทรย์ อ.เมืองนครสวรรค์จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนางสัมฤทธิ์ อยู่สนิท วัย 89 ปี นอนป่วยเป็นอัมพฤกษ์บนเตียงคนป่วย มีนางเครือวัลย์ อยู่สนิท อายุ 43 ปี ลูกสาวเป็นคนดูแล
นางเครือวัลย์เผยว่า ตนมีพี่น้อง 11 คน เสียชีวิตแล้ว 7 คน ตนและพี่ชายอยู่บ้านเดียวกับแม่รวม 3 คน แม่ป่วยเป็นความดันโลหิตสูงและเบาหวาน เมื่อ 9 ปีที่แล้ว แม่ลื่นล้มหัวน็อกพื้น จึงกลายเป็นอัมพฤกษ์ ส่วนพี่ชายชื่อ นายวัลลภ อยู่สนิท อายุ 57 ปี ป่วยเป็นโรคระบบประสาท ไม่สามารถประกอบอาชีพหรือช่วยเหลืออะไรได้
ส่วนตนมีอาชีพเป็นแม่บ้านที่สนามฟุตบอลแห่งหนึ่ง ได้ค่าจ้างวันละ 200 บาท หลังเลิกงานต้องรีบมาดูแลแม่ทั้งอาบน้ำป้อนข้าว บางคืนมีงานรับจ้างล้างจานตั้งแต่ 19.00-21.00 น. ได้ค่างจ้างครั้งละ 100 บาท เงินที่ได้ทั้งหมดจะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายรายเดือน ทั้งค่าส่งรถจักรยานยนต์เดือนละ 650 บาท ตอนนี้เงินไม่พอไม่ได้ส่งค่างวดมา 3 งวดแล้ว จ่ายค่าเงินกู้ยืมธนาคารออมสิน 23,000 บาท ต้องจ่ายเดือนละ 500 บาท ซึ่งเงินนี้กู้ไปลงทุนขายของโชห่วยแต่ถูกโกง ค่าน้ำค่าไฟเดือนละ 1,000 บาท เงินที่เหลือแบ่งเป็นค่าอาหารของแม่ ค่าผ้าอ้อม อีกส่วนเป็นค่าอาหารของตนกับพี่ชาย จึงอยากขอความเห็นใจจากผู้ใจบุญช่วยเหลือค่าใช้จ่ายประทังชีวิต และดูแลแม่ช่วงที่มีชีวิตอยู่ให้ดีที่สุด โดยโอนเงินมาได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาถนนมาตุลี เลขที่ 642-0-11531-0 ชื่อบัญชี นางเครือวัลย์ อยู่สนิท หรือโทร.095-951-2263
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวจ.ราชบุรีรายงานเรื่องราวรันทดของคุณยายวัย 67 ปี อาศัยอยู่ในบ้านเก่าทรุดโทรมมากตามลำพัง หลังรับทราบเรื่องจากชาวบ้านใกล้เคียง จึงเดินทางไปบ้านเลขที่ 7 ต.บางป่า อ.เมือง จ.ราชบุรี และได้พบกับนางบุญรอด ช่วงสุวรรณ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า จากสภาพบ้านที่พบ แทบไม่น่าเชื่อว่ายังอยู่อาศัยได้ โดยเป็นบ้านไม้มีเสายกพื้นสภาพเก่าแก่ ทรุดโทรมมาก หลังคาเปิดเป็นช่องโหว่ ฝาผนังบ้านผุพังเป็นแถบ บันไดบ้านก็ผุต้องใช้ไม้ไผ่มาวางเรียงกัน โดยไม่มีตะปูหรือเชือกยึดติดให้แน่นหนา เสาบ้านแต่ละต้นถูกปลวกกินจนผุแทบทุกต้น ดูแล้วน่าเป็นห่วงว่าถ้าเกิดพายุขึ้นมาจะต้านแรงลมได้หรือไม่ สภาพการอยู่อาศัยเป็นไปด้วยความยากลำบาก
สอบถามนางบุญรอดทราบว่า บ้านหลังนี้สร้างมานานกว่า 40 ปี สภาพจึงผุพังอย่างที่เห็น ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่กัน 3 พี่น้อง ตนเป็นคนที่ 2 แต่ตอนนี้อยู่คนเดียว เพราะพี่น้องมีครอบครัวไปกันหมดแล้ว และจากที่เคยเลี้ยงสุนัขไว้หลายตัว ก็ถูกวางยาเบื่อตายหมดเหลืออยู่ตัวเดียวเป็นเพื่อน ความเป็นอยู่ทุกวันนี้ ตนรับจ้างถอนหญ้าที่ไร่ใกล้เคียง ได้ค่าแรงวันละ 100 บาท ก็พอกินพอใช้ถ้ารู้จักประหยัด แต่ตอนนี้อยากซ่อมบ้านที่อยู่อาศัย เพราะบ้านจะผุพังหมดแล้ว โดยเฉพาะหลังคาบ้านเหลือสังกะสีไม่กี่แผ่น เป็นรูโหว่ มีแต่สนิม และเคยบาดคอตัวเองช่วงที่ขึ้นไปซ่อมแซมเอง ไม่มีที่หลบแดดหลบฝน
นางบุญรอดกล่าวต่อว่า เมื่อก่อนเคยมีห้องน้ำอยู่บนบ้าน ขณะนี้เหลือเพียงโถส้วมที่ใช้การไม่ได้ เพราะพื้นกระดานและผนังห้องน้ำผุพังหมดแล้ว เวลาขับถ่ายก็ต้องไปหาขุดหลุมในป่าใกล้บ้าน การหุงข้าวก็ลำบาก เพราะยังใช้เตาไม้ฟืน เกรงไฟไหม้ เพราะบนบ้านเป็นไม้ทั้งหมด อีกทั้ง การขึ้นลงบ้านที่มีเพียงกระดานไม้ที่ใช้ไม้ไผ่สานก็ผุพัง เป็นรูเป็นช่อง เวลาเดินขึ้นลง ต้องค่อยๆย่อง ด้วยความระมัดระวัง เกรงจะตกบันได
“บางวันมีผู้ชายไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน ขึ้นไปบนบ้านรื้อค้นสิ่งของ ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะที่บ้านไม่มีประตู หน้าต่างและผนังบ้าน ใครเข้าออกได้ตลอดเวลา จึงอยากซ่อมบ้านให้ดีกว่านี้ รวมทั้งมีห้องสุขา จะได้ไม่ต้องไปขุดหลุมปลดทุกข์เหมือนทุกวันนี้”นางบุญรอดกล่าว
วันเดียวกันนี้ พ.อ.เอกธนา เสนนานนท์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดราชบุรี (รอง ผอ.รมน.รบ.) พร้อมนายวินัย ดำรงค์หัต กำนันตำบลบางป่า นายสำราญ เปาวสาร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 เข้าตรวจสอบความป็นอยู่ของนางบุญรอด เพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้นต่อไป
สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่จะส่งธารน้ำใจช่วยเหลือนางบุญรอดซ่อมแซมบ้าน โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาราชบุรี ประเภทบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เลขที่ 020054655260 หากต้องการสอบถามรายละเอียดติดต่อได้ที่นายวินัย ดำรงค์หัต กำนันตำบลบางป่า หมายเลข 087 – 1642473
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี