เร่งหาตัวเด็ก‘ชูวงษ์’
ตร.ผวาถูก‘ตัดตอน’
ญาติร้องแพทยสภา
สอบผลชันสูตรศพ
ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับหมื่นล้าน ซึ่งยังเป็นปริศนาอยู่ว่าเป็นการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจริงหรือไม่ รวมทั้งยังพบความไม่ชอบมาพากลในการโอนหุ้นมูลค่ากว่า 300 บาท ไปให้บุคคลอื่นก่อนที่ นายชูวงษ์ จะเสียชีวิตไม่กี่วัน
โดยเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม มีรายงานข่าวจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ว่า ชุดสืบสวนกำลังติดตามตัวกลุ่มบุคคลที่เข้าข่ายรู้เห็นการโอนหุ้นของ นายชูวงษ์ โดยเฉพาะการขาดการติดต่อของ น.ส.กัณฐณา ศิวธนพล พริตตี้สาว ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รับโอนหุ้นที่ขาดการติดต่อนานกว่า 1 สัปดาห์ โดยทาง ผบ.ตร เน้นย้ำสั่งการให้ติดตามตัวมาโดยเร็ว เพื่อความปลอดภัย และเกรงว่า อาจมีการทำลายวัตถุพยาน พยานบุคคล และพยานหลักฐาน โดยมีความเป็นห่วง นางสาวกัณฐณา เป็นอย่างมาก หวั่นได้รับอันตราย จากผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พยายามติดต่อ น.ส.กัณฐณา ทางโทรศัพท์มือถือที่ให้ไว้ และส่งชุดติดตามไปที่บ้าน รวมถึงเพื่อนสนิท แต่ไม่พบ จึงต้องประสานผ่านทางทนายความของ น.ส.กัณฐณา ให้มาพบตำรวจเพื่อสอบถามประเด็นเพิ่มเติม
ส่วนประเด็นการออกหมายจับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นทั้งหมด ทราบว่า สัปดาห์หน้าจะขออำนาจศาลออกหมายจับ ซึ่งมีประมาณ 2 - 3 คน ส่วนกระแสข่าวว่า หุ้นของ นายชูวงษ์ ที่โอนนั้น เป็นหุ้นนอมินีของพักการเมือง ที่เตรียมจะไปจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ขณะนี้หลักฐานยังไม่เชื่อมโยงถึง
อย่างไรก็ตามคดีนี้ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด โดยเฉพาะผลการตรวจเอกสารการทำธุรกรรม คลิปเสียงในการสนทนา รวมทั้งการตรวจคอมพิวเตอร์ หลังจากที่ตรวจยึดมาได้จากบริษัทหลักทรัพย์ เออีซีเอส จำกัด (มหาชน) และบริษัทสแตนดาร์ด เพอร์ฟอแมนซ์ จำกัด คาดว่าสัปดาห์นี้น่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
วันเดียวกัน นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ พี่สาว นายชูวงษ์ ได้เดินทางไปยังแพทยสภาเพื่อยื่นหนังสือร้องขอให้มีการตรวจสอบผลการชันสูตรศพ นายชูวงษ์ โดย นางวันเพ็ญ กล่าวว่า ที่ต้องให้แพทยสภาช่วยตรวจสอบเพราะ เอกสารผลการชันสูตรที่ได้รับจาก สน.อุดมสุข ท้องที่เกิดเหตุ และสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ แตกต่างกัน โดยข้อมูลการบาดเจ็บหายไป 1 ข้อ คือ แผลบวมช้ำที่ศีรษะด้านขวาขนาด 5×4 ซม. ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่มีผลต่อรูปคดี นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังพบว่า รูปถ่ายในที่เกิดเหตุของสถาบันนิติเวชมีแค่ 2 ใบ แตกต่างจากที่ญาติมี จึงขอให้แพทยสภาตรวจสอบด้วยว่าตามมาตรฐานของสถาบันนิติเวชแล้วการมีรูปถ่ายเพียง 2 ใบเป็นไปได้หรือไม่
นางวันเพ็ญ กล่าวต่อว่า จะยื่นเรื่องไปยังสำนักงานใหญ่ บริษัทโตโยตามอเตอร์แห่งประเทศไทย และสำนักงานใหญ่ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อขอให้ตรวจสอบว่าด้วยมาตรฐานของรถยนต์ในสังกัดกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เสียชีวิตได้จริงๆ หรือไม่ เพราะเรื่องนี้เคยมีตัวอย่างมาแล้วในคดีของครอบครัวศรีธนะขัณฑ์ ที่พบว่าสถาบันนิติเวชปลอมใบนิติเวช แต่บริษัทเบนซ์ลงมาตรวจสอบภายในหลังเรื่องมาตรฐานของรถกับลักษณะการเกิดอุบัติเหตุแล้วพบว่าไม่ได้เป็นการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ส่งผลให้คดีพลิกตามมา
ด้าน นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยานายชูวงษ์ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่านายชูวงษ์จะโอนหุ้นให้กับพริตตี้สาว2คน เพราะไม่ใช่นิสัยของนายชูวงษ์ ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาเรื่องชู้สาว เป็นคนรักครอบครัว มั่นใจในตัวสามี วันนี้จึงทำทุกอย่างเพื่อทวงศักดิ์ศรี และความเป็นธรรมให้กับนายชูวงษ์
ขณะที่ นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า ได้ส่งเรื่องที่ญาติของนายชูวงษ์สงสัยไปให้ราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย ให้ดำเนินการโดยเร็ว อย่างไรก็ตามแพทยสภาจะไม่เข้าไปยุ่งกับรูปคดี แต่จะให้ความเป็นธรรมทางด้านการแพทย์
เบื้องต้นต้องตรวจสอบเอกสารว่าเอกสารชุดใดเป็นของจริง เพราะข้อมูลเหล่านี้ถ้าไม่ครบถ้วนจะมีผลต่อการพิจาณณา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เปรียบเหมือนกับเวชระเบียนที่เป็นไปไม่ได้ที่จะมีข้อมูลหายไป1ข้อ ดังนั้นจะส่งเรื่องให้กับอนุกรรมการจริยธรรมพิจารณาเรื่องนี้ด้วย ถ้ามีมูลว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารก็จะตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรมแพทย์อีกครั้งหนึ่ง และอาจเป็นไปได้ที่อนุกรรมการจะทำหนังสือไปถึงบริษัทโตโยตา ขอให้ลงมาตรวจสอบเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา
“ถ้าพบว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารจริงๆ ก็จะมีบทลงโทษไปตามขั้นตอนตั้งแต่การตักเตือน พักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ อย่างกรณีการปลอมเอกสารในคดีของครอบครัวศรีธนะขัณฑ์ก็มีการพักใช้ใบอนุญาตแพทย์ที่กระทำผิดไปแล้ว“นพ.สมศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี