ต้องบอกว่าไม่ผิดความคาดหมายที่ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” เลือก “พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ” ที่เคยดูแลกระทรวงเกษตรฯหลังการปฏิวัติมาระยะหนึ่ง มานำทัพแก้ปัญหาภาคการเกษตรฯที่มีแนวโน้มว่า หากปล่อยไปเนิ่นนานอาจมีปัญหาบานปลายเพราะโจทย์ที่ท่านนายกรัฐมนตรี ตั้ง ให้ รมว. “ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา” ที่เป็นถึงอดีตปลัด เข้ามาแก้ปัญหาปากท้องเกษตรกร และเดินหน้าแก้ปัญหาในการสะสาง ปัญหาภายในกระทรวงเกษตรเพื่อวางแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ก่อน จะปล่อยมือ ให้กับนักการเมือง หลังการเลือกตั้ง
นั่นหมายถึงเมื่อวางระบบเสร็จสิ้น ใครจะมาสางงานต่อ ก็คงจะต้องเดินหน้าตามแนวทางที่ “ท่านรัฐมนตรีปีติพงศ์” วางเอาไว้เพราะเข้าใจเอาว่าท่านรู้เรื่อง ภายในกระทรวงเกษตรเป็นอย่างดี แต่แล้วการเดินหน้า ในการแก้ปัญหา ทั้งปัญหาเฉพาะหน้าอย่าง ปัญหาราคาสินค้า อย่าง “ปัญหาราคายางพารา” และ “ปาล์มน้ำมัน” ก็ไม่ได้เป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะเรื่องยางพาราที่ท่านรัฐมนตรี “ปีติพงศ์” ให้เกียรติ “อำนวย ปะติเส” ที่ก่อนหน้านี้มีแต่คนนับถือว่าเป็นมือหนึ่งที่เกษตรกรให้ความเคารพ แต่แล้วก็ทำงานแบบงึกๆ งักๆ สมวัย แถมยังคิดแบบประหลาดในการเอามูลภัณฑ์กันชนมาแก้ปัญหาราคายาง โดยอ้างว่าการซื้อนำราคาพ่อค้าจะซื้อตาม สุดท้ายพ่อค้าไม่ซื้อตาม แถมยังเอายางมาขายในโรงการเล่นเอาพ่อค้ารวยไปตามๆ กัน
ถึงวันนี้ยังมีการตั้งคำถามไล่หลังว่า เกือบ 1 ปี ที่อยู่ในตำแหน่ง เรื่องยางใครได้ประโยชน์กันแน่ เพราะเรื่องการส่งออกยางพารากับเอกชนจีนที่บอกว่า สัญญารัดกุมนักหนา วันนี้จากสัญญาที่ลงนาม ไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 ขายยางเก่า 2.1 แสนตัน ในสัญญาเอกชนจีนต้องรับยางไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นตันภายใน 10 เดือน ซึ่งไม่รวมยางใหม่ที่ซื้อมาเก็บอีกกว่า 2 แสนตัน แต่เวลานี้ไทยส่งออกยางไม่ถึง 5 ตัน มันเกิดอะไรขึ้น นั้นไม่รวมถึงปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน ที่ยังมีปัญหา อยู่ในขณะนี้
นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของการวางระบบในการเดินหน้าจัดกระบวนทัพส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรแบบที่ดินแปลงใหญ่ ซึ่งตามแนวทาง ท่านรัฐมนตรี “ปีติพงศ์” คิดเอาไว้ว่าอยากเห็นการส่งเสริมการผลิตสินค้าแบบแปลงใหญ่ ที่ มีการจัดโซนพื้นที่เพาะปลูกพืชให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้าว ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน ถั่วเหลือง และอื่นๆ เพื่อให้ง่ายต่อการ ส่งเสริมและช่วยเหลือ อย่างเป็นระบบที่สำคัญสามารถชี้วัดความสำเร็จได้ โดยจะต้องมีพื้นที่นำร่องก่อนขยายไปในพื้นที่อื่นๆ ตามความเหมาะสม นั้นหมายถึงจากนี้ไป หากพื้นที่ไหน เหมาะสมจะปลูกอะไร ก็จะส่งเสริมให้ปลูกตามศักยภาพของแต่ละพื้นที่ ส่วนพื้นที่ไหนที่ไม่เหมาะอาจต้องปรับเปลี่ยน โดยอาจจะยึดแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้อย่างยั่งยืน และสุดท้ายก็ไม่ได้ตามที่วางนโยบายเอาไว้ เพราะไม่ได้รับความร่วมมือจากข้าราชการกระทรวงเกษตรเท่าที่ควรจะเป็น โดยปัญหาส่วนหนึ่งที่คาดไม่ถึงคือการเลือกตัวทีมงานที่ปรึกษาบางคนของท่านรัฐมนตรี “ปีติพงศ์” ที่มีความขัดแย้งรุนแรงกับข้าราชการที่ระอาในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จนสุดท้าย จึงเกิดการต่อต้านอย่างรุนแรงด้วยการเกียร์ว่าง จนท่าน“ปีติพงศ์” บ่นท้อใจ ที่สั่งงานแล้วเงียบเฉย
จากนี้ไปเมื่อปลาเปลี่ยนน้ำใหม่ ที่มี “พลเอกฉัตรชัย” เข้ามาเป็นหัวโต๊ะสางปัญหาภาคการเกษตร ต้องลองดูสักตั้งว่าจะเดินหน้าวางระบบในการแก้ปัญหาภาคการเกษตรได้มากน้อยขนาดไหน และจะมีการจัดกระบวนทัพใหม่อย่างไร เพราะจากนี้ไป มีปัญหาที่จะต้องที่เป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่องคือปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาภัยแล้งที่กำลังจะมาถึงในอีก ไม่นานในขณะที่เรื่องเดิมๆทั้งปัญหาปากท้อง ปัญหาสินค้าเกษตร ปัญหาที่ดินทำกิน จากวันที่ตั้งรัฐบาล “ประยุทธ์ 1” มาถึงรัฐบบาล “ประยุทธ์ 2” งานแทบจะไม่คืบหน้า
สุดท้ายคงต้องรอพิสูจน์ฝีมือของ ผู้นำทัพอย่าง “พลเอกฉัตรชัย” ว่าจะแน่แค่ไหน โดยเรื่องแรกที่ ท่าน รมว. “ปีติพงศ์” ทิ้งเอาไว้ คือ การเลือกคนทำงาน เพราะที่มีข้าราชการระดับอธิบดีทิ้งเอาไว้ให้คัดเลือกคนทำงานเองกว่า 7 ตำแหน่งจากการเกษียน อายุราชการ แถมยังมีคนที่รัฐมนตรี “ปีติพงศ์” หมายหัวเอาไว้ว่าทำงานไม่เข้าตาที่จะโดนปรับอีกกว่า 4 ตำแหน่ง แต่ถูกโหวตจาก รมว.เกษตรฯเสียก่อน ซึ่งจากนี้ไป ท่านคงต้องเลือกเองว่าจะเลือก “ม้าพยศ” ไว้ลงแข่งหรือ “ม้าแกลบ” ในเข่งที่นักการเมืองสายเก่าวางไว้ งานต้องคิดให้ดี เพราะแต่ละคน “ก้มไม่ลง” (เขี้ยวลากดิน) แทบทั้งสิ้น มิฉะนั้น อาจโหวตออกเป็นรายต่อไป
ราชดำเนิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี