25 ส.ค.58 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีดีเอสไอ , พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 และ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีดีเอสไอขอหมายตรวจค้นจากศาลอาญา นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ที่อยู่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 7 แห่ง ซึ่งพบสัญญากู้ยืมและสำนาเช็คสั่งจ่าย พระเทพญาณมหามุนี เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หรือพระธัมมชโย และหลักฐานเงินทดรองจ่ายโดย นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตผู้บริหารสหกรณ์คลองจั่นฯ
พ.ต.ท.ปกรณ์ กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ทำให้พบหลักฐานเส้นทางการรับเงินของวัดพระธรรมกาย รับเช็ค 10 ฉบับ รวมเป็นเงิน 642 ล้านบาท พระเทพญาณมหามุนี รับเช็ค 8 ฉบับ รวมเป็นเงิน 431 ล้านบาท และมูลนิธิรัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง รับเช็ค 5 ฉบับ รวมเป็นเงิน 143 ล้านบาท โดยรวมเช็คทั้งหมด 23 ฉบับ รวมเป็นเงิน 1,216 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นยอดจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากเดิมครั้งก่อนพบยอดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย เพียงจำนวน 600 ล้านบาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้มีการดำเนินคดีพิเศษอยู่ 3 คดี คือ คดีพิเศษที่ 146/2556 คดีพิเศษที่ 63/2557และคดีพิเศษที่ 64/2557 ซึ่งดีเอสไอได้สรุปสำนวนคดีส่งให้พนักงานอัยการแล้ว 2 สำนวน คือ คดีพิเศษที่ 146/2556 และคดีพิเศษที่ 64/2557
นางสุวณา กล่าวว่า ดีเอสไอเตรียมเข้าแจ้งความกับ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีกับพระ จำนวน 3 รูป ซึ่งเป็นผู้ที่รับเช็ค ประกอบด้วย เจ้าอาวาสวัดกิ่วลม เจ้าอาวาสวัดแม่สะนาม และเจ้าอาวาสวัดบ้านขุน ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ภายหลังจากเจ้าอาวาสทั้ง 3 รูป ถูกออกหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่มาโดยไม่แจ้งเหตุอันควร ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการทางคดีตามกฎหมายต่อไป โดยถือว่าพระทั้ง 3 รูป ไม่ประสงค์ที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง
พ.ต.ท.สมบูรณ์ กล่าวว่า ในส่วนความคืบหน้าของคดีพิเศษที่ 63/2557 หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะตรวจเอกสารที่ตรวจค้นได้ พร้อมทั้งเรียกผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมารับทราบข้อกล่าวหา ในวันที่ 3 - 5 ก.ย.นี้ จะมีการเรียกเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด จำนวน 10 - 13 คน ซึ่งมีส่วนร่วมหรือสนับสนุนการกระทำความผิดมารับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากพบมูลความผิดเกิดขึ้นจากการทำรายงานประจำปีอันเป็นเท็จ ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบทางบัญชีพบว่าในระยะเวลาตั้งแต่ปี 2551 - 2555 ทางสหกรณ์ฯ คลองจั่น ขาดทุนมาโดยตลอด แต่สหกรณ์ฯ คลองจั่น ก็ยังจ่ายเงินปันผลร้อยละ 10 ให้กับสมาชิกได้ เป็นเหตุให้สมาชิกหลงเชื่อเข้าใจผิดเกี่ยวสถานะของสหกรณ์ฯ คลองจั่น ซึ่งเป็นที่มาการทำสัญญาเงินกู้ปลอม และสนับสนุน ให้นายศุภชัย สามารถสั่งจ่ายเงินจากบัญชีสหกรณ์ฯ โดยมิชอบได้
พ.ต.ท.ปกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการตรวจสอบสั่งจ่ายเช็ค จำนวน 878 ฉบับ ว่า ภายในสัปดาห์นี้จะส่งสรุปสำนวนเกี่ยวกับเช็คจำนวนกว่า 100 ฉบับ ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นเช็คพระรับบริจาคซึ่งไม่มีมูลหนี้กับสหกรณ์ฯ แต่อย่างใด โดยจะสรุปส่งให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องคดีต่อไป อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้สรุปส่งรายละเอียดเกี่ยวกับเช็คกว่า 200 ฉบับ ซึ่งเป็นเช็คที่มีมูลหนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี