26 ส.ค.58 นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัญหาเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะชะลอตัว จากปัจจัยทั้งภายในและต่างประเทศ จึงต้องเร่งรัดส่งเสริมภาคเกษตรให้ดีขึ้น โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้ทุ่มเงิน 1.44 ล้านล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างภาคเกษตรใน 8 ด้านสำคัญ เน้นโครงการร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน ให้มากขึ้นในทุกระดับ เน้นการพึ่งพาตนเอง เร่งพัฒนาผลิตสินค้าเกษตรเพื่อสามารถทดแทนการนำเข้า เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เน้นพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรปลายน้ำ เช่น การแปรรูปสินค้าเกษตร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
เน้นผลักดันส่งเสริมเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมเกษตรรูปแบบใหม่ๆ รวมถึงเทคโนโลยีที่ได้รับการวิจัยแล้ว เช่น นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีชีวภาพ อย่างการทำการเกษตรภายในอาคาร การเกษตรกลางแจ้งรูปแบบใหม่ เน้นส่งเสริมการปลูกพืชรองแซมพืชหลัก เช่น สวนยางพารา ควรเสริมพืชล้มลุกทั้งหลายก่อนที่ยางพาราจะให้ผลผลิต เช่น พริกไทย แตงโม ถั่วต่างๆ หรือสับปะรด เพื่อเป็นการเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกร เน้นส่งเสริมการปลูกพืชแบบหลายชนิด หรือการปลูกพืชมากกว่า 1 ชนิดขึ้นไป ในพื้นที่เดียวกันในรอบปี เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงด้านรายได้และราคา เน้นสินค้าเกษตรสำหรับการบริโภคภายในประเทศให้เพียงพอมากขึ้น เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ประเทศไทย เช่น ปลูกกล้วย พืชผักต่างๆ ให้เพียงพอกับการบริโภคภายในประเทศ เพื่อรองรับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
และสุดท้าย เน้นสินค้าเกษตรเข้าสู่ยุค "คุณภาพและคุณธรรม" โดยเกษตรกรผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ผู้ผลิตหรือผู้แปรรูปต้องรับซื้อผลผลิตอย่างมีคุณธรรม เพื่อนำไปแปรรูปได้สินค้าที่มีคุณภาพ ทำให้ผู้บริโภคและตลาดต่างประเทศเกิดความเชื่อมั่นที่จะรับซื้อข้าวไทยในราคาที่สูงกว่าข้าวทั่วไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี