กรณีมีการเสนอข่าวเกี่ยวกับกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)
ของกรุงเทพมหานคร โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องคุณภาพและจำนวนกล้อง สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ซึ่งผู้บริหาร
ได้ออกมาแถลงชี้แจงไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น
นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กำกับดูแลสำนักการจราจรและขนส่งหน่วยงานรับผิดชอบกล้อง CCTV กล่าวว่า กล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV ของกรุงเทพมหานครในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะนี้มีกว่า 40,000 ตัว ซึ่งจากสถิติที่ได้มีการสำรวจพบว่า กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่มีจำนวนกล้อง/จำนวนประชากร มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากปักกิ่งที่มีสูงสุด และลอนดอน เป็นอันดับ 3 โดยปักกิ่งได้มีการเพิ่มจำนวนกล้องมากขึ้นในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่กรุงเทพมหานครได้มีการติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มขึ้นมา 10 กว่าปีแล้ว
เดิมการติดตั้งกล้อง CCTV ในกรุงเทพฯ จะมีในจุดสำคัญทางเศรษฐกิจ และบ้านพักอาศัยผู้นำและบุคคลสำคัญของประเทศเท่านั้น และเป็นกล้องมุมสูงคุณภาพกล้อง 1-4 แสนพิกเซล ตั้งแต่ช่วงที่มีเหตุระเบิดในกรุงเทพฯสมัยผู้ว่าฯอภิรักษ์ ได้มีการเพิ่มกล้อง CCTV ในจุดเสี่ยง ถนน ตรอก ซอยต่างๆ และพัฒนาคุณภาพกล้องไปถึงระบบ HD ปัจจุบันมีความละเอียดถึง 5 ล้านพิกเซล ส่วนใหญ่จะติดตั้งในจุดต่างๆ เพื่อรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ จุดเสี่ยง ชุมชน ตรอก ซอย เป็นภาพมุมกว้างไม่มีความละเอียดมากนัก มีประมาณ 20 จุด 100-200 กล้อง ที่เป็นระบบ HD ทุกตัวที่ติดตั้งสามารถใช้งาน โดยจะแบ่ง 2 ประเภทคือสามารถดูภาพแบบเรียลไทม์มีศูนย์ควบคุมเฝ้าดูที่ศาลาว่าการกทม.(เสาชิงช้า) และกล้องแบบบันทึกภาพที่จุดติดตั้งซึ่งจะเก็บภาพไว้สูงสุด 60 วัน จึงจะวนทับ โดยกล้องชนิดนี้มีกว่า 30,000 ตัวทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ
ในการติดตั้งกล้อง CCTV จะพิจารณาติดตั้งในจุดที่มีความจำเป็นก่อน เนื่องจากในแต่ละปีมีข้อจำกัดเรื่องของงบประมาณเพราะราคากล้องตัวละ 50,000 - 100,000 บาท ถ้าเป็นระบบ HD ตัวละ 150,000 บาท รวมอุปกรณ์เสริมมากถึง 2-3 แสน จึงได้แบ่งดำเนินการตามแผนจัดสรรเป็นปีงบประมาณให้ได้ตามเป้าหมายที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกำหนดไว้คือ 50,000 กล้อง ในปีงบประมาณ 2559 จะตั้งศูนย์ควบคุมกล้อง CCTV 12 ศูนย์ ที่ 12 สำนักงานเขต เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลและควบคุมกล้องได้ทั่วถึงมากขึ้น
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้พยายามพัฒนาคุณภาพกล้อง CCTV ให้เป็น CCTV อัจฉริยะ ดำเนินการมา 2 ปีแล้ว
โดยขณะนี้มี 2 บริษัทเสนอทำโครงการนำร่องใน 2 พื้นที่ ทำระบบ CCTV อัจฉริยะ ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูง อนาคตจะค่อยๆ พัฒนาระบบกล้องของกรุงเทพมหานครให้เป็น CCTV อัจฉริยะต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี