ชาวประมงในหลายจังหวัดตบเท้าออกมาคัดค้าน กรณีศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) ออกประกาศฉบับที่ 14 /2558 ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2558 กำหนดให้เรือประมงอวนล้อมจับฝั่งอ่าวไทย หยุดทำการประมงวันที่ 1-3, 11-13 และ 21-23 ของทุกเดือน รวม 9 วัน พร้อมให้เรืออวนล้อมจับฝั่งทะเลอันดามัน เรืออวนลากฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามันหยุดทำการประมงวันที่ 1-3 และ 11-12 รวม 5 วัน ของทุกเดือน
โดยผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 1 กันยายน ซึ่งเป็นวันแรกของการบังคับใช้ประกาศดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้บรรดาเรือประมงในจังหวัดต่างๆ พากันลอยลำกลับเข้าฝั่งเป็นทิวแถว ท่ามกลางกระแสความไม่เห็นด้วยของชาวประมงรวมทั้งผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น แพปลา ห้องเย็น เพราะมองว่าเป็นมาตรการที่เข้มงวดเกินไปและส่งผลกระทบต่อการทำการประมง
ขณะที่เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน นายประพร เอกอุรุ นายกสมาคมประมงจังหวัดสงขลา ได้เดินทางไปยังกองบัญชาการกองทัพเรือภาคที่ 2 เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมผ่านไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และขอให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าว เนื่องจากมีชาวประมงในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า
นายประพร กล่าวว่า เรือประมงไม่สามารถเข้าจอดเทียบท่าได้ทั้งหมด เนื่องจากพื้นที่จอดเรือไม่เพียงพอ ทำให้สัตว์น้ำที่จับได้ ระบายสู่ท้องตลาดไม่ทันเวลาที่กำหนด พ่อค้าแม่ค้าไม่มีสินค้าสัตว์น้ำขาย และปัญหาโรงน้ำแข็งต้องหยุดกิจการไปกว่า 10 โรง จากทั้งหมด 13 โรง เพราะเรือทัวร์ขนสัตว์น้ำไม่เข้ามาสั่งลงน้ำแข็งจึงต้องหยุดกิจการ ทำให้ไม่มีน้ำแข็งแช่ปลาบนเรือสัตว์น้ำเริ่มเน่า นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านค่าใช้จ่ายต่างๆทั้งแรงงานและค่าน้ำมันเชื้อเพลิง จึงต้องเดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมดังกล่าว
ส่วนที่ จ.ปัตตานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือประมงในพื้นที่กว่า 1,000 ลำ ได้ทยอยเข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือประมงปัตตานี และ 2 ฟากแม่น้ำปัตตานี โดยชาวประมงและผู้ประกอบการเรือประมงต่างมองว่า มาตรการที่ถูกประกาศออกมาครั้งนี้ ทำให้ชาวประมงเดือดร้อน เพราะการหยุดพร้อมกันและออกหาปลาพร้อมกัน เมื่อนำสินค้าเข้ามาพร้อมกัน ก็ส่งผลกระทบให้มีปริมาณปลามากล้นตลาด ทำให้ราคาปลาถูก ขณะที่หากขายไม่ทันหรือขายไม่ได้ก็เกิดเหตุการปลาเน่า โรงน้ำแข็งผลิตนำแข็งไม่ทัน
ขณะที่เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน กลุ่มเจ้าของเรือประมงและเรือประมงพื้นบ้านที่ใช้ลอบโง่ รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าประมงรวมกว่า 1,000 คน นำโดย นายภูเบศท์ จันทนิมิ ประธานสมาคมประมงปัตตานี และประธานสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ทยอยมารวมตัวกันที่ลานวัฒนธรรม หน้าศาลากลางจังหวัดปัตตานี เพื่อยื่นหนังสือให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดขอให้มีการทบทวน
นายภูเบศท์ กล่าวว่า ชาวประมงพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการจัดระเบียบ และมีหลายเรื่องที่ต้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาระดมความคิดเห็นกัน แต่รัฐไม่เข้าใจ จึงออกกฎหมายอย่างเร่งด่วน ทำให้ผิดพลาดหมด โดยไม่ได้ดูข้อเท็จจริงว่า อาชีพประมงไทยเป็นอย่างไร ส่งผลกระทบกับบรรดาชาวประมง ทั้งๆที่กรมประมงทุกพื้นที่ก็รู้เรื่องดี เช่น กำหนดวันหยุดตามปฏิทินนั้นไม่ได้ เพราะวิถีชีวิตเรือประมงแต่ละประเภทมันแตกต่างกัน ทั้งลมฟ้าอากาศ เราพร้อมที่จะหยุดเพราะปกติหยุดอยู่แล้ว แต่ไม่ควรให้หยุดตามปฏิทิน ซึ่งไม่เข้าใจว่ารัฐคิดได้อย่างไร
เช่นเดียวกับที่ จ.ระยอง นายคมเดช รัตนพรวารีสกุล ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมประมงจังหวัดระยอง กล่าวว่า มาตรการที่ออกมาถือเป็นมาตรการบีบบังคับชาวเรือประมงอีกมาตรการหนึ่งที่ส่งผลกระทบอย่างหนัก หลังจากก่อนหน้านี้ ศปมผ. เคยมีมาตรการห้ามอุปกรณ์ทำประมง 6 ชนิดไปแล้ว ทำให้ผู้ประกอบการเรือประมงต้องรอวันล่มสลาย เนื่องจากไม่สามารถออกเรือทำประมงได้
นายคมเดช กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการกำหนดวันหยุดทำประมง ปกติเรือประมงได้งดออกเรืออยู่แล้วในช่วงคืนเดือนหงาย ดังนั้นถ้าหากวันหยุดที่ ศปมผ. กำหนดให้ชาวเรือประมงหยุดเรือออกทะเลไม่ตรงกับคืนเดือนหงาย เดือนนั้นเรือประมงต้องงดออกทะเลเพิ่มเข้าไปอีก รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 15 วัน แล้วเดือนหนึ่งจะได้ทำประมงอยู่แค่เพียง 15-16 วันเท่านั้น ซึ่งจะไม่คุ้มค่าหรือคุ้มทุนกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าจ้างแรงงาน ซึ่งปัจจุบันจะต้องจ้างกันเป็นรายเดือนแล้ว ไม่มีการจ้างเป็นรายวัน จึงขอเรียกร้องให้รัฐทบทวนมาตรการดังกล่าว พร้อมผ่อนปรนระยะเวลาบังคับออกไปก่อน เนื่องจากปัจจุบันรัฐออกมาตรการใดมา จะมีผลบังคับใช้โดยทันที จนพากันตั้งตัวไม่ทันและตื่นตระหนกตกใจ ที่สำคัญมาตรการที่ออกมาบังคับใช้ยังไม่เคยถามความคิดเห็นจากชาวเรือประมงเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี