2 ก.ย. 58 นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือสมช. กล่าวถึงการจับกุมผู้ต้องสงสัยเชื่อมโยงเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ว่า ตนเองได้ติดตามเรื่องดังกล่าว โดยเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหนาที่ฝ่ายสืบสวนและสอบสวน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีอะไรแน่ชัดจึงขออย่าพูดเพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมา ทั้งนี้ปฏิเสธว่าผู้ต้องสงสัยมีความเชื่อมโยงกับชาวอุยกูร์ โดยให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. เป็นผู้วิเคราะห์ ซึ่งสื่อมวลชนอาจจะเห็นภาพอะไรบางอย่างว่า ประเทศไทยมีจุดอ่อนเรื่องของการใช้อาวุธ การเข้าออกประเทศ หรือการข้ามแดน ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะมีมาตรการลงโทษอะไรบางอย่าง ขณะที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่เปิด ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยว จึงทำให้มีสิ่งที่ผิดกฎหมายตามมา ทั้งกลุ่ม แก๊งค์ ที่เข้ามาอยู่ในบ้านเรา เพราะฉะนั้นพวกเราควรที่จะระวังตัว และระบบการพัฒนาทางด้านการข่าว และระบบการสืบสวนต้องพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงเครื่องมือพิเศษ ต้องมีการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคง ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญในมิติด้านความมั่นคงค่อนข้างมาก แม้ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นเท่าไร แต่ความมั่นคงอ่อนแอ ทุกอย่างก็อ่อนแอตามไปด้วย เช่นเดียวกันกรณีปัญหาไอยูยู และเทียร์ 3 ที่ส่งผลมาจากการอ่อนแอ และละเลยการบังคับใช้กฎหมาย และมาตรการจัดการที่ควรจะดีกว่านี้ แต่เรากับไม่มี ซึ่งรัฐบาลกำลังผลักดันหลายเรื่องทั้งด้านแก้ไขกฎหมาย การปรับโครงสร้างทำงาน และการบูรณาการทุกภาคส่วน
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบูรณาการในด้านข้อมูลความมั่นคง โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีก 2 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการเพื่อพัฒนาไบโอแมตทริกซ์ของประเทศ หรือการเก็บชุดจ้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนทางด้านกายภาพ ตลอดจนความมั่นคงด้านอื่นๆ ทั้งทะเบียนราษฎร ทะเบียนรถยนต์ ทะเบียนสูติบัตร ทะเบียนอาชญากรรม ทะเบียนผู้ต้องขังที่อยู่ในกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ รวมถึงทะเบียนอินเตอร์โพลล์ ของตำรวจสากล เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยง เนื่องจากเป็นความเข้มแข็งในมิติความมั่นคง ที่นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดทิศทาง และเป็นนโยบาย โดยมอบให้สมช. และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที ดำเนินการ
ขณะที่ทางการข่าวได้ทราบหรือไม่ว่าคนร้ายได้เข้ามากบดานในประเทศไทยเป็นระยะเวลาหลายเดือนแล้ว นายอนุสิษฐ กล่าวว่า ทางสมช. ได้มีการติดตามกลุ่มเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ซึ่งการกระทำความผิดหากไม่มีหมายจับก็ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ตามหลักสิทธิมนุษยชน ตามกฎหมายไทยถ้ามีหลักฐานในการกระทำความผิด เราถึงเข้าไปดำเนินการควบคุมตัวได้ เนื่องจากจะเกิดการละเมิดสิทธิขึ้น ดังนั้นงานระบบการข่าวสิ่งที่ยากที่สุดคือการเฝ้าติดตาม จนบางครั้งเกิดการเล็ดลอด และเชื่อว่าการข่าวได้ทำงานอย่างเต็มที่
"ฝากว่าทุกรัฐบาลอย่าทอดทิ้งงานด้านความมั่นคง เช่นเดียวกับพ่อแม่ ที่เลี้ยงลูกจะต้องมีมาตรการที่บอกว่าอะไรทำได้ หรือทำไม่ได้ ถ้าทุกอย่างมันอิสระบ้านเราก็จะอยู่กันไม่ได้" นายอนุสิษฐ กล่าว
ทั้งนี้ได้มีการตรวจสอบหรือไม่ว่าต้นตอของอุปกรณ์ประกอบวัตถุระเบิดมาจากไหน นายอนุสิษฐ กล่าวว่า แท่งโลหะที่เป็นขิ้นส่วนประกอบวัตถุระเบิดนั้น ประเทศไทยสามารถทำได้อย่างอิสระ และวัตถุเคมีตามกติการะหว่างประเทศเรื่องสินค้าที่สามารถใช้ได้ 2 ทาง คือใช้ได้ในชีวิตประจำวันปกติ เข่นปุ๋ยยูเรีย โปรแตส ที่เป็นส่วนหนึ่งของส่วนผสมวัตถุระเบิด ซึ่งประชาชนสามารถหาได้ทั้วไปตามท้องตลาด แต่ขึ้นอยู่กับคนจะนำมาใช้เพื่ออะไร ซึ่งตนเองมองว่าในเรื่องดังกล่าวคงจะมีการวางแผนในการทำงาน และกระทรวงพาณิชย์มีการกำกับดูแลการนำเข้าสินค้าประเภทดังกล่าว อย่างไรก็ตามยอมรับว่าอุปกรณ์ที่ประกอบวัตถุระเบิดมีใช้ในส่วนราชการ แต่การที่จะนำเข้ามาจากที่อื่นก็ไม่ใช่เรื่องยาก เช่นในเหตุระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี