นับตั้งแต่ 2536 เป็นต้นมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ร่วมกับมูลนิธิโครงการหลวงจัดตั้งสหกรณ์ขึ้นในพื้นที่โครงการหลวง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่สูงในการเพิ่มศักยภาพการผลิต พร้อมนำเอาระบบสหกรณ์เข้าไปใช้ให้เกิดการรวมกลุ่ม เพื่อรวบรวมสินค้าและส่งออกจำหน่ายสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับเกษตรกรที่ทำการเกษตรในพื้นที่ของมูลนิธิโครงการหลวงนั้น ส่วนใหญ่ล้วนแต่มีศักยภาพในการผลิตพืช ผัก ผลไม้เมืองหนาวและได้รับการยอมรับจากทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันมีสหกรณ์หลายแห่งที่มีประสิทธิภาพในการดำเนินการ มีการเติบโตและเข้มแข็งอยู่ในพื้นที่โครงการหลวง สหกรณ์บางแห่งยังต่อมีการพัฒนา ส่งเสริมเพื่อให้การดำเนินงานของสหกรณ์นั้นๆ พัฒนาไปอย่างต่อเนื่องให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด เทคโนโลยีการผลิต และระบบการจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
นายโอภาส กลั่นบุศย์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า หลังจากที่กรมส่งเสริมได้เข้ามาทำงานร่วมกับมูลนิธิโครงการหลวง ในการสนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่มเพื่อช่วยเหลือซึ่งและกัน ในการประกอบอาชีพตามหลักและวิธีการสหกรณ์ ซึ่งในปัจจุบันมีสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวงทั้งหมด 51 สหกรณ์ 4 กลุ่มเกษตรกร และ 13 กลุ่มเตรียมสหกรณ์ ในพื้นที่ 9 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน กำแพงเพชร กาญจนบุรี และ ตาก มีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 8,477 คน มีทุนดำเนินการกว่า 133 ล้านบาท มีผลกำไรในรอบปีที่ผ่านมากว่า 3 ล้านบาท ทั้งนี้ สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรและกลุ่มเตรียมสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง ได้ดำเนินธุรกิจเพื่อให้บริการแก่สมาชิกด้านการให้สินเชื่อ การจัดหาวัสดุอุปกรณ์การเกษตรมาจำหน่ายให้กับสมาชิก รวบรวมผลผลิตจากสมาชิก บริการปรับปรุงพื้นที่เกษตรกรรม ขนส่งผลผลิตและบริการรับ-ฝากเงินจากสมาชิก ทั้งนี้หลังจากที่โครงการหลวงได้เข้ามาส่งเสริมให้ชาวเขาเลิกปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอยแล้ว กรมยังเข้าไปส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาวชนิดอื่นๆ ตามความเหมาะสมของพื้นที่และตามความต้องการของตลาดเช่นกัน ซึ่งสมาชิกบางรายที่ปลูกสตอเบอร์รี่1 ไร่ สามารถสร้างรายได้ 4 แสนบาทต่อปี
สำหรับการสนับสนุนการดำเนินของสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวงปี 2558 ได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 12 ล้านบาท ในการดำเนินการ 3 ด้าน คือ 1.สนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดซื้อปัจจัยการผลิตและการตลาดให้กับสหกรณ์ ในโครงการ 7 สหกรณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัด เช่น สร้างอาคารอเนกประสงค์ เพื่อใช้เป็นสำนักงาน พื้นที่รวบรวมผลผลิตและคัดคุณภาพก่อนส่งจำหน่าย สร้างโรงเรือนพลาสติกให้กับสหกรณ์ เพื่อให้สมาชิกใช้ประโยชน์ในการผลิตพืช ผัก หรือไม้ดอก ให้ได้คุณภาพตามความต้องการของตลาด ตลอดจนสามารถลดค่าใช้จ่าย เช่น ยาฆ่าแมลง เป็นต้น 2.สนับสนุนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่โครงการหลวง จำนวน 29 คน ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน และ น่าน 3.จัดประกวดสหกรณ์ บุคลากรดีเด่นในพื้นที่โครงการหลวง เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการพัฒนาศักยภาพการทำงานรอบด้านของสหกรณ์
นายโอภาสกล่าวอีกว่า การสนับสนุนการดำเนินของสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง โดยเฉพาะการจัดประกวดสหกรณ์ บุคลากรดีเด่นเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน ตลอดจนเป็นการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาในแนวทางที่ดีในอีกรูปแบบหนึ่ง ทั้งนี้ การดำเนินงานในปี 2558 มีสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวงที่ได้รับคัดเลือก เป็นสหกรณ์ดีเด่น ได้ อันดับ 1 สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่โถ จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ / อันดับ 2 สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงดอยอินทนนท์ จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ และ /อันดับ 3 สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงห้วยน้ำขุ่น จำกัด จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ยังมี สมาชิกสหกรณ์ดีเด่น จำนวน 10 ราย และเจ้าหน้าที่ดีเด่นของหน่วยงานที่ร่วมกรมส่งเสริมงานสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง 1 ราย และจากการที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ให้การสนับสนุนการดำเนินของสหกรณ์ในพื้นที่โครงการหลวง ทำให้ปัจจุบันมีสหกรณ์ที่ผ่านมาตรฐานของกรมส่งเสริมสหกรณ์ระดับดีเลิศ (เกรด A) จำนวน 8 สหกรณ์ มีผลดำเนินงานธุรกิจของสหกรณ์เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ร้อยละ 16.74 อย่างไรก็ตาม สหกรณ์ที่ได้มาตรฐานระดับดีมาก (เกรด B) และ ระดับดี (เกรด C) ทางกรมส่งเสริมจะมีเข้าหน้าที่เข้าไปให้คำแนะนำและเป็นพี่เลี้ยงให้การพัฒนาสหกรณ์เพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้นต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี