นายวีระศักดิ์ ขวัญเมือง ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า กยท.จะเป็นความหวังใหม่ทำให้เกษตร-อุตสาหกรรมยางพาราของไทยเปลี่ยนโฉมไปจากเดิม จากที่เคยส่งออกวัตถุดิบ จะพัฒนาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากยางพาราเพื่อการส่งออกมากขึ้น โดยตั้งเป้าเบื้องต้นไว้ที่ 50:50 คือ ส่งออกในรูปแบบวัตถุดิบร้อยละ 50 และส่งออกในรูปแบบผลิตภัณฑ์อีกร้อยละ 50 นอกจากนี้ยังได้วางเป้าหมายที่จะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (HUB) ผลิตล้อยางของภูมิภาค เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพที่สามารถทำได้ เพราะมีความพร้อมทั้งวัตถุดิบและเทคโนโลยีในการผลิต ที่สามารถพัฒนาให้ได้มาตรฐานสากล เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ กยท. อาจจะเข้าไปร่วมลงทุนกับบริษัทต่างประเทศ ตั้งโรงงานผลิตล้อยาง แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาล
สำหรับในส่วนของเกษตรกร จะต้องเพิ่มมูลค่าให้กับน้ำยางดิบ โดย กยท.เข้าไปส่งเสริมสนับสนุน หาแหล่งเงินทุน เพื่อให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีในการแปรรูปเป็นยางแผ่นดิบ หรือ ยางแผ่นรมควัน ได้ง่ายขึ้นซึ่งจะขายยางได้ในราคาที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงสถานการณ์เฉพาะหน้า ที่ราคายางพาราตกต่ำ ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาไม่ถึง 50 บาทต่อกิโลกรัมในขณะนี้นั้น กยท. กำลังพิจารณาหามาตรการช่วยเหลือ โดยจะทำงานร่วมกับเกษตรกร ส่วนราชการในรูปแบบคณะทำงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จนกว่าสถานการณ์ราคายางพาราจะเข้าสู่ภาวะปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี