ตามที่นโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้สหกรณ์สามารถแข่งขันกับภาคเอกชนและสหกรณ์มีการเชื่อมโยงกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษที่เป็นแนวทางการทำงานของรัฐบาลเพื่อต้องการแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน แก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามายังพื้นที่ตอนใน และปัญหาความแออัดบริเวณด่านชายแดน พร้อมทั้งเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน การจ้างงานและสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้ประชาชน และนอกจากนี้ยังเป็นการควบคุมปริมาณสินค้าเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับสินค้าภายในประเทศ
โอภาส กลั่นบุศย์
นายโอภาส กลั่นบุศย์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า การจัดตั้งพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นใน 5 จังหวัด จะช่วยให้นักลงทุนเข้ามาในพื้นที่ เพื่อทำธุรกิจต่างๆ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ดีขึ้นพร้อมทั้งยังเกิดการจ้างงานของคนในพื้นที่และไม่เกิดการย้ายถิ่นฐานเข้ามากระจุกตัวในตัวเมืองหรือต่างจังหวัด ทั้งนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์มีนโยบายให้สหกรณ์ในพื้นที่ของเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้นๆ พัฒนาการทำงานของตัวเองให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของบุคลากรและอุปกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์พร้อมเป็นผู้นำเข้าและส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่างๆในกลุ่ม AEC โดยในเบื้องต้นสหกรณ์จังหวัดตราด ได้ส่งเสริมและสนับสนุนสหกรณ์ในพื้นที่ ซึ่งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษให้สามารถเสริมสร้างศักยภาพการดำเนินธุรกิจ โดยได้นำสหกรณ์จดทะเบียนเป็นผู้นำเข้าและส่งออกสินค้าสู่ต่างประเทศ และได้ส่งออกผลไม้ในฤดูผลผลิตของจังหวัดตราดไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีสหกรณ์ส่งเสริมธุรกิจภาคเกษตรจังหวัดตราด จำกัด เป็นสหกรณ์ที่นำร่องในการจดทะเบียนเป็นผู้ส่งออก และส่งออกผลไม้ไปกรุงพนมเปญเมื่อเดือนกรกฎาคม 2558
นอกจากการจดทะเบียนเป็นผู้นำเข้าและส่งออกสินค้าสู่ต่างประเทศแล้ว สหกรณ์จังหวัดตราดยังพบปัญหาในการดำเนินงาน
ส่งสินค้าเกษตร คือ ผลไม้ในพื้นที่ของจังหวัดตราดส่วนใหญ่ได้หมดฤดูการผลิต ดังนั้นเพื่อให้การพัฒนาการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ที่เกี่ยวกับการส่งออกผลไม้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง สำนักงานสหกรณ์จังหวัดตราด เล็งเห็นว่าในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคมจนถึงกันยายน เป็นฤดูการผลิตผลไม้ของจังหวัดในภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งสหกรณ์ในจังหวัดดังกล่าวมีการดำเนินธุรกิจรวบรวมรับซื้อผลไม้จากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป
ด้าน นางสาวยาใจ ไวพยาบาล สหกรณ์จังหวัด
ตราด กล่าวเสริมว่า การส่งออกผลไม้ไปยังประเทศเพื่อนบ้านนั้น ส่วนใหญ่มักจะพบปัญหา ผลไม้ในพื้นที่หมดฤดูการ
ผลิต จึงทำให้ไม่เกิดความต่อเนื่องในการขนส่ง และตลาดที่รองรับสินค้าเลือกที่จะไปรับสินค้าจากที่อื่นสำนักงานสหกรณ์จังหวัดตราด จึงได้นำสหกรณ์ในจังหวัดตราด 3 แห่ง ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางการค้าผลไม้ร่วมกันกับสหกรณ์ในพื้นที่ภาคใต้ 2 แห่ง คือ สหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร จำกัด จ.สุราษฎร์ธานี และ สหกรณ์ชุมชนร่วมใจบริการ จำกัด จ.ชุมพร เพื่อการขับเคลื่อนการส่งออกผลไม้ของสหกรณ์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตราดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการรับซื้อผลไม้ในฤดูการผลิต เช่น เงาะ มังคุด ลองกอง และทุเรียนของทั้ง 2 สหกรณ์ เพื่อส่งออกไปยังประเทศกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 เป็นต้นไป จะมีพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มขึ้นอีก 5 จังหวัด คือ จังหวัดกาญจนบุรี เชียงราย นราธิวาส นครพนม และหนองคาย ประกอบด้วย 7 ด่านชายแดน กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มอบหมายให้สหกรณ์ในพื้นที่ดำเนินการสำรวจ ว่าสหกรณ์ใดสามารถนำเข้าหรือส่งออกสินค้าชนิดใดได้บ้าง และกรมส่งเสริมสหกรณ์พร้อมที่จะสนับสนุนเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์รวบรวมสินค้าเพื่อการส่งออกและนำเข้า นอกจากนี้จะเรียกประชุมสหกรณ์กลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 36 สหกรณ์ ใน 10 จังหวัดของพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อม โดยทั้ง 36 แห่งนั้นจะต้องเตรียมความพร้อมบุคลากรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานเพื่อประเมินว่าสหกรณ์ในความดูแลของตนนั้นจะมีความพร้อมในการนำเข้าและส่งออกสินค้ามากน้อยเพียงใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี