รัฐบาลครม.ประยุทธ์ 3 ต้องการจะสร้าง“LOOK”ใหม่ ให้แตกต่างจากเดิมหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ถึงได้จัดทัพข้าราชการใหม่ ทดแทนบรรดาบิ๊กๆ ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้โดยเกิดปรากฏการณ์ “ข้ามห้วย”ระดับปลัดกระทรวงต่างๆขนานใหญ่
ที่ประชุมครม.รวม 2 นัดที่ผ่านมา มีมติย้าย“ข้ามห้วย”ปลัดกระทรวงและผู้นำสูงสุดหน่วยงานที่มีฐานะเทียบเท่าปลัดกระทรวงถึง 5 คนแล้ว คือ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม จากปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปเป็นปลัดกระทรวงพลังงาน,นายไมตรี อินทุสุต รองปลัดมหาดไทยเป็นปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์,นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,นายพงษ์ภาณุเศวตรุนทร์ รองปลัดฯคลัง เป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และพล.อ.ทวีป เนตรนิยม จากผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา สังกัดกระทรวงกลาโหม ไปเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือสมช.
ปกติ ในยุครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ถ้ากระทรวงหรือหน่วยงานสำคัญๆที่มีบทบาทสูง เกิดการย้าย“ข้ามห้วย”แบบนี้แค่กระทรวงเดียว รับรองเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์สนั่นหวั่นไหว ก่อปฏิกิริยา แรงกระเพื่อมภายในหน่วยงานอย่างมากแน่
แต่เพราะยุคนี้เป็นรัฐบาล คสช.จากการรัฐประหารหรืออย่างไรไม่ทราบ ขนาดย้าย“ข้ามห้วย”ผู้บริหารสูงสุด 4 กระทรวง กับอีก 1 หน่วยงานสำคัญ เสียงวิพากษ์แม้มีอยู่บ้าง ก็ช่างบางเบาสิ้นดี
ขณะที่ภายในหน่วยงานที่ได้“เสือข้ามห้วย”มาเป็นเจ้านายใหม่ถึงมีปฏิกิริยาบ้างก็ไม่กล้าหืออะไร อย่างที่สมช.รองเลขาฯอย่างนางกนกทิพย์ รชตะนันทน์ “ลูกหม้อ” ผู้พลาดหวัง ได้แต่แสดงอาการน้อยใจ ด้วยการขอลาออก แต่บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ก็ช่วยกันเกลี้ยกล่อม ขอให้อยู่ต่อ
ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้“เสือข้ามห้วย” มาเป็นปลัดกระทรวง ข้าราชการส่วนใหญ่หามีปฏิกิริยาอะไรไม่ มีแต่เสียงคัดค้านจากอดีตข้าราชการอย่าง นายอดิศักดิ์ศรีสรรพกิจ อดีตเลขาฯ ส.ป.ก.-สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมเท่านั้น ที่ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย และเรียกร้องให้ทบทวนเรื่องนี้
ท่าทีนายอดิศักดิ์นับเป็นจุดยืนที่มั่นคงมาตั้งแต่ยังรับราชการอยู่ เพราะสมัยที่ยังเป็นอธิบดีกรมวิชาการเกษตรยุครัฐบาลทักษิณชินวัตร ที่ย้าย“ข้ามห้วย”นายบรรพต หงษ์ทอง จากอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ มาเป็นปลัดกระทรวงเกษตรฯนายอดิศักดิ์ก็คัดค้านถึงขนาด“โกนหัว”ประท้วงมาแล้ว
นายอดิศักดิ์ระบุเหตุผลที่คัดค้านการย้าย“ข้ามห้วย”หนนี้โดยอ้างอิงบทเรียนสมัยที่นายบรรพตข้ามห้วยมาเป็นปลัดกระทรวงเกษตรฯ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ไม่ได้มาแก้ปัญหา แต่กลับมาสร้างปัญหา โดยเฉพาะการทำโครงการจำนำลำไยอบแห้งยุคนั้น ที่นำไปสู่การทุจริตอย่างมโหฬาร
“ไม่ทราบนายกฯประยุทธ์ และท่านฉัตรชัยมีเหตุผลใด หากดูประสบการณ์ปลัดเกษตรฯคนใหม่ อาจมีความสามารถเรื่องเขตปฏิรูปที่ดินที่คาบเกี่ยวกับกรมป่าไม้แต่กระทรวงเกษตรฯยังมีภารกิจอื่นอีกมากต้องมีความรู้ความเข้าใจเฉพาะด้านอยู่ด้วยและคงต้องอาศัยเวลาและการทำงานอย่างหนักรวมถึงมีฝีมือการบริหารที่ยอดเยี่ยม”นายอดิศักดิ์ระบุในจดหมายเปิดผนึก
ข้อท้วงติงนายอดิศักดิ์มีน้ำหนักไม่น้อย แต่ก็ต้องยอมรับว่า ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงเกษตรฯเอง ที่ผ่านมาก็ยังไม่สามารถทำงานให้เข้าตาสังคมได้ โดยเฉพาะการที่ยังคงปล่อยให้อิทธิพลการเมืองของ“หลงจู๊แห่งสุพรรณบุรี”ครอบงำอยู่ และตั้งแต่คสช.เข้ามา ก็มีการ“เกียร์ว่าง”อยู่ไม่น้อย จึงอาจเป็นความจำเป็นส่วนหนึ่งทำให้มีการตัดสินใจเลือกคนอื่น“ข้ามห้วย”มาคุม
และแค่เสียงค้านของนายอดิศักดิ์ คงไม่ทำให้พล.อ.ฉัตรชัยเปลี่ยนใจ ทบทวนเรื่องนี้แน่ แต่เสียงท้วงติงนี้ก็ควรที่ปลัดกระทรวงเกษตรฯคนใหม่อย่างนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ จะได้สำเหนียกไว้ และใช้การทำงาน สร้างผลงานพิสูจน์ตัวเองให้ได้
ส่วนข้าราชการกระทรวงเกษตรฯเอง ก็ควรสำเหนียกเช่นกัน ดังที่นายอดิศักดิ์ทิ้งท้ายเตือนเป็นอุทาหรณ์ไว้ เรียกร้องให้ทุกคนต้องหันกลับมาดูตัวเอง ปรับปรุงตัวเพื่อมิให้ใครมาดูแคลนได้อีก แต่องค์กรคือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องอยู่ต่อไปและอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี มีประโยชน์ต่อเกษตรกรและการพัฒนาการเกษตรของไทยตลอดไป
สาโรช บุญแสง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี