17 ก.ย. 58 ที่โรงแรม มิลเลเนียม ฮิลตัน ถ.เจริญนคร กทม. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุม เชิงปฏิบัติการโครงการประชุมร่วมมือระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งในและต่างประเทศในประเทศไทย โดยเป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ต่างชาติต่อต้านยาเสพติดและอาชญากรรมประจำประเทศไทย (Foreign Anti – Narcotic and Crime Community : FANC) และเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ ที่ประจำอยู่ในประเทศไทยในลักษณะที่มีรูปแบบเช่นเดียวกับการจัดประชุมนานาชาติ
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า วัตถุประสงค์การจัดประชุมครั้งนี้เพื่อให้เกิดเครือข่ายในการประสานการดำเนินงานการป้องกันและปราบปรามปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และเสริมสร้างให้เกิดความสัมพันธุ์ที่ดีและความร่วมมือระหว่างดีเอสไอ กับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของประเทศต่าง ๆ ที่ประจำอยู่ในประเทศไทยอันจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการประสานความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามการก่ออาชญากรรมและภารกิจของกรมสอบสวนคดีพิเศษสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ด้านนายริชาร์ด ดูพาส ประธาน FANC กล่าวว่า มองปัญหาการค้ามนุษย์และการขนคนเข้าเมืองนั้น เป็นเรื่องการกระทำความผิดลักลอบข้ามพรมแดน ซึ่งปัญหาค้ามนุษย์นั้น ผู้ถูกกระทำไม่เต็มใจ ถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพ และหลอกลวงมา โดยเฉพาะในไทยมองว่ามีความสลับซับซ้อน แต่ขณะที่ปัญหาการขนคนเข้าเมืองเป็นเรื่องความเต็มใจแล้วมีคนอาสาเป็นตัวกลางทำหน้าที่พาเดินทางผ่านประเทศไทย ซึ่งปัญหานี้ในไทยยังเกี่ยวพันกับปัญหาอีกหลายๆด้าน ได้แก่ ปัญหาสังคม ปัญหาการเมือง ตลอดจนปัญหาการตรวจคนเข้าเมืองอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การกระทำลักษณะนี้ย่อมเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอื่นๆด้วยแน่นอน ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์และการขนคนเข้าเมืองได้นั้น แต่ละประเทศจะต้องหันหน้าเข้าหากันพูดคุยและร่วมมือกันอย่างจริงจัง
ส่วน พ.ต.ท.ดรัณ จาดเจริญ เจ้าหน้าที่คดีพิเศษชำนาญการ สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมามีการกระทำอาชญากรรมข้ามชาติ โดยกลุ่มคนร้ายปฏิบัติการนำเทคโนโลยีมาใช้ด้วยการลงมือทางระบบอิเลคโทนิคส์ในประเทศไทยซึ่งสร้างความเสียหายมูลค่าเกินกว่า400ล้านบาท แต่นำเงินออกนอกประเทศได้ประมาณ30ล้านบาท
นอกจากนี้ ปัจจุบันกลุ่มคนร้ายใช้วิธีการที่เรียกว่า"โทเคน"ปล่อยไวรัสไปยังเครื่องระบบธุรกิจธนาคารเพื่อสร้างฟิลม์บนหน้าจอเว็บไซต์และเมื่อลูกค้าใส่ข้อมูลหน้าจอเครื่องธนาคารนั้น ข้อมูลทุกอย่างจะถูกดูดไปให้คนร้าย ซึ่งมีบริษัท13บริษัทในไทยได้รับความเสียหายแล้ว20ล้านบาท ทั้งนี้ กลุ่มคนร้ายมีชาวต่างชาติเป็นตัวการสำคัญและคาดว่ามีคนไทยมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี