18 ก.ย. 58 เวลา 11.20 น. ที่โรงแรมเอเชีย นายอำนวย ทงก๊ก ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น จำกัด นพ.วัชรินทร์ เอกประเสริฐ ผู้ทรงคุณวุฒิ นายเชวงศักดิ์ สงวนวงศ์วิจิตรประธานกรรมการสหกรณ์โคนมไทยมิลค์ จำกัด นายตระการศักดิ์ ประสาร ประธานกรรมการ สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก จำกัด นายวัลลภ รุ่งเรือง ประธานกรรมการสหกรณ์โคนมปากช่อง และสมาชิกเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั้งประเทศ ร่วมกันแถลงสนับสนุนการต่ออายุสิทธิพิเศษในการจำหน่ายนมโรงเรียน เพื่อเกษตรกรโคนมไทย เนื่องจากเกิดกรณีนมบูดที่โรงเรียนแห่งในจังหวัดน่าน
โดย นพ.วัชรินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา2-3 สัปดาห์มีข่าวไม่น่ายินดี เราจึงต้องออกมาชี้แจงความจริงเรื่องนมบูดที่จังหวัดน่าน ตนในฐานะเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเราเดือนร้อนกับข่าวที่ออกมา เราจึงต้องชี้แจงว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราเสียใจที่บริษัท ยู เอ็มโภคภัณฑ์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการนำน้ำนมดิบไปผลิตนมโรงเรียนให้เด็ก ซึ่งเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ตนยืนยันว่าน้ำนมดิบที่เราผลิตมีคุณภาพ เพราะอธิบดีกรมปศุสัตว์ ตรวจสอบเข้มงวดคุณภาพน้ำนมดิบของเกษตรกรทุกเดือน โดยจะต้องผ่านการผลิตอาหารตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดี (จีเอ็มพี) หากศูนย์ใดไม่ผ่านจีเอ็มพี จะไม่สามารถนำน้ำนมดิบไปผลิตเป็นนมโรงเรียนได้ ทั้งนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั้งประเทศ เราส่งน้ำนมดิบให้โรงงานผู้ประกอบการ 80 โรงงานในการผลิตนมโรงเรียนให้กับเด็ก เรายืนยันน้ำนมดิบผ่านการตรวจคุณภาพ เป็นนมที่ดี มีคุณภาพในเรื่องความสะอาด เนื้อนม โปรตีนและแร่ธาตุ การที่เกิดกรณีนมบูดนั้น เป็นหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกระทรวงสาธารณสุขที่จะต้องลงไปตรวจนมพร้อมดื่ม และดำเนินการตามกฎหมายกับบริษัท ยู เอ็น โภคภัณฑ์ จำกัด ต่อไป
นพ.วัชรินทร์ กล่าวต่อว่า ในขณะนี้เด็กทั่วประเทศที่เข้าโครงการดื่มนมโรงเรียนประมาณ 750,0000 คน ใช้นมดิบวันละ 1,500 ตัน โดยนมดิบที่เกษตรกรต้องขายให้ผู้ประกอบการจำนวน 54,7500 ตันต่อปี ขณะที่มูลค่านมดิบอยู่ที่ตันละ 18,000 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 9,855ล้านบาท จากงบประมาณนมโรงเรียน 1,4000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 70.39 ของงบประมาณ ตนยืนยันได้ว่าตัวเลขดังกล่าวตกถึงมือเกษตรกรทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตัวเลขสหกรณ์ทั่วประเทศรวมกันที่มีโรงงานผลิตนมพร้อมดื่ม เราใช้น้ำนมดิบเพื่อผลิตนมโรงเรียนวันละ 1,000 ตัน ได้ประมาณ 5 ล้านกล่อง/ถุง ซึ่งเฉพาะค่าดำเนินการที่ตกไปยังสหกรณ์และเกษตรกรทั่วประเทศอยู่ประมาณปีละ 650 ล้านบาท เมื่อรวม 2 ส่วนเข้าด้วยกันเป็นเงินประมาณ 10,000 ล้านบาท หรือประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณนมโรงเรียนทั้งหมด 1,4000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าผลประโยชน์จากนมโรงเรียนตกถึงมือเกษตร 75 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับมีข่าวว่าจะมีการยกเลิกโครงการนมโรงเรียน ตนขอชี้แจงว่าเลิกไม่ได้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเดือดร้อนทั้งประเทศ ที่ผ่านมาโครงการนมโรงเรียนมีการพัฒนากติกา หลักเกณฑ์ดีขึ้นตามลำดับ
“นมเสียอยู่ที่บริษัทแห่งนี้ไม่กี่กล่อง แล้วจะต้องมาลงโทษเกษตรกรโคนมทั้งประเทศ เป็นธรรมกับพวกผมหรือไม่ ซึ่งใครทำไม่ดีคนนั้นก็ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่มาสาดใส่พวกเราเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั้งประเทศ” นพ.วัชรินทร์ กล่าว
ด้านนายวัลลภ กล่าวว่า ในวันที่ 21 ก.ย. เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรี 4 กระทรวง คือ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อขอบคุณ ชี้แจงข้อเท็จจริง และขอความอนุเคราะห์สนับสนุนโครงการนมโรงเรียนต่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี