คำถาม อยากทราบวิธีทำน้ำหมักชีวภาพ
จากหอยเชอรี่ ครับ
ธงชัย ธรรมโสภณ
อ.เมือง จ.อ่างทอง
คำตอบ จากการรณรงค์ให้หยุดใช้สารเคมี เพื่อให้พืชผักปลอดสารพิษมากขึ้น เกษตรอินทรีย์เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เกษตรกรควรเลือกใช้ และในการทำน้ำหมักชีวภาพนั้น มีหลายชนิดด้วยกัน หาได้ง่ายในชุมชน หรืออีกนัยหนึ่ง อาจเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ และยังมีผลเสียต่อนาข้าว เช่น หอยเชอรี่ เป็นต้น
วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพ จากหอยเชอรี่
วิธีที่ 1 การทำน้ำหมักชีวภาพ จาก
หอยเชอรี่ ทั้งตัวพร้อมเปลือก
นำตัวหอยเชอรี่ทั้งตัว มาทุบหรือบดให้ละเอียด จะได้เนื้อหอยเชอรี่พร้อมเปลือก และน้ำจากหอยเชอรี่ 30 กก. นำไปผสมกับกากน้ำตาล 10 กก. หัวเชื้อจุลินทรีย์ สารเร่ง พด.2 จากกรมพัฒนาที่ดิน 1 ซอง และน้ำ 10 ลิตร คนให้เข้ากัน นำไปบรรจุในถังหมักขนาด 30 ลิตร หรือ 200 ลิตร อย่างใดอย่างหนึ่ง ปิดฝาทิ้งไว้ คนให้เข้ากัน หากมีการแบ่งชั้น ให้สังเกตดูว่ามีกลิ่นเหม็นหรือไม่ ถ้ามีกลิ่นเหม็นให้ใส่กากน้ำตาลเพิ่มขึ้น และคนให้เข้ากันจนกว่าจะหายเหม็น ทำอย่างนี้เรื่อยไปจนกว่าจะไม่เกิดแก๊ส ให้เห็นบนผิวหน้าของน้ำหมักจากหอยเชอรี่
บางครั้งอาจจะพบว่ามีตัวหนอนลอยอยู่บนผิวหน้า หรือบริเวณข้างถังภาชนะบรรจุ ควรรอจนกว่าตัวหนอนดังกล่าวตัวใหญ่เต็มที่ และตายไป ถือว่าการหมักหอยเชอรี่ทั้งตัวเสร็จสิ้นขบวนการ กลายเป็นน้ำหมักจากหอยเชอรี่ สามารถนำไปใช้ได้ หรือนำไปพัฒนาผสมกับปุ๋ยน้ำอื่นๆ ใช้ประโยชน์ต่อไป
วิธีที่ 2 การทำน้ำหมักชีวภาพ จากไข่หอยเชอรี่
นำไข่หอยเชอรี่ หรือกลุ่มไข่หอยเชอรี่มาทุบ
หรือบดให้ละเอียด จะได้น้ำไข่หอยเชอรี่พร้อมเปลือก แล้วนำไปผสมกับกากน้ำตาล และน้ำหมักหัวเชื้อจุลินทรีย์ พด.2 ให้เข้ากัน แล้วนำไปหมักตามขบวนการ เช่นเดียวกับวิธีที่ 1
วิธีที่ 3 การทำน้ำหมักชีวภาพ จากไข่หอยเชอรี่และพืช
นำไข่หอยเชอรี่ หรือกลุ่มไข่หอยเชอรี่มาทุบ หรือบดให้ละเอียด และนำไปผสมกับพืชส่วนที่อ่อนๆ หรือส่วนยอดความยาวไม่เกิน 6 นิ้ว หรือไม่เกิน 1 คืบ ที่หั่นหรือบดละเอียดเช่นกัน แล้วนำมาผสมกัน ในอัตราส่วน ไข่หอยเชอรี่บดละเอียด :
กากน้ำตาล : พืชส่วนอ่อนบดละเอียด และน้ำหมักหัวเชื้อจุลินทรีย์ พด.2 เช่นเดียวกับวิธีที่ 1
วิธีที่ 4 การทำน้ำหมักชีวภาพ จากเนื้อหอยเชอรี่
นำตัวหอยเชอรี่ทั้งตัวจำนวนเท่าใดก็ได้มาต้ม
ในกระทะ พร้อมทั้งใส่เกลือแกงผสมไปด้วยในจำนวน
พอเหมาะ เพื่อให้เนื้อหอยเชอรี่แยกจากเปลือกได้ง่ายขึ้น แล้วนำเฉพาะเนื้อหอยเชอรี่มาบดให้ละเอียดให้ได้ จำนวน 3 ส่วน เพื่อผสมกับกากน้ำตาล และน้ำหมักจากเชื้อจุลินทรีย์ พด.2 คนให้เข้ากัน แล้วนำไปหมักตามขบวนการ เช่นเดียวกับวิธีที่ 1
วิธีที่ 5 การทำน้ำหมักชีวภาพ จากเนื้อหอยเชอรี่และพืชสด
นำเนื้อหอยเชอรี่ที่ได้จากการต้มกับเกลือเหมือนวิธีที่ 4 มาบดให้ละเอียด แล้วนำไปผสมกับกากน้ำตาล และชิ้นส่วนของพืชที่อ่อนๆ เหมือนกับวิธีที่ 3 อัตราส่วน เนื้อหอยเชอรี่บดละเอียด : กากน้ำตาล: พืชบดละเอียด : น้ำหมักหัวเชื้อจุลินทรีย์ พด.2 คนผสมให้เข้ากันอย่างดี แล้วนำไปหมักตามขบวนการ เช่นเดียวกับวิธีที่ 1
วิธีที่ 6 การทำน้ำหมักชีวภาพ จากเนื้อหอยเชอรี่ ไข่หอยเชอรี่ และพืชสด
วิธีการนี้ เป็นการผสมผสานการทำน้ำหมักแบบเบ็ดเสร็จ ไม่ต้องแยกวัสดุแต่ละชนิด ควรใช้ดังนี้ เนื้อหอยเชอรี่พร้อมเปลือกหรือเนื้อหอยเชอรี่อย่างเดียว : ไข่หอยเชอรี่ : พืชอ่อน คนผสมให้เข้ากันอย่างดี แล้วนำไปหมักตามขบวนการ เช่นเดียวกับวิธีที่ 1
จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลน้ำหมักชีวภาพจากหอยเชอรี่พบว่า ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำหมักจากหอยเชอรี่ ประมาณ 4.2-4.9 นับว่าเป็นกรดค่อนข้างมาก เวลานำไปผสมหรือนำไปใช้ จะต้องระมัดระวัง หากนำไปใช้ในปริมาณมาก จะเป็นพิษกับต้นพืชที่มีลักษณะอ่อนแอต่อการเจริญเติบโตในระยะแรกได้ ในหลักการให้ใช้อัตราเจือจางที่สุด เช่น 5-20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร แล้วลองใช้กับพืชที่ต้องการนำไปใช้ประโยชน์ก่อน และสังเกตการตอบสนองต่อปุ๋ยน้ำหมักจากหอยเชอรี่ / ไข่ / พืช
หากไม่แสดงอาการเป็นพิษก็สามารถเพิ่มขึ้นได้
การทำน้ำหมักชีวภาพนั้น ทำไม่ยาก และสะดวกในการใช้ประหยัดต้นทุน ไม่มีมลพิษ รักษาน้ำและรักษาดินให้ยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้แล้ว ยังทำให้ผลผลิตเพิ่มพูนทวีขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีที่มีราคาแพง และบางทีอาจมีผล
กระทบกับพื้นดินด้วย
นาย รัตวิ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี