7 ต.ค. 58 พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังเป็นประธาน ประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าที่ประชุมได้รายงานถึงสถานการณ์น้ำจาก 4 เขื่อนหลักของพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา โดย ณ วันที่ 4 ตุลาคม มีปริมาณน้ำ 9,826 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำใช้การได้ 3,130 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ และน้อยกว่าปีที่ผ่านมา โดยพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ครอบคลุม 22 จังหวัด คาดมีประชาชนจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตภัยแล้งประมาณ 330,000 ครัวเรือน
ล่าสุด มาตรการช่วยภัยแล้ง ได้กำหนดกรอบวงเงินกว่า 11,151 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินจากงบประมาณปี 2559 จำนวน 6,752 ล้านบาท และงบกลางสนับสนุน 4,071 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานตามแผนช่วยเหลือทั้งหมด 8 มาตร 45 โครงการ และเพื่อให้การดำเนินการ โครงการ เป็นไปตามความต้องการของชุมชนเพื่อบรรเทาผลกระทบภัยแล้ง ที่ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องจะปูพรมลงพื้นที่ เพื่อสำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างตรงจุด พร้อมกำหนดงบประมาณที่จะต้องเสนอของบกลางเพิ่ม โดยจะเริ่มลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม คาดใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลประมาณ 1 เดือน เนื่องจากพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา กำลังจะเข้าสู่ช่วงแล้งก่อนพื้นที่อื่น ในขณะที่พื้นที่อื่นเข้าสู่ช่วงแล้ง ในช่วงเดือน ธันวาคม จึงต้องเร่งสำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้เร็วที่สุด โดยจะมีผู้ว่าราชการในแต่ละจังหวัดเป็นแม่งาน ในพื้นที่ด้วย
อย่างไรก็ตามในส่วนการดำเนินการตามนโยบายของทางกระทรวงเกษตรนั้นตนได้มีการสั่งการให้ทุกหน่วยงาน เร่งจัดทำแผนรายงานความคืบหน้าให้เป็นไปตามแผนที่ละลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตให้ได้ โดยต้องมีการรายงานความคืบหน้าทุกสัปดาห์ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ เรื่องยางพารา ที่จะต้องเร่งผลักดันให้มีการเดินหน้า ในการแก้ปัญหาใกับเกษตรกรในอานคต เนื่องจากมีพระราชบัญญัติการยาง ซึ่งการยางแห่งประเทศไทยต้องเร่งร่างระเบียบให้เป็นไปตาม พรบ.ยางให้เสร็จภายใน 120 วัน ให้ได้ขณะเดียวกันในส่วนของกรมส่งเสริมการเกษตรจะต้องเร่งจัดการให้ 882 ศูนย์ เรียนรู้ที่มีอยู่ ให้สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเกษตรกรให้ได้ทั้งหมด ภายใน ปี 2559
พลเอกฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับงบประมาณสูงสุด 3,969 ล้านบาท/กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม 3,463 ล้านบาท และกระทรวงการคลัง 1,800 ล้านบาท โดยงบส่วนใหญ่ที่ที่กรมชลประทาน ในเรื่อของการก่อสร้าง ซึ่ง ตนได้กำชับให้ทำงานอย่างโปร่งใส โดยจะต้องไม่มีการทุจริตเด็ดขาด ขณะที่กรมอื่นๆ จะต้องเร่งรัดในการ ทำตาม กรอบการทำงานของตนเองให้เป็นไปตาม ภาระหน้าที่ ไม่ใช่เน้นประชาสัมพันธ์ เหมือนที่ผ่านมา
“จากนี้ไปผมลงพื้นที่ต้องไม่ให้ชาวบ้านไปรอเป็นวันๆ ผมไม่ชอบ ทุกอย่างต้องทำงานไปไม่ใช่รอให้ผมไปตรวจ ถึงทำงาน ต้องทำงานของตน ต้องไม่เน้นงานอีเว่น เวลาผมลงพื้นที่ผมก็จะไปของผมเอง ไม่ต้องการให้พาชาวบ้านมา คอย หน้าที่ใครมีอะไรก็ ทำไป เสียเวลางาน "รมว. เกษตรกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี