สหกรณ์การเกษตรสว่างภูมีพัฒนา จำกัด จังหวัดนครพนม เกิดขึ้นจากการรวมกลุ่มของบุคคล ที่มีความต้องการปลูกปาล์มน้ำมันในจังหวัดนครพนม โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อดำเนินกิจการประกอบการเพาะเลี้ยงพันธุ์กล้าต้นปาล์ม เพื่อสนับสนุนให้แก่สมาชิกได้รับต้นกล้าพันธุ์ดี ให้มีผลผลิตสูง และเพื่อจำหน่ายให้แก่บุคคลทั่วไป เดิมใช้ชื่อว่า สหกรณ์ผู้ปลูกปาล์มน้ำมันนครพนม จำกัด ได้รับการจดทะเบียนจัดตั้งสหกรณ์ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2548 และเริ่มดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา
ต่อมาที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2557 ได้มีมติขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ โดยขอเปลี่ยนชื่อ สหกรณ์ผู้ปลูกปาล์มน้ำมันนครพนม จำกัด เป็นสหกรณ์การเกษตรสว่างภูมีพัฒนา จำกัด เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เนื่องจากชื่อของสหกรณ์เดิมไม่สอดคล้องกับการประกอบอาชีพหลักของสมาชิก โดยสมาชิกส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพทำนา และส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมันไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ปัจจุบันสหกรณ์การเกษตรสว่างภูมีพัฒนา จำกัด ดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกเป็นหลัก โดยการให้บริการแก่สมาชิกอย่างทั่วถึง และตรงต่อความต้องการของสมาชิก เพราะสมาชิกทุกคนคือหัวใจของสหกรณ์ ที่ต้องรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ให้ช่วยคิด ช่วยควบคุม ช่วยสนับสนุนเงินทุนแก่สหกรณ์ โดยธุรกิจที่สหกรณ์ ดำเนินงานได้แก่ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจรับฝากเงิน นอกจากนี้ ยังได้นำแนวทางตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการเกษตรแบบผสมผสานไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีผู้นำการเกษตรสว่างภูมี จำกัด ซึ่งเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จ สามารถเป็นต้นแบบ เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์และบุคคลทั่วไปได้นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
ความสำเร็จของสหกรณ์การเกษตรสว่างภูมีพัฒนา จำกัด เกิดขึ้นได้จากการร่วมแรงร่วมร่วมใจกันของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะ
เป็นสมาชิกสหกรณ์ที่มีจิตสำนึกอยู่เสมอว่าสหกรณ์เป็นของสมาชิก โดยร่วมทำธุรกิจกับสหกรณ์อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมีคณะกรรมการดำเนินการและฝ่ายจัดการที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเสียสละ สุจริต โปร่งใส เพื่อให้การขับเคลื่อนบรรลุเป้าหมายที่กำหนด ทำให้สหกรณ์มีความเจริญก้าวหน้า ตลอดจนสมาชิกทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
ดร.วิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกุ้งไทย เปิดเผยว่า เนื่องด้วยขณะนี้สถานการณ์โรคตายด่วน (EMS) เริ่มส่งสัญญาณในทิศทางที่ดีขึ้น จึงทำให้กำลังการผลิตกุ้งทะเลของเกษตรกรทั่วประเทศเพิ่มปริมาณมากขึ้น โดยผลผลิตกุ้งทะเลในปี 2558 (มกราคม - กันยายน) มีปริมาณเพิ่มขึ้น 17.22 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่ผ่านมา ในช่วงเวลาเดียวกัน ประกอบกับในระหว่างนี้มีการพักออเดอร์ของคู่ค้าที่สำคัญๆ จึงทำให้ผู้ประกอบการห้องเย็นต้องชะลอการสั่งซื้อกุ้งจากเกษตรกรส่งผลให้ราคากุ้งทะเลเริ่มตกต่ำ สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งของไทย ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการร้องขอให้ภาครัฐพิจารณาความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน
โดยผลจากการประชุมดังกล่าวได้มีมติให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมกุ้งไทย เพื่อร่วมหารือกันอย่างสม่ำเสมอ
ซึ่งในระหว่างนี้จะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อวิเคราะห์ปัญหาตลอดห่วงโซ่การผลิตของอุตสาหกรรมกุ้ง เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีความชัดเจนและตรงประเด็นยิ่งขึ้น โดยให้มีผู้แทนของกรมประมง ผู้แทนสำนักเศรษฐกิจการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ผู้ประกอบการห้องเย็น และผู้แทนเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ร่วมเป็นคณะทำงาน
นอกจากนี้ กรมประมงได้ดำเนินการเสนอโครงการ “ปรับโครงสร้างระบบการเลี้ยงเพื่อพลิกฟื้นการผลิตกุ้งและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันอุตสาหกรรมการผลิตกุ้งทะเลของประเทศไทยอย่างยั่งยืน” ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ซึ่งหากได้รับการอนุมัติก็จะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรได้อีก
ทางหนึ่งด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี