สกู๊ปพิเศษ : บิ๊กซีร่วมกับมูลนิธิสายธารแห่งความหวัง ชวนบริจาค‘ของเล่นใหม่’
ให้ผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งรักษายาก โครงการ‘Big C Wishing Well Gift For Life’
บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ร่วมกับมูลนิธิสายธารแห่งความหวัง (Wishing WellFoundation) องค์กรระดับชาติด้านการสานฝันและดูแลคุณภาพชีวิตเด็กโรคมะเร็งที่รักษายาก จัดโครงการ “Big C Wishing Well Gift For Life” เป็นครั้งแรก ด้วยการเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาค “ของเล่นใหม่” ให้กับน้องๆ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งชนิดรักษายากได้มีความสุขในช่วงเทศกาล และเป็นกำลังใจในการต่อสู้กับโรคร้าย นอกเหนือจากการรักษาทางกาย โดยทางมูลนิธิ จะส่งตรงของเล่นบริจาคที่ได้รับจากบิ๊กซีไปยังโรงพยาบาลเครือข่ายที่มีกว่า 25 แห่งทั่วประเทศ
นางสาววารุณี กิจเจริญพูลสิน ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “Big C Wishing Well Gift For Life” จัดขึ้นเพื่อเชิญชวนประชาชนแบ่งปันความสุขให้กับน้องๆ ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งชนิดรักษายากในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งตอกย้ำในนโยบายด้านการทำกิจกรรมเพื่อสังคมที่ครอบคลุมทั้งในด้านการพัฒนาชุมชน การศึกษา สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ มุ่งหวังอยากเห็นชุมชนและสังคมไทยดีขึ้นและประเทศชาติได้พัฒนาอย่างยั่งยืน
“ของเล่นเป็นสิ่งที่เด็กทุกคนโปรดปราน สำหรับเด็กที่ป่วยอยู่นั่นของเล่นจึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาคลายจากความทุกข์และความกังวลที่มีนอกจากนี้ของเล่นที่สร้างสรรค์ ยังเป็นการเรียนรู้ที่มีประโยชน์ต่อสมองและจิตใจของเด็ก เราเชื่อว่าของเล่นทุกชิ้นที่น้องๆ ได้รับจะช่วยเติมเต็มความสุขของเขาได้อย่างดี และการส่งมอบของเล่นเป็นกำลังใจให้เด็กๆ นี้ อาจช่วยทำให้เขาหายจากโรคร้าย และกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปกติและเติบโตอย่างมีศักยภาพได้ จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นผู้ให้ โดยร่วมแบ่งปันของเล่นใหม่ที่ไม่ผ่านการใช้มาก่อน อาทิ ตุ๊กตาชนิดขนสั้น ของเล่นเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย โมบาย ตัวต่อ ภาพวาดระบายสี หมวก กระเป๋าเป้ และอื่นๆ ได้ที่จุดรับบริจาคของเล่นโครงการ “Big C Wishing Well Gift For Life” ที่บิ๊กซี ทุกสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้นมินิบิ๊กซี) ระหว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายนนี้ สอบถามรายละเอียด
เพิ่มเติมได้ที่ 1756”
ศ.นพ.อิศรางค์ นุชประยูร ผู้ก่อตั้งมูลนิธิสายธารแห่งความหวัง กล่าวว่า มูลนิธิดำเนินงานสร้างเครือข่ายการดูแลผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคมะเร็งที่รักษายากในโรงพยาบาลต่างๆ ด้วยการบริจาคเงินเพื่อเป็นกองทุนของโรงพยาบาลนั้นๆ โดยเน้นการดูแลในแนวชีวันตารักษ์ หรือการดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยแบบองค์รวม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณ โดยไม่ได้มุ่งหวังเรื่องการหายจากโรคที่เป็นอยู่และยังให้การสนับสนุนกิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วยเด็กในโรงพยาบาลจำนวนกว่า 25 แห่งทั่วประเทศจากสถิติในปีต่างๆ ที่ผ่านมาพบว่า มีเด็กป่วยเป็นมะเร็งรายใหม่ประมาณ 1,000 คนต่อปี คิดเป็นอัตราร้อยละ 20 ต่อเด็กหนึ่งล้านคนต่อปี ในจำนวนนี้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งคือสามารถรักษาหายขาด อีกครึ่งหนึ่งคือเป็นชนิดที่รักษายากซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่า
“มีผู้ป่วยเด็กที่ป่วยเป็นมะเร็งมากมาย ได้รักษาแนวชีวันตารักษ์ (Palliative care) และกลับเข้าไปสู่การใช้ชีวิตปกติ อาทิ กรณีของน้องตองที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมหมวกไต ซึ่งเป็นมะเร็งที่พบในเด็ก เริ่มป่วยตั้งแต่อายุ 3 ขวบครึ่ง และได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด ให้ยาเคมีบำบัด และฉายรังสีจนครบขั้นตอนการรักษา เมื่ออายุ 5 ขวบ ได้มีการกระจายของโรคไปที่กระดูกสันหลังได้เข้าสู่การรักษาแบบชีวันตารักษ์จนถึงปัจจุบันตัวโรคยังคงสงบอยู่ ขณะนี้น้องมีอายุ 15 ปี และกลับเข้าเรียนหนังสือเหมือนเด็กทั่วไปแล้ว แม้จะล่าช้ากว่าเกณฑ์ไปบ้าง เนื่องจากตัวโรคที่ใช้เวลานานในการรักษา ช่วงแรกๆ จึงแทบไม่ได้ใช้ชีวิตเช่น เด็กคนอื่นๆ ชีวิตวนเวียนอยู่เพียงแค่บ้านและโรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี