ต้องบอกว่า “มึนไปตามๆ กัน และตามด้วยเสียงการวิจารณ์กันแซด เมื่ออยู่ๆ ปลัด “ฝน” ธีรภัทร ประยูรสิทธิ ของกระทรวงเกษตรฯก็ลงนามคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 9 ในตำแหน่งรองอธิบดี 4 ตำแหน่ง พร้อมกัน ตามเลขที่ระบุในหนังสือ คำสั่งเลขที่ 950/2558 เรื่องการรับโอนข้าราชการพลเรือน เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยมีการย้ายข้ามกรม ทั้ง 4 กรม ที่กระทรวงเกษตรฯ ไม่เคยมีมาก่อนเพราะปกติ เมื่อมีการแต่งตั้งโยกย้าย ระดับรองอธิบดี ไปเป็นผู้ตรวจราชการ ในระดับ 10 คนที่ จะขึ้นในตำแหน่งรองอธิบดี มักจะมีการเสนอ แต่งตั้ง โดยเอาคนในกรมเดิมขึ้น ไปนั่งแทนตำแหน่งที่ว่างลง ตามที่อธิบดีกรมต่างๆ เสนอไปถึงปลัดกระทรวงฯ
แต่ครั้งนี้ “กลับมีการเลือกที่จะปรับเปลี่ยนโยกย้ายตำแหน่งรองอธิบดี จากกรมหนึ่งไปอีกกรมก่อนแต่งตั้งในตำแหน่งรองอธิบดีที่เหลือๆ ซึ่งเรื่องนี้มีผู้ให้ข้อมูลว่าการโยกย้ายครั้งมีนัย คือการปรับเพื่อเสริมทัพในกรมที่ยังมีจุดอ่อน และส่งสัญญาณว่า เป็นข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ระดับผู้บริหารต้องพร้อมที่จะรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นเพียงฟ้าแลบ และอาจมีฟ้าผ่า ในตำแหน่งที่สูงกว่าระดับรองอธิบดี หากงานที่สั่งไปไม่ได้ตามเป้าหมายในเรื่องนโยบายทั้งของรัฐบาลและรัฐมนตรี ที่ย้ำมาหลายเดือน เพราะว่ากันว่า เรื่องของงาน ท่านรัฐมนตรีที่ชื่อ “พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ” ประเมินผลงาน ไม่เกิน 3 เดือน นั้นหมายถึง ก่อน 3 เดือนก็เห็นถึงความชัดเจนว่าใครจะได้ไปต่อ หรือ ถูกโหวตออก ที่สำคัญในข้อมูลเชิงลึก แว่วว่า ขณะนี้ มีตำแหน่งอธิบดี ไม่ผ่านประเมินอย่างน้อย 2 ตำแหน่งที่ยังทำงานไม่เข้าตาโดย อาจได้ของขวัญที่ไม่พึงประสงค์ต้องหลุดจากตำแหน่งหลังปีใหม่ ที่กำลังใกล้เข้ามาถึง เพราะยังมีตำแหน่งผู้ตรวจราชการที่ว่างๆ ไว้ ด้วย 1 ตำแหน่ง ที่ยังไม่ตั้งใครต้องรอติดตามว่าจะเป็นของใครเอ่ย
ขึ้นหรือลง
มาดูใน 4 ตำแหน่งของรองอธิบดี ที่มีข้อมูลว่า ปรับเพื่อเสริมทัพ ตำแหน่งคนแรก คือ นายคนิต ลิขิตวิทยาวุฒิ จากรองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรไปนั่งตำแหน่ง รองอธิบดี กรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งถือว่ามีภาษีดีขึ้น จากตำแหน่งเดิม โดยว่ากันว่าถูกวางตัวให้ไปช่วยในเรื่องการจัดการเรื่องการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ต้องลองดู ว่านายโอฬาร พิทักษ์ อธิดีกรมส่งเสริมการเกษตร จะมอบหมายงานให้มากน้อยแค่ไหน เพราะที่ผ่านมาคุณพี่ “โอฬาร“ไว้ใจคนทำงานคู่ใจไม่กี่คน มาดูอีกคน คือนายคมสัน จำรูญพงษ์ รองเลขาฯสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ หรือมกอช. มานั่งเป็น รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร หรือ สศก. แทนนายคนิต ว่ากันว่า คนนี้ ช่วงระยะเวลา 2 ปี ย้ายมาแล้วถึง 3 หน่วยงาน จากรองอธิบดีกรมฝนหลวงฯ มานั่งเป็นรองเลขาธิการ มกอช. และมาเป็นรองเลขาธิการ สศก. ในตำแหน่งล่าสุด และถูกวางตัวให้ เข้ามาช่วยวางระบบสารสนเทศ ด้านข้อมูลการเกษตรที่ยังเป็นจุดอ่อนของ สศก. เพราะที่ผ่านมา มีการพูดกันหนาหูว่า ข้อมูลของ สศก. ไม่สามารถ นำไปใช้ในการประกอบในการตัดใจในระบบนโยบายด้านการเกษตรได้ และถูกติติงอย่างรุนแรงในสมัย ที่ นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯกลางที่ประชุมว่า ข้อมูลของสศก. ล้าหลังย้อนยุค
มาดูอีกคนคือ นางวราภรณ์ พรหมพจน์ รองอธิบดีกรมประมง ย้ายไปเป็น รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ว่าคนนี้ มีความเชี่ยวชาญเรื่อง ห้องแลป หรือเรื่องการตรวจสอบรับรองในห้องปฏิบัติการ คนหนึ่ง ซึ่งอาจให้มาช่วยเสริมทัพดูแลเรื่องการวิจัย ต่างๆ ซึ่งถือว่าแปลกมาก เพราะ เรื่องประมง กับพืชในงานของกรมวิชาการเกษตรถือว่า คนละสายงานสิ้นเชิง ที่สำคัญ กรมวิชาการเกษตร ถือเป็นกรมที่ได้รับการยอมรับในเรื่องการตรวจสอบรับรองระดับโลกด้วยซ้ำ ขณะเดียวกัน ก็มีผู้เชี่ยวชาญ เรื่องการทดลองในห้องแลปจำนวนมากเกือบทุกทาง และแทบจะเหยียบกันตาย ในกรม ซึ่งต้องดูกันต่อไปว่า จะเดินหน้าอย่างไร มาดูตำแหน่งสุดท้าย คือ นายอลงกรณ์ กรณ์ทอง รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ที่เหลืออายุราชการ ไม่ถึงปี ต้องย้ายบ้านด่วน ไปนั่งในตำแหน่งรองอธิบดี กรมการข้าว ช่วยรุ่นน้องที่เป็นอธิบดี กรมการข้าวอย่างนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ไม่ใช่ เรื่องแปลกเพราะกลุ่มพืชไปกลุ่มพืช ซึ่งพี่น้องจะได้ช่วยกัน เพียงแต่อาจโดนคนในคนข้าวที่กำลังจะขยับขึ้นตำแหน่งรองอธิบดีถูกปิดทาง แต่ก็แค่อีก 10 เดือนที่ท่านรองอลงกรณ์ จะเกษียณเท่านั้นจากนี้ไป ต้องติดตามหลังฟ้าแลบ จะมี ฟ้าผ่าที่ไหน เพราะเรื่องนี้ถือเป็การเตือนภัยระดับ 3 จาก 5 ระดับจากผู้ใหญ่ในกระทรวงฯ ถึง ผู้ปฏิบัติว่า ทุกคนต้องพร้อมเปลี่ยนแปลง
ราชดำเนิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี