นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า จากนโยบายของ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่ขอความร่วมมือเกษตรกรงดทำนาปรังปี 2558/2559 ในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ลุ่มแม่น้ำแม่กลอง เนื่องจากห่วงสถานการณ์น้ำที่ไม่เพียงพอต่อการจัดสรรเพื่อการเกษตรนั้น ส่งผลต่อความต้องการเมล็ดพันธุ์ข้าวของเกษตรกรให้ลดลง จากเดิมที่มีความต้องการเมล็ดพันธุ์ข้าวทางการตลาดปีละประมาณ 800,000 ตัน โดยมีกรมการข้าวเป็นผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ดีได้ประมาณ 85,000 ตัน/ปี
ดังนั้น กรมการข้าว จึงขอให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องในธุรกิจเมล็ดพันธุ์ข้าวทั้งผู้ผลิตและจำหน่าย เช่น เกษตรกรและกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ สหกรณ์การเกษตร ศูนย์ข้าวชุมชน ภาคเอกชน และร้านจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว ต้องติดตามข้อมูลเพื่อการตัดสินใจวางแผนการผลิตและจำหน่ายอย่างใกล้ชิด ทั้งปริมาณความต้องการ ชนิดพันธุ์ และสต๊อกเมล็ดพันธุ์ที่คงเหลือ ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เนื่องจากการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวมีต้นทุนสูง ด้วยวิธีการผลิตที่ประณีตกว่าการผลิตข้าวเพื่อบริโภค ราคาจำหน่ายเมล็ดพันธุ์จึงสูงเกือบเท่าตัวของราคาข้าวเปลือก ประมาณ 14,000-15,000 บาท/ตัน ในขณะที่ราคาข้าวเปลือกประมาณ 8,000 บาท/ตันเท่านั้น
ทั้งนี้ เมล็ดพันธุ์ข้าวนั้นมีการควบคุมโดยพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ.2518 เพื่อให้มีคุณภาพ ตามมาตรฐาน และต้องมีใบอนุญาตจำหน่ายถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวได้แล้วควรจำหน่ายและเพาะปลูกภายในฤดูกาลถัดไป เพื่อคงคุณภาพให้มีอัตราความงอกไม่ต่ำกว่า 80% เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีมีอายุประมาณ 7-8 เดือน หลังจากนั้นจะเสื่อมคุณภาพลงเรื่อยๆ จนไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐาน และต้องจำหน่ายเป็นข้าวเพื่อบริโภคแทนเพื่อคืนทุน เช่นเดียวกับร้านจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวต้องเร่งระบายสินค้าให้ถึงมือเกษตรกรเร็วที่สุด เพราะหากนำไปจำหน่ายเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ไม่มีคุณภาพ นอกจากส่งผลต่อความเชื่อมั่นของร้านค้าแล้ว ยังต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอีกด้วย
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการยืดอายุเมล็ดพันธุ์ข้าวให้มีคุณภาพได้นานขึ้นประมาณ 10 เดือน จึงขอแนะนำให้ผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวควรเพิ่มความประณีตในการจัดการหลังเก็บเกี่ยว ด้วยการเก็บเกี่ยวในระยะสุกแก่เต็มที่ หรือระยะพลับพลึง แล้วนำเมล็ดพันธุ์ข้าวลดความชื้นโดยเร็วให้เหลือความชื้นไม่เกิน 11% เช่น วิธีการตากบนดินหรือพื้นซีเมนต์ก็ต้องมีตาข่ายรองพื้น และไม่ให้โดนแดดทั้งวัน หรือวิธีการอบในอุณหภูมิไม่เกิน 40 องศาเซลเซียส ด้วยการใช้ลมร้อนไล่ความชื้น 6-12 ชั่วโมง จึงค่อยๆ เพิ่มความร้อน ในการอบนานประมาณ 3 วัน แล้วคัดทำความสะอาดเมล็ดพันธุ์ให้เรียบร้อยก่อนบรรจุถุงเก็บในที่ร่ม และแห้งรอการจำหน่าย
ส่วนเกษตรกรที่ต้องการลดปัจจัยการผลิตโดยเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เอง ก็ขอให้คำนึงถึงการรักษาบริสุทธิ์ของพันธุ์ จึงต้องทำความสะอาดรถเก็บเกี่ยวก่อนเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ในแปลง เพื่อป้องกันพันธุ์ความปนจากแปลงนาอื่น หลังเก็บเกี่ยวแล้วต้องให้เมล็ดพันธุ์พักตัวนาน 2 เดือน ก่อนนำไปเพาะปลูก และเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าวทุก 2 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี