13 พ.ย. 58 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อม พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 1 และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ
และรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน เรื่องการตรวจสอบข้อร้องเรียนในกรณีปฏิบัติงานล่าช้า และการเรียกรับผลประโยชน์ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ว่า สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับการร้องเรียนในกรณีปฏิบัติงานล่าช้า และการเรียกรับผลประโยชน์ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีพิเศษที่ 114/2558 กรณีบริษัทดิจิตอล คราวน์ โฮลดิ้ง จำกัด มีพฤติการณ์กระทำความผิดฝ่าฝืนพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งในคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวน 94 คน ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นพิจารณาของศาล ต่อมาในคดีดังกล่าวมีผู้เสียหายมาแสดงตัวเพิ่มมากขึ้น จึงได้มีการแยก ออกมาดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาอีกเป็นคดีพิเศษที่ 1/2556 แต่คดีพิเศษดังกล่าวนี้ไม่คืบหน้า และล่าช้าจนได้รับการร้องเรียน
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า หลังจากที่ พ.ต.ต.สุริยา ได้เข้ามารับหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน จึงได้เร่งรัดติดตามและปรับแนวทางการทำงานใหม่ทั้งหมด จนนำไปสู่การได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมและยึดอายัดทรัพย์สินได้อีกกว่า 600 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558 ได้มีสนธิกำลังเข้าตรวจค้นโดยอนุมัติหมายศาลอาญา ให้ทำการตรวจค้นสถานที่เป้าหมายจำนวน 3 แห่ง ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายในการตรวจค้น คือ บริษัท ดิจิตอล คราวน์ โฮลดิ้ง จำกัด (DCHL) ตั้งอยู่ย่านห้วยขวาง กรุงเทพฯ ในการตรวจค้นประกอบไปด้วยทนายความผู้รับมอบอำนาจของบริษัทกับพนักงานบริษัท รวมทั้งเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าเป็นพยานในการตรวจค้น ผลการตรวจค้นส่วนหนึ่งปรากฏสลิปฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขบัญชี 096-0-XXXX จำนวน 20,000 บาท วันที่ 16 สิงหาคม 2556 ซึ่งเป็นคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 114/2555
พ.ต.ต.สุริยา จึงตั้งคณะทำงานหาข้อเท็จจริง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่มีชื่อปรากฏในเอกสาร แต่ผลการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงพบว่ามีเงินเข้าบัญชีตามรายการที่ตรวจพบจริง และไม่ปรากฏว่ามีเหตุผลอันควร ที่ทางฝ่ายผู้ต้องหาจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรายดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงพฤติการณ์ ที่ส่อไปในทางใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ เรียกรับผลประโยชน์ตามรายละเอียดการตรวจสอบปรากฏหลักฐานเบื้องต้น ดังนี้
1.สลิปฝากเงินเข้าบัญชีของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 20,000 บาท ในวันที่ 16 สิงหาคม 2556 ตรงกับรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษผู้ถูกกล่าวหา ที่เปิดไว้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาแจ้งวัฒนะ
2.เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2555 มีเงินเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขาแจ้งวัฒนะ ของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 300,000 บาท ตรงกับหมายเลขเช็คคืนเงินประกันตัวผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 114/2555 ดังกล่าว และปรากฏลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้ถูกกล่าวหา อยู่ในเช็คสั่งจ่ายผู้ต้องหาด้วย
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าว และเพื่อความโปร่งใสในการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และเพื่อมิให้เกิดการเสียหายแก่ทางราชการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวพักราชการ เพื่อรอผลการสอบสวน และจะได้เร่งรัดดำเนินการให้ทราบผลโดยเร็วต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี