13 พ.ย. 58 ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน มีพิธีลงนามความร่วมมือ 5 ฝ่ายระหว่างภาครัฐของสองประเทศ เพื่อพัฒนายางพาราไทยทั้งระบบ โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นสักขีพยานการลงนาม ซึ่ง นายพินิจ จารุสมบัติ นายกสภาความสัมพันธ์ไทย-จีน และส่งเสริมวัฒธรรม นายกวง ชิง อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีชิงเต่า นายจาง เหย็น รองผู้อำนวยการบริหาร บ.รับเบอร์ วัลเล่ย์ เป็นรัฐวิสาหกิจของจีน พร้อมด้วยนายชูศักดิ์ ริมสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมลงนามก่อตั้งวิทยาลัยยางพาราไทย ขึ้นที่ม.สงขลานครินทร์
นายพินิจ กล่าวว่านับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ ที่มีความร่วมมือสองประเทศพัฒนาบุคคลกรในด้านเทคโนโลยี มีการแลกเปลี่ยนอาจารย์ผู้สอน และเปิดหลักสูตรให้นักศึกษาไทยและในอาเซียน ซึ่งในขณะนี้ได้มีบริษัทจากจีนมาตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์ ในไทยแล้ว 4 แห่ง
"วิทยาลัยยางพาราไทย เปิดหลักสูตรการสอนเกี่ยวเทคโนโลยี การวิจัยพัฒนาเช่นการผลิตยางรถยนต์ ล้อเครื่องบิน หมอน ที่นอน ซึ่งความร่วมมือด้านการเรียน การสอนมุ่งเน้น แปรรูปนวตกรรมไปสู่การผลิต ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้จากปีละ 6 แสนล้าน เพิ่มเป็นล้านๆบาทในอนาคต และเกษตรกรสามารถพึ่งตนเองได้ โดยปัญหาราคายางตกต่ำจากที่ขายแต่น้ำยางดิบเป็นวัถตุดิบ ต่อไปจะสามารถร่วมทุนกับโรงงาน ได้โดยตรงพร้อมโครงการนี้ยังเปิดอบรมให้ชาวสวน สถาบันเกษตรกร มีองค์ความรู้ ไม่ผลิตแต่ยางหนังสติก ก้าวไปผลิตล้อยาง "นายพินิจ กล่าว
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า วิทยาลัยยางพาราไทยจีน จะเปิดให้ทันปี 60 เปิดสอน3 สาขา โพลิเมอร์ เอนจีเนียริ่ง และออโต้เมขั่น สาขาละ100 คน เป็นหลักสูตรสองบวกสอง คือเรียนไทยสองปี ไปเรียนที่จีนอีกสองปี เมื่อจบแล้วเข้าทำงานโรงงานทำล้อยางรถยนต์ได้ทันที และจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้นให้กับเกษตรกรด้วย และผลิตบุคคลกรที่จบช่างกล ให้กับโรงงานที่มาตั้งแล้ว มีขนาดการลงทุนเป็นหมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมารัฐสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยตั้งโรงงานล้อยาง เพราะ เป็นประโยนช์เกษตรกรรากหญ้า แต่ผู้ประกอบการไทยยังไม่กล้ามาทำเห็นว่า ตลาดยังแคบไป
นายกวง กล่าวว่า รัฐบาลจีน มีนโยบายให้ช่วยเหลือการเรียนฟรีด้วย เพราะเป็นความร่วมมือระยะยาว โดยมุ่งหวังให้ครูอาจารย์ไทย มีความรู้ความเชี่ยวชาญเพื่อขยับการแปรรูปยางไทยออกจากพื้นฐานการผลิตแบบเดิม
ด้านนายจาง กล่าวว่ารับเบอร์วัลเล่ย์ มีจุดมุ่งหมายหลักที่พัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราไทยทั้งระบบ ทำให้การแปรรูปเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นนโยบายภาครัฐของจีนและไทย โดยสร้างบุคลากรกรที่มีความรู้ครบครันเป็นโมเดลของพื้นที่เอง แก้ปัญหาขาดแคลนคนกรีดยางได้ ตอนนี้ได้พัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์กรีดยางได้สำเร็จ และนำมาทดลองใช้สวนยางของนายพินิจ ที่จ. บึงกาฬ ที่แรกและครั้งแรกในประเทศไทย จะนำมา มากกว่า1 พันตัว สามารถกรีดยางไม่กี่วินาที ต่อรอบ โดยหุ่นยนต์เก่งกว่าคนกรีดมาก เพราะคนยังพลาดได้ แต่หุ่นยนต์มีระบบดิจิตอลนำไปเกาะติดไว้กับต้นยาง และทำการวัดความลึกความกว้างได้แม่นยำไม่ทำให้หน้ายางเสียในช่วงที่กรีด โดยยังกำหนดระยะเวลาที่มีน้ำยางออกมากได้ ทำให้ได้น้ำยางเพิ่มขึ้น 20-30% ราคาตัวละ5 พันบาท ซึ่งคนกรีดยางใช้เวลากรีดจากตีสองกว่าๆถึง7 โมงเช้ากว่าจะเสร็จ แต่หุ่นยนต์ทุกเครื่องสั่งทำงานพร้อมกันหมด โดยจะนำมาสาธิตวันที่ 21 ม.ค.วันยางพาราโลก ที่บึงกาฬ ในสวนยาง1,000 กว่าไร่ อายุ15 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี