รบ.พอใจงานเข้าเป้า
กระตุ้นศก.อีสานล่าง
ขยายตัวพุ่งร้อย2.5%
เร่งเพิ่มแผนสู้ภัยแล้ง
เมื่อวันที่ 15พฤศจิกายน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ของนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลส่งผลให้เศรษฐกิจกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนล่าง 2 ได้แก่ จ.อุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 2.5 และในปี 2559 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.2 สำหรับนโยบายการใช้จ่ายภาครัฐ ได้แก่ การลงทุนขนาดเล็ก การส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับตำบล และโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรและคนยากจน มีงบประมาณรวมทั้งกลุ่มจังหวัด 5,195.17 ล้านบาท ส่งผลให้ดัชนีการใช้จ่ายภาครัฐของกลุ่มจังหวัด ปี 2558 ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ6.4 และในปี 2559 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 17.2
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี มีผู้ยื่นคำขอกู้จากสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐและธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ ทั้งกลุ่มจังหวัด 677 ราย รวม 5,940.23 ล้านบาท เป็นผลให้ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนกลุ่มจังหวัดขยายตัวในปี 2558 เป็นร้อยละ 5.1 และคาดว่าปี 2559 จะขยายตัวร้อยละ 7.6 ขณะที่โครงการส่งเสริมความเป็นอยู่ระดับหมู่บ้าน หรือกองทุนหมู่บ้าน และโครงการตำบลละ 5 ล้าน ก่อให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่และการบริโภคเพิ่มขึ้น โดยมีกองทุนหมู่บ้านระดับ A และ B ของกลุ่มจังหวัด 5,483 แห่ง มีเงินเข้าสู่ระบบ 5,483 ล้านบาท ส่งผลให้ดัชนีการบริโภคภาคเอกชนปี 2558 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 5.6 และคาดว่าในปี 2559 จะขยายตัวร้อยละ 7.8
"รัฐบาลพอใจผลการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนล่างเป็นอย่างมาก ท่านนายกฯ จึงได้สั่งการส่วนที่เกี่ยวข้องให้วางแผนลงพื้นที่ ของนายกฯ เพื่อติดตามผล การปฏิบัติงาน ตรวจเยี่ยมและสอบทานนโยบายให้มากขึ้น โดยสิ่งที่ท่านให้ความสำคัญนอกเหนือจากเรื่องเศรษฐกิจคือการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ซึ่งจากการรายงานข้อมูลของทั้ง 4 จังหวัดพบว่า มีการจ้างงานเกษตรกรเพื่อชดเชยรายได้ และเตรียมส่งเสริมการปลูกข้าวเปียกสลับแห้งหรือที่เรียกว่าการแกล้งข้าว คือ การปล่อยน้ำเข้านาและหยุดให้น้ำสลับกันไปในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งจะใช้น้ำน้อยกว่าการทำนาปกติ อย่างไรก็ตาม จะเน้นให้เกษตรกรปลูกพืชชนิดอื่นที่ใช้น้ำน้อยก่อน นอกจากนี้ ยังมีการฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งน้ำจนสามารถเพิ่มความจุการกักเก็บน้ำได้ 17.18 ล้าน ลบ.ม. ประชาชนได้รับประโยชน์ 57,265ครัวเรือน"พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี