ลุงอีสานผูกคอดับ
รับไม่ได้ยางราคาตก
เชียงรายร้องประยุทธ์
ข้าวหอมมะลิ‘ดิ่งเหว’
เมื่อเช้าวันที่ 25 พฤศจิกายน ร.ต.ท.วิศนุ จันทะคัด ร้อยเวร สภ.โซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายบนต้นยางพาราห่างจากหมู่บ้านแสงอรุณ หมู่ที่ 7 ต.ศรีชมภู อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร จึงไปชันสูตรพร้อมด้วย พ.ต.อ.กำพล ทันตะสุวรรณ ผกก.สภ.โซ่พิสัย นพ.กษมา กนกกุลชัย แพทย์เวร รพ.โซ่พิสัย และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างศรีวิไลจุดโซ่พิสัย ที่เกิดเหตุเป็นป่าสวนยางพารา พบศพ นายเลิศ เหือดขุนทด อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 7 บ้านแสงอรุณ ต.ศรีชมภู ใช้ผ้าขาวม้าลายผูกคอตัวเองกับตาต้นยางพารา สูงห่างจากพื้นดินประมาณ 3 เมตร สภาพศพใส่เสื้อยืดแขนยาวสีกรมท่ากางเกงขาสั้นสีดำ ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยถูกฆาตกรรมแต่อย่างใด ศพเริ่มแข็งทื่อคาดว่าตายมาแล้วประมาณ 6-8 ชั่วโมง
จากการสอบถามนางค้ำ เหือดขุนทศ อายุ 51 ปีภรรยา ทราบว่า ผู้ตายนอนพักกรีดยางอยู่บนเถียงมาได้ประมาณ 6 ปี จะกลับเข้าไปนอนบ้านนานๆ ครั้ง โดยทุ่มเทให้เวลากับสวนยางพาราที่มีอยู่ 8 ไร่เป็นอย่างดี แต่มาระยะหลังเห็นบ่นว่าราคายางพาราตกเตี้ยลงแทบทุกวัน ล่าสุดเหลือกิโลกรัมละ 16 บาท สันนิษฐานว่าคงรับไม่ได้กับราคายางพาราที่ต่ำขนาดนี้ จึงปีนต้นยางสูง 3 เมตรขึ้นไปผูกคอตายประชดดังกล่าว
ทั้งนี้ จากสถิติการฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอตายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค- 23 พ.ย.58 ในจังหวัดบึงกาฬมีมากกว่า 14 ราย เขตพื้นที่ อ.เซกา และ อ.บึงโขงหลง โดยมีการเขียนจดหมายลาตายไว้ 8 ราย
วันเดียวกัน นายรัตน์ คำใส ประธานสภาเกษตรกร อ.เชียงคำ จ.พะเยา เปิดเผยว่าร่วมกับสมาชิกสภาเกษตรกรฯ ในพื้นที่พะเยาทุกตำบล 9 อำเภอ และมีแกนนำกว่า 10 คน เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยยื่นผ่านผู้ว่าฯ พะเยา (นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ) เหตุผลที่ยื่นหนังสือฯ ถึงนายกรัฐมนตรี ก็เพราะว่าราคาข้าวเปลือกทั้งข้าวเหนียว-ข้าวเจ้า ราคาถูกหรือราคาต่ำมากในรอบกว่า 10ปี เช่น ข้าวดูด หรือข้าวดิบข้าวเหนียว กก.ละ 8-9.50บาทและข้าวเจ้าหรือข้าวหอมมะลิ กก.ละ 9.90บาท การยื่นหนังสือขอให้นายกฯ มีนโยบายประกันราคาหรือรับซื้อข้าวของชาวนาอย่างน้อย กก.ละ 13-15บาท เพราะข้าวของชาวนาสิ่งเจือปน-ความชื้นไม่มากนักไม่เกิน 20-25%
ด้าน นางวนิดา ทิพย์ศักดิ์ พาณิชย์ จ.พะเยา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทาง สนง.พาณิชย์ฯ ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตจุน อ.จุน ได้จัดตลาดนัดข้าวเปลือกนำร่องปี 58/59 ครั้งที่ 1 ในเดือน พ.ย. โดยราคารับซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิเกี่ยวสดหรือข้าวดิบ ความชื้น 28-30% ก.ก.ละ 10.30 บาท และ 10.40 บาท หรือตันละ 10,350-10,400 บาท ราคานี้ซึ่งแพงหรือสูงกว่าในภาคอีสานตันละ 500 บาท ล่าสุดได้รับซื้อนำร่องข้าวของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 494 ราย ปริมาณข้าว 1,674 ตัน มูลค่านับ 17.32 ล้านบาท ในส่วนข้อปลีกย่อยของการเปิดตลาดรับซื้อให้ทางเกษตรกรชาวนา และเจ้าของโรงสีไปตกลงซื้อกันตามราคานำร่องของทางการคือ กก.ละ 10.30 และ 10.40 บาท ประกอบกับทางการหรือทางรัฐบาล ก็ไม่ได้ประกันราคาข้าวไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี