จากนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งเน้นส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแปลงใหญ่ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต โดยการบริหารจัดการที่ดี เพิ่มโอกาสในการแข่งขันและมีตลาดรองรับ ซึ่งจะสามารถสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรไทยได้ดีขึ้น
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ข้าวเป็นสินค้าหลักที่มีการส่งเสริมเข้าสู่ระบบการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่มากกว่าพืชชนิดอื่น เนื่องด้วยประเทศไทยมีเกษตรกรปลูกข้าวมากกว่า 3.7 ล้านครอบครัว ถึงแม้ว่าอาชีพทำนาจะอยู่คู่กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ก็ยังประสบปัญหาโดยเฉพาะไม่สามารถผลิตข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลผลิตต่อไร่ยังอยู่ในค่าเฉลี่ยที่ค่อนข้างต่ำ คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ที่สำคัญคือต้นทุนการผลิตสูง เนื่องจากการใช้ปัจจัยการผลิตที่เกินความจำเป็นทั้งเมล็ดพันธุ์ข้าว ปุ๋ยเคมีและสารเคมี เป็นต้น
ดังนั้น กรมการข้าวจึงได้ดำเนินการส่งเสริมการผลิตข้าวเชิงอุตสาหกรรมครบวงจรในพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มุ่งเน้นการรวมกลุ่มของชาวนาเพื่อร่วมกันพัฒนากรรมวิธีการปลูกข้าวแบบประณีต (Intensive Farming) ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ในเชิงธุรกิจครบวงจร บริหารจัดการโดยคณะกรรมการกลุ่ม มีการกำหนดบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและสมาชิก ส่วนทางกรมการข้าวให้การสนับสนุนทางวิชาการ ทั้งการจัดประชุมชี้แจงวิธีการดำเนินงาน จัดทำแปลงเรียนรู้ สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว วัสดุผลิตปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยหมัก สารชีวินทรีย์ เครื่องจักรกลในการปลูกข้าว รวมถึงมีการจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อให้ชาวนาในแต่ละพื้นที่สามารถนำองค์ความรู้ที่เหมาะสมกับลักษณะสภาพพื้นที่ของตนเองไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องมากขึ้น
อย่างไรก็ดี กรมการข้าวตระหนักถึงความสำคัญเรื่องของการถ่ายทอดองค์ความรู้ ข้อมูลข่าวสาร การผลิตข้าวเชิงอุตสาหกรรมครบวงจรในพื้นที่แปลงใหญ่ ให้แพร่หลายไปสู่พี่น้องชาวนาทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว จำเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพการส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวสู่ชาวนาผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยลดข้อจำกัดในเรื่องบุคลากรเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการผลิตข้าวของกรมการข้าวที่มีจำนวนไม่เพียงพอต่อพี่น้องชาวนาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ
นายอนันต์กล่าวเสริมว่า เพื่อกระตุ้นให้ชาวนาให้ความสนใจในข้อมูลข่าวสาร กรมการข้าวจึงได้ทำโครงการส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวให้แก่ชาวนา โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในรูปแบบเรียลิตี้แข่งขันปลูกข้าว THE SUPER FARMER เกมเกษตรกร ซึ่งคัดเลือกเกษตรกรจาก 8 จังหวัด ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดชัยนาท สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ศรีสะเกษ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด และจังหวัดสุรินทร์ จังหวัดละ 300 ราย รวมพื้นที่ปลูกข้าวกว่า 36,000 ไร่
โครงการนี้มุ่งเน้นพัฒนาการทำนาที่ลดต้นทุน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนาไทย โดยโจทย์ของการแข่งขันในปีนี้จะเป็นเรื่องการบริหารจัดการนาแปลงใหญ่ โดยให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มบริหารจัดการนาแปลงใหญ่ร่วมกัน เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มรายได้ สร้างการมีส่วนร่วมในการระดมความคิด และสร้างแผนการบริหารจัดการนาแปลงใหญ่ของชุมชนที่สามารถนำไปใช้ได้จริง โดยการถ่ายทอดเทคโนโลยีและให้ความช่วยเหลือปัจจัยการผลิต ทำให้เกษตรกรมีอำนาจต่อรองเพิ่มมากขึ้น ทั้งในด้านการจัดหาปัจจัยการผลิตและการจำหน่ายผลผลิต เกษตรกรสามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพในต้นทุนที่ต่ำลง ซึ่งจะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น
สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากบริษัท ฟาร์ม แชนเนล (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในการนำเสนอแนวทางการส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวเชิงอุตสาหกรรมครบวงจรในพื้นที่ขนาดใหญ่ ถ่ายทอดผ่านรายการคนไทยหัวใจเกษตร ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 05.00-05.30 น. และช่อง Miracle Channel ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-10.00 น. ซึ่งน่าจะเป็นเครื่องมือหนึ่งในการสร้างความตื่นตัวให้ชาวนาทั่วประเทศ ได้เห็นความสำคัญของการปรับเปลี่ยนวิถีการทำนาที่ต้องอาศัยข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยีการผลิต ที่สำคัญคือการรวมกลุ่มในรูปแบบแปลงใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน สร้างรายได้ที่พอเพียงต่อการดำรงชีพในฐานะกระดูกสันหลังของชาติที่มั่นคงต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี