จำคุกหญิงเป็ด
โทษอ่วม2ปีไม่รออาญา
ปมจัดสัมมนาเมืองน่าน
ศาลชี้อำพรางถลุงงบฯ
โดนพร้อมอดีตบิ๊กสตง.
วาง2แสนสู้ชั้นอุทธรณ์
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาคดีดำ อ.3597/2557 ที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคุณหญิงจารุวรรณเมณฑกา หรือ คุณหญิงเป็ด อายุ 69 ปีอดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน และนายคัมภีร์สมใจ อายุ 69 ปี อดีตผอ.สำนักงานบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เป็นจำเลยที่ 1-2 ความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 83
ตามฟ้องโจทก์ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2557 ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2546 จำเลยทั้งสองร่วมกันคิดปฏิบัติหน้าที่มิชอบและทุจริตด้วยการให้นายคัมภีร์ จำเลยที่ 2 ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรองประธานกรรมการ และคณะอนุกรรมการดำเนินการถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน พ.ศ. 2546 ตามคำสั่งของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่ 102/46 ลงวันที่ 1 สิงหาคม 2546 เสนอเรื่องต่อคุณหญิงจารุวรรณ จำเลยที่ 1 เพื่ออนุมัติโครงการสัมมนา “สตง.ในความคิดเห็นของสมาชิกวุฒิสภา” วันที่ 31 ตุลาคม 2546 ที่โรงแรมซิตี้ ปาร์ค อ.เมือง จ.น่าน ทั้งที่จำเลยทั้งสองทราบดีว่า วันดังกล่าวสตง.จัดถวายผ้าพระกฐินที่วัดพญาภูและวัดพระธาตุช้างดำวรวิหาร อ.เมือง จ.น่าน รวมทั้งวางแผนนำรายชื่อเจ้าหน้าที่ สตง. ที่เข้าร่วมถวายผ้าพระกฐินมีรายชื่อเป็นผู้เข้าร่วมสัมมนาด้วย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายการเดินทางและค่าที่พักในการถวายผ้าพระกฐิน อันเป็นการใช้จ่ายงบประมาณโดยไม่มีสิทธิเบิกจ่ายโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งที่ไม่มีการจัดสัมมนาจริง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำพรางนำงบประมาณ 294,440 บาท มาเพื่อประโยชน์ของตนเองและผู้อื่นโดยทุจริตเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
ต่อมาปี 2547 นายพีรไสว รัตนเอกวาปี รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่านมีหนังสือกล่าวโทษจำเลยทั้งสองต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งไต่สวนและแจ้งข้อกล่าวหา จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความของพยาน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ สตง.ในชั้นอนุฯไต่สวนของป.ป.ช. ที่เข้าร่วมสัมมนาให้การสอดคล้องกันว่า การสัมมนาไม่ได้จัดที่โรงแรมซิตี้ปาร์ค ไม่มีหัวข้อ ไม่มีการแจกเอกสารประกอบการสัมมนา ขณะที่การมาบรรยายของส.ว.น่านไม่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นตามหัวข้อที่จัดไว้ โต๊ะที่จัดมีลักษณะคล้ายโต๊ะจีนมีการรับประทานอาหารส่งเสียงดัง ไม่อาจจับใจความที่มีการบรรยายได้
นอกจากนี้ ข้อเท็จจริงยังพบว่าก่อนถึงวันจัดสัมมนาวันที่ 31 ตุลาคม 2546 ได้เปลี่ยนสถานที่จัดสัมมนาไปเป็นที่สโมสรสันติภาพ 2 ในหมู่บ้านจัดสรร มีเพียงป้ายข้อความต้อนรับจำเลยที่ 1 แต่ไม่มีข้อความระบุหัวข้อหลักสูตร สอดคล้องกับคำให้การของเจ้าหน้าที่โรงแรมซิติปาร์คที่ยืนยันว่า ก่อนถึงวันสัมมนา 3 วัน มีเจ้าหน้าที่สตง.โทรศัพท์มายกเลิกจัดงาน ขณะนั้นโรงแรมยังไม่ได้จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม จึงคิดค่าใช้จ่ายเฉพาะป้ายที่ทำไว้แล้ว 300 บาท ขณะที่เดือนพฤศจิกายน 2546 พบว่าจำเลยที่ 2 ได้เสนอโครงการสัมมนาลักษณะเดียวกับที่จัดไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2546 จึงเชื่อได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาจัดสัมมนาตั้งแต่แรก แต่เกิดจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ที่กลัวจะมีผู้เข้าร่วมน้อย จึงจัดสัมมนาวันเดียวกัน ส่วนการที่ ส.ว.น่าน มาร่วมงานก็เป็นการบรรยายพิเศษเพียงคนเดียว ซึ่งไม่จำเป็นต้องนำคนจำนวนมากเดินทางมา และเวลาสัมมนายังคลาดเคลื่อนจากกำหนด 08.30-16.30 น. เป็นเวลา 15.45-19.00 น.
ส่วนที่จำเลยต่อสู้ว่าการเปลี่ยนสถานที่เป็นการแก้ไขเฉพาะหน้านั้น ศาลเห็นว่าในการเปลี่ยนแปลงสถานที่มีการแจ้งยกเลิกโรงแรมล่วงหน้าก่อนแล้ว 3 วัน ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองเล็งเห็นตั้งแต่ต้นว่า ไม่สามารถจัดงานถวายผ้ากฐินในวัน-เวลาเดียวกันได้ และจากคำให้การพยานบางปากทราบว่าผู้ร่วมสัมมนาเตรียมชุดขาวไปร่วมงานถวายผ้ากฐินด้วย จึงเห็นได้ว่าการจัดสัมมนานั้นเป็นเท็จ มีวัตถุประสงค์ให้เดินทางไปร่วมงานถวายผ้ากฐินเป็นหลัก ทำให้ผู้ที่ร่วมงานกฐินบางส่วนที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ได้สิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปร่วม เพราะมีชื่อเป็นผู้ร่วมงานสัมมนาด้วย ทั้งที่ไม่มีสิทธิเบิกจ่ายแต่ต้น ทำให้สตง.เสียหายเป็นเงิน 294,440 บาท การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงเป็นความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 จึงพิพากษาให้จำคุกจำเลยทั้งสอง คนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลมีคำพิพากษา คุณหญิงจารุวรรณและนายคัมภีร์ยื่นสมุดบัญชีเงินฝากคนละ 2 แสนบาทขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วให้ประกันตัว
ด้าน คุณหญิงจารุวรรณ ตั้งข้อสังเกตว่า การมาร้องเรียนตนในคดีนี้ เพราะมีใครบางคนถูก สตง.เข้าไปตรวจสอบ ขณะนี้ตนยังไม่อยากพูดมาก ที่ผ่านมาตนหาเงินให้ประเทศนับแสนล้านบาท คิดว่าเงินแค่ 2 แสนกว่าบาทตนจะโกงหรือไม่ ส่วนจะยื่นอุทธรณ์สู้คดีหรือไม่ ขอหารือทนายความก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี