เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ด้านต่างประเทศ พร้อม พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ(ผบก.ตท.) และนางแคทเธอรีน อ็อกกินี ผู้ช่วยทูตฝ่ายกิจการตำรวจ สานเอกอัคราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ร่วมแถลงจับกุมนายอังเดร เอสปิแอสส์ กาโบ อายุ 39 ปี สัญชาติฝรั่งเศส มาเฟียค้ายาเสพติดรายใหญ่เป็นที่ต้องการตัวของทางการฝรั่งเศส
ทั้งนี้ผู้ต้องหาถูกจับกุมเมื่อวันศุกร์ที่ 20 พย.ที่ผ่านมา ที่อาคารลุมพินีวิว สุขุมวิท 77 โดยใช้หนังสือเดินทางประเทศฝรั่งเศสปลอมเดินทางเข้าออกประเทศไทย และอาศัยอยู่ในไทยนานเกือบ 3 ปีตั้งแต่เดือนมกราคม 2556 เคยก่อคดีโชกโชนติดคุกมากกว่า 10ครั้ง โดยล่าสุดใช้ขบวนรถสปอร์ตที่มีความเร็วสูงเหมือนภาพยนตร์เรื่อง Fast and Furious(เร็ว แรง ทะลุนรก) ลักลอบขนยาเสพติด โคเคน 4 กิโลกรัม และยาอี 10,000 ห่อ จากกลุ่มประเทศเบเนลักซ์(เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบอร์ก) เข้าฝรั่งเศสจนถูกจับกุมดําเนินคดีและศาลได้สั่งลงโทษจําคุก 10 ปี
หลังจากใช้โทษแล้ว 7 ปีจึงขอพักโทษในปี 2554 โดยในระหว่างพักโทษ 3 ปี หลบหนีออกจากฝรั่งเศสโดยใช้หนังสือเดินทางปลอมมาหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย และระหว่างที่อยู่ใน ประเทศไทย เครือข่ายยาเสพติดภายใต้การนําของน้องชายผู้ต้องหาก็ถูกถล่มด้วยอาวุธสงครามจนเสีย ชีวิต ซึ่งคาดว่าเป็นการกระทําโดยเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติด้วยกันจนเป็นข่าวใหญ่ในประเทศ ฝรั่งเศสเมื่อปี 2556
ด้านนายอังเดร ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้รถสปอร์ตหรูขนยาเสพติดเข้าประเทศฝรั่งเศสจริง แต่หลังเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยก็ไม่ได้ติดต่อกับขบวนการขนยาเสพติดในประเทศฝรั่งเศสอีก มีเพียงการติดต่อกับครอบครัวเท่านั้น และที่หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยเพราะว่าชอบวิถีชีวิตในประเทศไทย
ทั้งนี้ตำรวจนำตัวนายอังเดร ส่งพนักงานสอบสวน สตม.ดำเนินคดีในข้อหาข้อหาเข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและเตรียมผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
ส่วนอีกคดีที่น่าสนใจเกี่ยวกับมาเฟียต่างชาตินั้น เมื่อเวลา 05.00 น. ร.ต.อ.ขวัญชัย นัมคณิสรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายก่อเหตุอุ้มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพาขึ้นรถยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดภายในหมู่บ้านจอมเทียน ปาร์ค วิลล่า ตั้งอยู่กลางซอย 17 เทพประสิทธิ์ ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณป้อมยามกลางหมู่บ้าน พบนายสุพรรณ พิทักษ์วงษ์ อายุ 34 ปี และนายเชียร กระเดา อายุ 38 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ให้การว่าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือพอวิ่งไปดูพบคนร้ายชาวต่างชาติจำนวน5คนสวมหน้ากากสีดำกำลังใช้อาวุธทำร้ายร่างกายผู้เสียหายชาวต่างชาติจนหมดสติก่อนอุ้มขึ้นรถกระบะยี่ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีดำ จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ เมื่อคนร้ายเห็นท่าไม่ดีหนึ่งในกลุ่มคนร้ายได้ชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่ก่อนขับรถหลบหนีไป
ทั้งนี้จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ คราบเลือดหยดเป็นทางยาว นอกจากนี้ตรวจสอบ พบเทปรัดสายไฟ 6 เส้น เศษชิ้นส่วนซองกระสุนปืน 1 ชุด ชิ้นส่วนกระบองแบบพับได้ 2 ท่อน ลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 นัด หมวกแก็ปสีน้ำเงินดำ 1 ใบ นาฬิกา ยี่ห้อ คาซิโอ รุ่น จีช็อค สีดำ 1 เรือน เทปกาวพร้อมฟองน้ำ 1 ชุด ตกอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ร.ต.อ.ขวัญชัย กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าผู้เสียหายพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านหรือไม่ และยังไม่ทราบชะตากรรมว่าผู้ที่ถูกลักพาตัวไปว่าเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นประเด็นปัญหาส่วนตัวหรือไม่หักผลประโยชน์อะไรกันบางอย่าง อย่างไรก็ตามจะได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดหมู่บ้านและเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี รวมถึงส่งหลักฐานไปส่งตรวจหาลายนิ้วมือแฝงเพื่อเป็นข้อมูลในการจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี