รวบรายที่5แก๊งป่วน
ยังเหลืออีก4
ผบช.ก.สั่งตามไล่ล่า
กรธ.ผุด17กฎเหล็กห้ามชิงสส.
ถูกสนช.ถอดโยนศาลฎีกาชี้ขาด
ปชช.แห่ประท้วงทูตสหรัฐฯจุ้น
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) แถลงถึงการจับกุมผู้ต้องหาขอนแก่นโมเดล ว่า รายละเอียดต่างๆ ยังไม่ขอพูดถึงแต่ขอให้เชื่อมั่นว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนจะดูแลเอง ทุกอย่างต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน ไม่มีกลั่นแกล้งใครทั้งสิ้น ใครทำความผิดก็คือผิด ไม่ผิดก็คือไม่ผิด เมื่อมีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ก็คือสิ่งที่ต้องยอมรับสภาพว่า เป็นจริง แต่ถ้าพยานหลักฐานไปไม่ถึง ก็เป็นเรื่องที่ผู้ถูกกล่าวหาต้องได้รับสิทธิ์ตามกฎหมาย
ยัน’ขอนแก่นโมเดล’ทำผิดจริง
พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวอีกว่า ต้องยอมรับว่า ขบวนการต่อต้านสถาบัน หรือกลุ่มที่ไม่หวังดีมีอยู่จริง บุคคลใดมีเจตนาร้าย ไม่ประสงค์ดีต่อสถาบัน จะไม่ละเว้น ส่วนใครที่ทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ รับข้อมูลจากสื่อโซเชียลมีเดียมาแล้วส่งต่อก็จะจัดให้อยู่อีกกลุ่มหนึ่ง ต้องเชิญตัวมาพูดคุยหรือไปพบเพื่อทำความเข้าใจว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้หยุดกระทำดังกล่าว รวมถึงดำเนินการกับบุคคลที่ประสงค์ร้ายต่อสถาบันที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศด้วย ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ขอเวลา1อาทิตย์น่าจะกระจ่างมากขึ้น
ผบช.ก.สั่ง’ป.-ปอท.’ตามล่า
พล.ต.ท.ฐิติราช ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนให้ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผบช.ก.รักษาราชการแทนผู้บังคับการปราบปราม(ผบก.ป.) รับภารกิจส่วนนี้ไปและให้กระทำโดยเร็ว สำหรับข้อมูลกลุ่มขอนแก่นโมเดล รวมถึงกลุ่มอื่นๆ ที่ประสงค์ร้ายต่อสถาบันอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลว่า กลุ่มใดทำอะไร เคลื่อนไหวที่ไหนและทำอะไรผิดกฎหมายบ้าง อีกส่วนเรื่องโซเชียลมีเดียบุคคลที่ทำคลิปในยูทูปและเฟซบุ๊ก ได้มอบหมายให้รักษาราชการแทนผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) มาดูแล ซึ่งต้องเอาข้อมูลทั้งสองส่วนมาพิสูจน์หาความเชื่อมโยงกลุ่มต่างๆต่อไป
ผบ.ตร.มั่นใจจับได้หมดแน่
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวว่า เชื่อว่าสามารถจับกุมผู้ต้องในกลุ่มนี้ได้ทั้งหมด ผู้สื่อข่าวถามว่า ทนายความของกลุ่มผู้ก่อเหตุออกมาแจ้งความกลับว่าเนื่องจากผู้ต้องหาคนหนึ่งที่ถูกออกหมายจับอยู่ในเรือนจำ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะถ้าผู้ต้องหาอยู่ในเรือนจำ สมรู้ร่วมคิดหรือติดต่อกันอยู่ ศาลออกหมายจับได้ ต้องมีพยานหลักฐานอยู่แล้ว เมื่อถามว่า หลักฐานที่พบเป็นหลักฐานอะไร พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า สมรู้ร่วมคิดกันจะโดยอะไรก็แล้วแต่ ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 4คนนั้น เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้บางส่วน บางส่วนจะติดต่อเข้ามอบตัว ส่วนจะมีถึงเบื้องหลังที่สนับสนุนเงินทุนด้วยหรือไม่ ทาง พล.ต.ท.ฐิติราช กำลังติดตามขยายผลอยู่
รวบเพิ่มอีก1เป็น5-ยังหลบหนี4
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุด ตำรวจจับกุม นายฉัตรชัย ศรีวงษา อายุ 24 ปี หนึ่งในผู้ต้องหากลุ่มขอนแก่นโมเดล ได้เป็นรายที่5และนำส่ง บก.ป.เพื่อส่งฝากขังศาลทหาร ผลัดแรกเป็นเวลา 12วันแล้ว ขณะที่ก่อนหน้านี้ตำรวจจับกุม จสต.ประธิน จันทร์เกศ อายุ60 ปี อดีตตำรวจ ตชด.,นายณัฐพล ณ วรรณ์เล อายุ 26 ปี นายวัลลภ บุญจันทร์ อายุ33ปีและนายพาหิรัณ กองคำ อายุ44ปี ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมี นายพิษณุ พรหมสร อายุ 58 ปี นายมีชัย ม่วงมนตรี อายุ 49 ปี นายวีรชัย ชาบุญมี อายุ 33 ปี ขณะที่นายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม อายุ 49ปี อยู่ในการควบคุมของเรือนจำขอนแก่น
บิ๊กป้อมชี้ถูกหมายจับไม่อยู่เฉยแน่
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการจับกุมเครือข่ายขอนแก่นโมเดล ว่า ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่และสามารถจับกุมได้แล้วส่วนหนึ่ง สำหรับเรื่องความเชื่อมโยงต่างๆต้องรอให้เจ้าหน้าที่สอบสวนก่อน กรณีทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ไปแจ้งความเอาผิดพนักงานสอบสวนโดยระบุว่า การออกหมายจับไม่ชอบมาพากล เพราะคนที่มีชื่อถูกออกหมายจับเป็นคนอยู่ในเรือนจำนั้น ตนถามว่า คนที่อยู่ในเรือนจำนั้นอยู่เฉยๆหรือไม่ เชื่อว่าไม่อยู่เฉยๆแน่ ไม่เช่นนั้นศาลคงไม่อนุมัติออกหมายจับให้ตำรวจ
บิ๊กต๊อกชี้อยู่คุกเจอหมายจับได้
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ทนายความของผู้ต้องหาขอนแก่นโมเดลตามหมายจับ แจ้งความกลับพนักงานสอบสวนว่า นายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม ผู้ต้องหาตามหมายจับ ทั้งที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางขอนแก่นว่า กรณีพบการกระทำผิดทั้งที่อยู่ในเรือนจำก็เป็นไปได้ เช่นในหลายคดีที่ผ่านมา โดยเฉพาะผู้ต้องหาคดียาเสพติด เมื่อสอบสวนพบมีการซัดทอดถึงผู้ถูกขังอยู่ในเรือนจำ แต่เป็นการก่อเหตุ หรือกระทำผิดก่อนเข้าเรือนจำ พยานหลักฐานที่พบก็เป็นการกระทำก่อนเข้าเรือนจำ ทั้งนี้ ตนจะสั่งให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ตรวจสอบหากพบว่า ผู้ต้องขังใช้โทรศัพท์ หรือเครื่องมือสื่อสารออกมาจากเรือนจำได้ ตนจะย้ายผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่นและตั้งกรรมการสอบทันที แต่ที่ผ่านมาเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นการใช้เครื่องมือสื่อสารของผู้ต้องขังก่อนเข้าเรือนจำ
สงสัยทนายร่วมก่อการรู้ทุกเรื่อง
ส่วนทนายความแจ้งความกลับ หรือแกนนำ นปช.ที่ออกมาโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐ ตนขอถามว่า ทั้งทนายความทั้งแกนนำ นปช.ไปรู้เรื่องกับตัวผู้ต้องขังได้อย่างไร หรือเป็นผู้ร่วมก่อการด้วยจึงรู้ทุกเรื่อง อยากให้ดูกรณีทนายความเสื้อแดงที่เคยรับเป็นทนายความให้ผู้ต้องหาคดีระเบิดราชประสงค์ ก่อนเข้าพบผู้ต้องหาก็ให้สัมภาษณ์เหมือนรู้ทุกเรื่อง แต่พาไปพบผู้ต้องหาซึ่งรับสารภาพแล้ว ทนายความกลับเงียบหายไปเลย
บิ๊กราชทัณฑ์ยันสั่งจากคุกได้
นายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวกรณีการออกหมายจับ นายธนกฤต ทองเงินเพิ่ม ทั้งที่ถูกคุมขังในเรือนจำกลางขอนแก่น ว่า กรมราชทัณฑ์ ตรวจสอบรายชื่อ นายธนกฤต พบว่า ยังถูกขังในเรือนขอนแก่น โดยถูกส่งตัวเข้าเรือนจำวันที่ 3กรกฎาคม2557 ตามคำสั่งศาลมหาสารคาม โดยถูกศาลพิพากษาจำคุก 3ปี 4เดือน คดีเกี่ยวกับเอกสารและยักยอกทรัพย์ ส่วนคดีร่วมกันสมคบเพื่อก่อการร้าย ศาลมณฑลทหารบกที่23 มีกำหนดนัดเบิกตัวไปศาลวันที่ 22ธันวาคมนี้ ส่วนสาเหตุถูกออกหมายจับในคดีอื่นนั้น เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่รวบรวมพยานหลักฐานยื่นต่อศาล ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร บางกรณียังเคยปรากฏว่ามีผู้ต้องขังจ้างวานฆ่าบุคคลภายนอกเรือนจำระหว่างที่ถูกคุมขังก็เป็นไปได้ ทั้งนี้ อาจมีการสั่งการหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ การเขียนจดหมายเป็นโค้ดลับก็เคยปรากฏ
กรธ.ผุด17กฎเหล็กห้ามลงสส.
สำหรับความคืบหน้าการร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า การประชุม กรธ.วันที่ 27พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้พิจารณาในส่วนของการกำหนดลักษณะและคุณสมบัติต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสส.เบื้องต้นมีรายละเอียด 17ข้อ ได้แก่ 1.ติดยาเสพติด 2.เป็นบุคคล้มละลาย 3.มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง ตามมาตรา...4.ถูกหรือเคยถูกสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 5.ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล 6.เคยได้รับโทษจำคุก โดยได้พ้นโทษมายังไม่ถึง10ปี นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ 7.เคยถูกสั่งให้พ้นจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจเพราะทุจริตต่อหน้าที่ หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติชอบในวงราชการ
ทุจริต-รวยผิดปกติ-โกงเลือกตั้ง
8.ต้องหรือเคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ 9.ต้องหรือเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยความผิดของพนักงาน หรือกระทำผิดฐานทุจริตหรือประพฤติมิชอบ 10.ต้องหรือเคยต้องคำพิพากษาว่ากระทำการอันทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตหรือไม่เที่ยงธรรม 11.ต้องหรือเคยต้องคำวินิจฉัยหรือคำพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกา หรือศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้พ้นจากตำแหน่ง 12.เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำนอกจากข้าราชการการเมือง 13.เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 14.เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกภาพสิ้นสุดแล้วไม่เกิน 2ปี 15.เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ 16.เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการ ปปช.กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและ17.อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ถูกสนช.ถอดให้ศาลฎีกาชี้ขาด
นายชาติชาย กล่าวต่อว่า ส่วนการพ้นจากตำแหน่งของ สส ในกรณีพรรคการเมืองมีมติ 3 ใน 4 ให้พ้นจากสมาชิพรรค สามารถให้ สส.คนดังกล่าวลาออกจากพรรค แล้วไปสมัครหาพรรคสังกัดใหม่ ภายใน 30 วัน นอกจากนี้ ในส่วนกรณีนักการเมืองที่ถูกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถอดถอน ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะไม่มีขบวนการเรื่อง“การถอดถอน”แต่จะใช้คำว่า“พ้นจากตำแหน่ง”แทน ดังนั้น นักการเมืองที่เคยถูก สนช.ถอดถอน หากจะไปสมัคร สส.ต้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบคุณสมบัติ หาก กกต.วินิจฉัยว่าไม่ผ่านคุณสมบัติ ก็มีสิทธิส่งเรื่องให้ศาลฎีกาวินิจฉัยชี้ขาดให้มีผลเป็นที่สิ้นสุด
‘บิ๊กป้อม’ติงทูตมะกันคิดก่อนพูด
วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกลิน เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าววิจารณ์ถึงบทลงโทษการใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 แก่ผู้หมิ่นประมาทสถาบันฯ ในงานเสวนาสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศในกรุงเทพฯช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นายกลิน ต้องคิดเวลาพูดอะไรออกมา เพราะทางไทยบอกชัดเจนอยู่แล้วว่ารัฐบาลและคสช.พยายามดำเนินการทุกอย่างโดยเคารพสิทธิมนุษยชน ตนคิดว่าคงไม่มีรัฐบาลใดที่ยึดอำนาจมาแล้วจะให้เรื่องสิทธิมนุษยชนได้ถึงขนาดนี้ เราก็ปล่อยทุกอย่าง ทั้งนี้ ยืนยันว่า เราพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่ออนาคตของประเทศและให้เกิดประชาธิปไตยที่ถาวร แต่ต้องรอก่อน ยืนยันว่า มีเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน เพราะเราเดินทางโรดแมป แต่ถ้าไปไม่ได้จริงๆจะทำอย่างไร หากสถานการณ์เป็นแบบนี้พอไปได้ก็ไป
ชมรมคนรักในหลวงแห่ประท้วง
ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ชมรมคนรักในหลวงจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยประชาชน นักเรียน นักศึกษาจำนวนมาก นำโดย รองศาสตราจารย์ ธีระ วิสิทธิ์พานิช ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดเชียงใหม่ เข้ายื่นแถลงการณ์และหนังสือประท้วงต่อ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ เพื่อแสดงจุดยืนในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์และแสดงความไม่พอใจกรณี นายเกล็น เดวีส์ ว่าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำไทย ได้พูดพาดพิงสถาบันกษัตริย์ เรื่องมาตรา112 ทั้งนี้ ทางชมรมคนรักในหลวงทั่วประเทศ มีมติจะไปยื่นหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศผ่านผู้ว่าฯของแต่ละจังหวัด เพื่อให้ กระทรวงการต่างประเทศ ทำเรื่องประท้วงสถานฑูตและรัฐบาลสหรัฐฯที่ก้าวก่ายกิจการภายในและสถาบันกษัตริยของไทยต่อไป ขณะเดียวกัน ชมรมคนรักในหลวง จ.ลำพูน นครราชสีมาและจ.ตรัง ได้ส่งหนังสือแถลงการณ์ประท้วงผ่านผู้ว่าฯไปแล้วเช่นกัน
มะกันแทรกแซงกิจการในไทย
ทั้งนี้ แถลงการณ์มีเนื้อหาว่า เมื่อวันที่ 25พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายกลิน ได้กล่าวในเวทีเสวนาที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ มีข้อความที่วิจารณ์กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งมีข้อความที่สำคัญว่า กฎหมายอาญา มาตรา112 เป็นกฎหมายที่ขัดขวางเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน การแสดงความคิดเห็นอย่างสันติไม่ควรถูกจำคุกและศาลไทยยังได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยด้วยความรุนแรงยาวนานเกินไป โดยสหรัฐฯจะให้การสนับสนุนบุคคล หรือองค์กรอิสระที่มีศักยภาพ ค้นคว้าและรายงานในประเด็นกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย โดยไม่ต้องเกรงกลัวอันตรายใดๆ
ทูตอ้างอยากเห็นไทยมีเสรีภาพ
ด้าน นายกลิน เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวถึงกรณีที่ได้แสดงความคิดเห็น ถึงการบังคับใช้กฎหมายอาญามาตรา112 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตนแสดงความเห็นเนื่องจากต้องการเห็นคนไทยสามารถมีเสรีภาพในการแสดงความเห็นอย่างสงบได้ในทุกประเด็นเท่านั้น ซึ่งสหรัฐฯคงไม่มีการหารือในประเด็นนี้อีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี