ใกล้จะหมดปี พ.ศ.2558 ในอีกไม่กี่วันนี้แล้วรัฐบาลเตรียมแถลงผลงานในรอบปีที่ผ่านมาว่า ได้ดำเนินการอะไรที่สำคัญๆ ไปบ้าง ซึ่งหมายรวมถึงผลงานของกระทรวงต่างๆ ด้วย หันมาดูกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของบิ๊กฉัตร พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ ดูบ้าง....
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกระทรวงที่มีภารกิจหลายด้าน แต่ไม่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการฯ มีแต่ผู้ช่วยรัฐมนตรี 2 คนคนแรกน่ะมาพร้อมกับรัฐมนตรี คือพลเอกปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ แต่คนหลังคือสุภาพสตรี ชื่อ จินตนา ชัยยวรรณาการที่ยังไม่คุ้นชื่อ และคุ้นหน้าคุ้นตาสักเท่าไรทั้ง 2 ท่าน ช่วยรัฐมนตรีได้มากน้อยแค่ไหนคงต้องดูกันต่อไป
นโยบายที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศอย่างชัดเจนคือการลดต้นทุนการผลิต ถึงกับกำหนดให้ปีหน้าคือปี 2559 เป็นปีแห่งการลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตร อย่างที่เคยนำเสนอไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีงานเร่งด่วนอื่นๆ อีกหลายงานที่สำคัญ คือการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า IUU (ไอยูยู) ขนาดย้ายรองปลัดกระทรวง วิมลจันทรโรทัย มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมประมง อีกครั้งหนึ่ง เพื่อหวังจะให้เร่งรัดงานนี้ให้สำเร็จ แต่มาพักหลัง ข่าวคราวของ IUU เงียบหายไปเสียเฉยๆ ไว้รอฟังการแถลงผลงานทีเดียวเลยแล้วกันว่าผลเป็นประการใด
งานที่สำคัญอีกงานหนึ่ง คือการจัดทำฐานข้อมูลเกษตรกรที่ครอบคลุม สามารถนำไปใช้แก้ปัญหาต่างๆ ได้ จนป่านนี้ไม่ทราบว่าอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร โอฬาร พิทักษ์ผลักดันและขับเคลื่อนงานสำคัญชิ้นนี้สำเร็จตรงตามวัตถุประสงค์ของบิ๊กฉัตร ให้เป็นผลงานชิ้นโบแดงก่อนเกษียณแล้วหรือยัง นอกจากนี้ ยังมี “งานเข้า” ด้วย เรียกว่าเป็นงาน “งอก” ตัวเลขสวย “882” ศูนย์
882 ศูนย์ที่ว่านี้ เป็นศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ที่จัดตั้งขึ้นในสมัยของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยาที่มีดำริว่า เกษตรกรต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ เช่น ต้นทุนการผลิตสูง พื้นที่เพาะปลูกขาดความอุดมสมบูรณ์ มีการแพร่ระบาดของศัตรูพืช ทำให้ผลผลิตมีปริมาณน้อย คุณภาพต่ำ ประสบกับการขาดทุน มีปัญหาหนี้สินและไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้ จำเป็นที่กระทรวงเกษตรฯ ต้องหาทางช่วยเหลือเกษตรกรโดยเฉพาะการลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มปริมาณ และคุณภาพของผลผลิต จึงให้กรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งจัดตั้งศูนย์เรียนรู้อยู่แล้วในตำบล จัดตั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร หรือ ศพก. ขึ้น อำเภอละ 1 ศูนย์ทั่วประเทศ รวม 882 ศูนย์
วัตถุประสงค์ของการตั้งศูนย์นี้ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการผลิตและเทคโนโลยีการเกษตรให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ ให้สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการผลิตของตนเองได้ และหวังว่า ศพก.นี้ จะเป็นต้นแบบ และมีความพร้อมในการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีให้กับเกษตรกร
เวลาผ่านไปเกือบ 1 ปี ศพก. ถูกกล่าวถึง และผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์อีกครั้ง เมื่อ บิ๊กฉัตร ขอให้ทุกหน่วยงานไปใช้ศพก. เป็นแหล่งถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกรในทุกด้าน แถมยังยืนยันกับรองนายกฯ สมคิดจาตุศรีพิทักษ์ เมื่อครั้งมาเยี่ยมกระทรวงเกษตรฯ ด้วยว่าจะให้ ศพก. 882 ศูนย์ เป็นหน่วยงานสำรวจความต้องการของเกษตรกรและจูงใจให้เกษตรกรเข้าร่วมปรับเปลี่ยนโครงสร้างการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับพื้นที่ โดยจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย
จะว่าไปตัว ศพก. หมายถึงสถานที่น่ะมี (สมมุติว่ามีครบทั้ง 882 ศูนย์) แต่คนดูแล บริหารจัดการให้ศูนย์เป็นไปดังวัตถุประสงค์ที่จัดตั้งนี่สิ เกษตรอำเภอ หรือ เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร แค่จัดตารางฝึกอบรม เรียกแขก หรือเชิญเกษตรกรเข้ามาอบรม เข้ามาเรียนรู้เรื่องต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาล ประสานกับหน่วยงานอื่นๆ นอกกระทรวง ก็คงไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว เอา ศพก. มาแทนสำนักงานเกษตรอำเภอได้เลย
ส่วนงานเร่งด่วนอีกงาน คือ เรื่องภัยแล้ง ผลงานเป็นไปตามที่คาดหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบ มีเกษตรกรแอบปลูกข้าวนาปรังไปเท่าไร มีเกษตรกรเปลี่ยนมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยเท่าไร มีเกษตรกรที่ต้องเสียหายเพราะภัยแล้งเท่าไร ยังไม่มีข้อมูล ไม่ต้องพูดถึงเกษตรอินทรีย์ ที่มีเรื่อง ของ GMO มาคอยถล่มอยู่ว่า สนับสนุนเกษตรกรอินทรีย์ แต่ยอมให้มีการปลูกพืช GMO ได้ มันสวนทางกันหรือเปล่า....
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ คือสิ่งที่คนนอกกระทรวง รอดูผลงานอยู่ว่า บิ๊กฉัตร ที่ว่าเอาจริงเอาจัง เข้มในการสั่งการ และเข้มในการติดตามงาน จะมีผลงานเข้าเป้าไหม
แว่นขยาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี