ยื้อกันมานาน เรื่องของสัญญาเอกชนจีนที่ลงนามสัญญาขายยางให้กับริษัทเอกชนจีน อสย. หรือองค์การสวนยาง เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2557 และสิ้นสุดสัญญาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาจำนวนกว่า 2.1 แสนตัน แถมพ่วงท้ายด้วยสัญญาฉบับที่ 2 ซึ่งเป็นยางใหม่ ในโครงการมูลภัณฑ์กันชนที่อื้อฉาวอีก 2 แสนตัน สุดท้ายก็จบยกเลิกสัญญา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558 โดยอ้างว่าทางบริษัทHINAN ซึ่งอดีต รมช.เกษตรฯ บางคนอ้างว่าดีนักดีหนา สุดท้ายบอกหน้าตาเฉยว่า ที่ต้องยกเลิกเพราะไม่ทำตามเงื่อนไข
งานนี้ต้องบอกว่า คงปิดตามานานจึงไม่รู้ว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น เลยทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ จะว่ากันไปบริษัทที่ว่าหากไล่เลียงไปให้เห็นภาพชัด ถ้าเป็นคนที่ติดตามเรื่องการทุจริต ในเรื่องการขายข้าว และมันสำปะหลังที่ ป.ป.ช.ชี้มูลไปแล้ว จะเห็นว่ามีความโยงใยกันมาว่าให้ชัดคือกลุ่มก้อนบริษัทเดียวกันนั่นล่ะครับ ชัดลงไปอีก คือ เขาเคยทำสัญญาซื้อขายข้าวกับกระทรวงพาณิชย์มาแล้ว และก็ไม่ยอมรับข้าว ซึ่งในพฤติกรรมเดียวกัน กระทรวงเกษตรฯ ทำไมปล่อยให้มีการทำสัญญาซื้อขายยาง และเรื่องนี้แปลกกันมาก ตรงที่ “มันผ่านความเห็นครม. เสียด้วย” เพราะหากไม่ใช่รัฐต่อรัฐต้องประมูล ซึ่งหากเป็นเอกชนเฉยๆไม่รู้ ครม. เอาเหตุผลอะไร ให้ลงนามสัญญา นั้นแสดงให้เห็นว่า ปิดตาทั้ง ครม. ส่วนครม. ใครก็คงต้องติดตามเอาเองนะขอรับ
ว่ากันให้ชัด เรื่องนี้ในสัญญาแรก 2.1 แสนตัน ลงนามกันที่รับยาง อย่างน้อยไม่ต่ำกว่าเดือนละ 2 หมื่นตันในราคา 63.60 บาท ต่อกิโลกรัม แถมหั่นตามสัดส่วนลงตามคุณภาพยาง วันนั้นยันวันนี้ HINAN รับยางไปแล้วตามราคาคุย 3 หมื่นตัน และยางในโครงการมูลภัณฑ์กันชนสัญาที่ 2 อีก5 พันตัน และความเป็นจริงคงไม่ถึง ซึ่งยางในสต๊อกทั้งหมด ณ เวลานี้ น่าจะเหลือที่ 365,000 ตัน งานนี้มีผู้รู้คำนวณคร่าวๆ ให้บอกว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น น่าจะไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท นั้นไม่รวมผลกระทบต่อราคายางในประเทศ ที่มีผลผลิตโดยรวมกว่า 3 ล้านตัน ที่ราคาต้องดิ่งเหว จากการไม่ยอมระบายยางออกนอกประเทศในช่วงเวลาที่เหมาะสม ขณะที่มีราคาสูง ส่งผลให้ราคายางดิ่งเหวถึงปัจจุบัน
นั่นไม่รวมถึงความเสียหายจากเรื่องความไม่ชอบมาพากล ที่มีการรวมหัวกันระหว่าง เจ้าหน้าที่รัฐที่ เอื้อให้กับเอกชนตีเกรดยางในสต๊อกที่มีการส่งออก จากดีเป็นยางเกรดต่ำ และยังไม่รวมถึงความเสียหายจากการต้องเช่าโกดังเก็บยางช่วงที่เอกชนไม่ยอมรับตามสัญญา และค่าประกันภัยยาง ที่ว่ากันว่าเรื่องนี้มีตังค์ทอน เป็นหลักร้อยล้าน ให้ใครบางคนในกระทรวงเกษตรฯ จริงไม่จริงก็คงต้องเป็นเรื่องของท่านรัฐมนตรี “ฉัตรชัย สาริกัลยะ” ต้องหาความจริงกันต่อไป เพราะท่านเองก็มาอยู่ที่กระทรวงเกตรฯนานหลายเดือน ระวังเข้าข่าย รู้ว่า “เกิดความเสียหายไม่ระงับ ยับยั้ง” คุ้นไหมครับคดีอะไร เพราะตอนนี้ มีคนจ้องร้อง ป.ป.ช. เรื่องยางหลายเจ้า อีกไม่นานคงได้เห็นกัน
มาอีกเรื่องของยางพารา ที่มีการเซ็นสัญญาขายยางระหว่าง กทย. ที่ดูเรื่องยางทั้งระบบ กับทางเอกชนจีนรายใหม่ 2 แสนตัน ที่เพิ่งเซ็นสัญญาหมาดๆ เมื่อต้นเดือนหลังจากที่รองนายก “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ออกงิ้วกับจีนกันขันแข็งว่าไม่ยอมเซ็นสัญญาในเรื่องอื่นหากไม่เซ็นสัญญารับซื้อยางเก่า สุดท้ายก็ลงนามร่วมกัน แต่แปลกใจว่าในสัญญาคร่าวๆ ที่เขาว่ากันมาว่า ทำไมยางที่ซื้อขายกันดันให้เอกชนจีนไปรับยางกับบริษัทเอกชนรายใหญ่ของไทยไม่เกี่ยวกับยางในสต๊อกแม้แต่นิดเดียว จึงมีคำถามตัวโตว่าใครได้ประโยชน์ เพราะ 5 เสือไม่ใช่เกษตรกร แล้ว กยท. ตั้งขึ้นมาเพื่อ.....เพราะ...ยังไงช่วยตรวจสอบทีอย่าดีแต่ปิดหูปิดตา
ราชดำเนิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี