นับถอยหลังอีกแค่สัปดาห์เดียวก็จะหมดปี 2558 เข้าสู่ปีใหม่ 2559 แล้ว ท่ามกลางบรรยากาศบ้านเมืองโดยรวมที่ยังคงซึมเซาเพราะพิษเศรษฐกิจ แต่ยิ่งอยู่ในสภาพแบบนี้ เมื่อถึงวาระวันปีใหม่ ประชาชนคนทั่วไปก็ยิ่งโหยหาอยากได้ของขวัญจากรัฐบาล ที่จะสร้างความสุขให้พวกเขาได้รู้สึกดีมีความหวังขึ้นมาบ้าง แม้จะสักเล็กน้อยก็ยังดี
เป็นเรื่องปกติที่ทุกรัฐบาล พอใกล้ปีใหม่ก็จะมีการเตรียมหาของขวัญเพื่อมอบให้กับประชาชน ยิ่งรัฐบาล คสช.ในปัจจุบันที่มีสโลแกนสำคัญคือ”คืนความสุขให้กับคนในชาติ” ก็ยิ่งจำเป็นใหญ่
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจึงมีบัญชาให้ทุกกระทรวงไปจัดเตรียมของขวัญ ภายใต้แนวคิด"ของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลไทย นำความเป็นไทยสู่ใจประชาชน" มุ่งไปที่เรื่องเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อและลดค่าครองชีพของประชาชนโดยกำชับให้ต้องแจ้งว่าจะมีอะไรเป็น”ของขวัญปีใหม่”บ้างภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งหลายหน่วยงานก็ทยอยแจ้งออกมาแล้ว
ในส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใต้การนำของพล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ จัดของขวัญปีใหม่ไว้ให้พี่น้องเกษตรกรและประชาชนทั่วไป ภายใต้โครงการ"ส่งความสุขปีใหม่ 2559 จากใจกระทรวงเกษตรและสหกรณ์”มี 3 กิจกรรมหลัก ประกอบไปด้วย 1.การลดรายจ่ายในครัวเรือนเกษตรกร ด้วยการยกเว้นค่าเช่าที่ดิน ส.ป.ก.ที่ครบกำหนดชำระในปีงบประมาณ 2559 จำนวน 40 จังหวัด 206,850 ไร่,การลดดอกเบี้ยค่าเช่าซื้อที่ดินจาก4%เหลือ 1%ของเงินต้นค่าเช่าซื้อ จำนวน 43 จังหวัด 97,688 ไร่ และสนับสนุนพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเป็นแหล่งอาหารชุมชนในแหล่งน้ำสาธารณะ
2.การป้องกันโรคจากสัตว์เลี้ยงสู่ประชาชน โดยบริการตรวจสุขภาพสัตว์และฉีดวัคซีน ป้องกันโรคสุนัขและแมวฟรีและ3.การเปิดสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เกษตรให้เยี่ยมชมฟรี เช่น ฟาร์มโคนมไทย - เดนมาร์ค อ.มวกเหล็ก สระบุรี,พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ,พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในการดูแลของกรมประมง,ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงดอยผาหม่น จ.เชียงราย ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรที่สูง เชียงราย(ดอยวาวี),ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) และเปิดสถานที่ราชการของกรมชลประทานให้ประชาชนเรียนรู้/พักผ่อนในราคาพิเศษ จำนวน 9 แห่ง เช่น เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นต้น
ทั้ง 3 กิจกรรมในโครงการ"ส่งความสุขปีใหม่ 2559ฯ”นี้ จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 2558 จนถึง 15 ม.ค. 2559 ก็หวังว่า คงให้ความสุขแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปได้ไม่มากก็น้อย
ไม่เพียงกระทรวงเกษตรฯที่มอบของขวัญปีใหม่ให้พี่น้องเกษตรกร ในส่วนกระทรวงการคลังก็มีของขวัญพอประมาณมอบให้ด้วย แต่ต้องเป็นเกษตรกรที่มีวินัยในการชำระหนี้ที่ดี โดยธกส.-ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมอบให้ 3 มาตรการคือ 1.คืนดอกเบี้ยเงินกู้ให้ในรอบปีบัญชีย้อนหลัง 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปีบัญชี 2558 เป็นต้นไป (1 เม.ย.58-31 มี.ค.59) สำหรับลูกหนี้ที่ประวัติชำระหนี้ที่ดี 3 ปีติดต่อกันจะได้รับดอกเบี้ยคืน 5% ลูกหนี้ 2 ปีจะได้รับคืน 4% และลูกหนี้ 1 ปีจะได้รับดอกเบี้ยคืน 3% คาดจะมีเกษตรกรได้รับเงินคืนทั้งหมด 3.5 ล้านครัวเรือน วงเงินประมาณ 900 ล้านบาท
2.ปล่อยสินเชื่อใหม่รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนสถาบันการเกษตร รายละไม่เกิน 10 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 4% ระยะเวลากู้ 7 ปี เพื่อปรับเปลี่ยนการผลิตตามนโยบายของ ธ.ก.ส. เช่น การเปลี่ยนมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย และ 3.ยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้บริการผ่านATM ของ ธ.ก.ส.ระหว่าง 31 ธ.ค.2558 ถึง 3 ม.ค.2559
มาตรการเหล่านี้ โดยเฉพาะการคืนดอกเบี้ย อย่างน้อยก็คงช่วยให้เกษตรกรจำนวนมาก เหลือเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นบ้าง
อย่างไรก็ตามพี่น้องเกษตรกรคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ทนยากลำบากกันมาตลอดทั้งปี 2558 ต่างก็คาดหวังว่า ในปี 2559 น่าจะมีอะไรที่ดีขึ้นกว่านี้ ขณะที่พล.อ.ฉัตรชัย สาลิกัลยะ รมว.เกษตรฯได้วางนโยบายปีหน้า 2559 ไว้แล้วโดยกำหนดให้เป็น”ปีแห่งการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มโอกาสการแข่งขัน” มีงานเร่งด่วน อาทิ ลดต้นทุนการผลิตในด้านต่างๆ,จัดทำฐานข้อมูลการเกษตรที่ครอบคลุมสามารถนำไปใช้แก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ,การดูแลเรื่อง”น้ำ”แก้ภัยแล้ง ตลอดจนการสนับสนุนเกษตรอินทรีย์เพื่อความยั่งยืน เป็นต้น นอกเหนือไปจากงานต่อเนื่องอื่นๆ
ดูเหมือนนโยบายที่วางไว้ ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไร ก็ได้แต่หวังว่า ในทางปฏิบัติ ปีหน้า กระทรวงเกษตรฯจะทำงานมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น งานประสบผลสำเร็จมากขึ้น ให้เกษตรกรมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าปีนี้....
สาโรช บุญแสง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี