และแล้ว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ประกาศยกเลิกร่างพระราชบัญญัติความปลอดภัยทางชีวภาพ และเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ พ.ศ......หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าพ.ร.บ. จีเอ็มโอ โดยอ้างมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2558 ด้วยเหตุผลที่ไม่คิดว่าจะเป็นเหตุผลจากรัฐบาลทหาร ที่แข็งกร้าวกับเรื่องต่างๆ มากมาย แต่กับ พ.ร.บ. ฉบับนี้ เหตุผลอ่อนปวกเปียก และไร้ซึ่งหลักวิชาการ จนอยากขอดูตัวผู้หาเหตุผลให้นายกแถลงเสียจริง
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2558 ครม.มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ความปลอดภัยทางชีวภาพพ.ศ......ตามที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุม ดูแลการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ให้เกิดความปลอดภัย และคำนึงถึงความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของสุขภาพของมนุษย์ ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล
สาระสำคัญของ ร่างพ.ร.บ. ดังกล่าว กำหนดใช้บังคับกับสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการดัดแปรพันธุกรรม หรือ ตัดแต่ง พันธุกรรม ที่ไม่ใช่อาหาร และยา ซึ่งมีกฎหมายอื่นควบคุมอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ให้มีคณะกรรมการความปลอดภัยทางชีวภาพ ซึ่งมีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน มีกรรมการโดยตำแหน่งอีก 12 คน และ มีผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่เกิน10 คน เป็นกรรมการ คณะกรรมการชุดนี้ทำหน้าที่กำกับดูแลการดำเนินงานเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม กรรมการตั้งมากมายขนาดนี้ คงจะผ่านการพิจารณาอะไรไม่ได้ง่ายนัก
ถึงกระนั้นก็ยังไม่เป็นที่ไว้วางใจของกลุ่มผู้ต่อต้านพืชจีเอ็มโอ ที่ตั้งธงไว้แต่แรกแล้วว่า อะไรที่เกี่ยวกับ “จีเอ็มโอ” ต้องค้านไว้ก่อน และเป็นอย่างนี้มากว่า 20 ปี เหตุผลของการคัดค้านเป้าหมายอยู่ที่ผลประโยชน์ของบริษัทข้ามชาติ ที่จะผูกขาดการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์พืชที่เกิดจากการดัดแปรพันธุกรรม....เป็นเหตุผลที่ใช้มาโดยตลอดเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง
แต่การคัดค้านในครั้งนี้กลุ่มผู้ต่อต้านใช้กลยุทธ์ใหม่ แบบป่าล้อมเมือง ไม่ต่อต้านแบบลำพัง แต่พยายามหาแนวร่วมในต่างจังหวัด มีกลุ่มต่อต้านผุดขึ้นในจังหวัดนั้นจังหวัดนี้ แม้เป็นคนจำนวนไม่มากนัก แต่อาศัยสื่อมวลชน และ โซเชียลมีเดีย สร้างกระแส ให้ดูเหมือนเป็นความวุ่นวายตีคู่มากับกระแสการต่อต้านอุทยานราชภักดิ์ แต่ในการต่อต้านไม่เคยเอาสาระของพระราชบัญญัติมาตีแผ่ให้กระจ่างกันแบบมาตราต่อมาตรา
ขณะเดียวกันฝ่ายราชการ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เอง หรือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เคยเป็นคู่ต่อสู้ (ด้วยหลักวิชาการ) กับกลุ่มผู้ต่อต้าน (ซึ่งเป็นกลุ่มเดิมๆ) กลับเงียบกริ๊บ.....แบบกลัวเจ็บตัว ผู้สนับสนุน จีเอ็มโอ หลายท่านที่เคยมีบทบาทในอดีตก็เงียบหายเช่นกัน จึงเริ่มไม่แน่ใจว่า งานนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรหรือไม่
ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นข่าวอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อต่าง ๆ กว่าครึ่งเดือน พอที่จะทำให้กลุ่มเอ็นจีโอผู้ต่อต้านจีเอ็มโอได้สร้างผลงานในระดับที่น่าพอใจ ในที่สุดนายกรัฐมนตรีก็ออกมาประกาศ เมื่อวันที่ ถ ธันวาคม 2558 ว่า ตนได้สั่งยกเลิกร่างพระราชบัญญัติความปลอดภัยทางชีวภาพ และเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ พ.ศ.......หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่า พ.ร.บ.จีเอ็มโอ แล้วเพราะไม่เกิดประโยชน์...
นักวิชาการที่ร่ำเรียนมาทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพ และพันธุวิศวกรรม ในระดับปริญญาตรี โทและเอกทั้งหลาย คงอยากจะร้องกรี๊ด.......เรียนแทบตาย หวังจะสร้างความก้าวหน้าให้วงการเกษตรในบ้านเรา มาถึงวันนี้ผู้นำประเทศบอกไม่เกิดประโยชน์....
ยิ่งในคำอธิบายเหตุผลที่ยกเลิกการพิจารณาพ.ร.บ. ฉบับนี้ ยิ่งไปกันใหญ่
นายกรัฐมนตรีบอกว่า ในต่างประเทศจะมีการนำพืชจีเอ็มโอมาใช้ในกรณีที่มีสงคราม หรือผลิตสินค้าเกษตรไม่ได้เพราะปนเปื้อน มีเชื้อโรคระบาด เพราะพืชเหล่านี้ป้องกันโรคระบาดได้ แต่ในบ้านเรายังไม่ชัดเจน ซึ่งพืชเหล่านี้ตัดแต่งพันธุกรรมมาเพื่อให้ใช้น้ำน้อย ต้านทานโรคได้ มีผลผลิตสูง ซึ่งอาจจะใช้ตอนมีสงครามโลกก็ได้ แต่ขณะนี้ยังไม่เกิดสงคราม แต่ก็ให้เตรียมไว้..
ใครหนอ...ที่ให้ข้อมูลแก่นายกรัฐมนตรี....ช่างไม่รักษาหน้ากันบ้างเลย...
หลายประเทศทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป สาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านของเรา อย่างเวียดนาม ฟิลิปปินส์อินโดนีเซีย...ประเทศเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในภาวะสงคราม แต่ปลูกพืชจีเอ็มโอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้ารอให้มีสงครามแล้วนำพืชจีเอ็มโอมาใช้...กลุ่มต่อต้านก็ค้านอีกท่ามกลางสงคราม... เพราะเขาเกิดมาเพื่อค้านพืชจีเอ็มโอโดยเฉพาะ ไม่เชื่อก็คอยดู...(มีคนบอกว่าประเทศไทยไม่จำเป็นต้องทำตามประเทศอื่น ที่จริงประเทศไทยศึกษาและทดลองพืชจีเอ็มโอมาก่อนประเทศจีน และประเทศเพื่อนบ้านหลายปี แต่ไปไม่ถึงดวงดาวเสียที)
บ้านเราชัดเจน...ชัดเจนว่า...ถ้ามีการเคลื่อนไหวเรื่องพืชจีเอ็มโอเมื่อไร กลุ่มต่อต้านจะออกมาทันที หรือถ้าไม่มีการเคลื่อนไหว ก็จะมีการสร้างกระแส สร้างเรื่องมาให้เป็นข่าว เพื่อสร้างผลงานของกลุ่มเป็นงานประจำ....
ถึงวันนี้ ก็ชัดเจน...ชัดเจนว่าแม้แต่รัฐบาลทหารก็ยังไม่กล้ารบแตกหัก กับจีเอ็มโอ...ไม่รู้ว่ากลัวอะไร
แว่นขยาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี