ในการแถลงผลงานครบรอบ 1 ปีของรัฐบาล “ประยุทธ์” เมื่อวันพุธที่ 23 ธันวาคม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องบอกว่า เหมือนดูละครจริงๆ มีทั้งโหด มัน ฮา ตามประสาคนชั่งจ้อจริงๆ งานนี้ เท่าที่จับใจความได้ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรฯ นายกรัฐมนตรีพูดเฉียดมาเพียงเรื่องการวางระบบการบริหารจัดการเรื่องน้ำ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ ที่น่าจะเกิดปัญหาไปอีกยาวนาน เพราะปีนี้แล้งบานปลาย ไม่มีท่าทีว่าจะเอาอยู่ โดยท่านนายกฯ “ประยุทธ์” กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มีกระทรวงเกษตรฯ เป็นหัวหอก ต้องเดินหน้าวางระบบการแก้ปัญหาเรื่องน้ำให้ต่อเนื่องทั้งระบบ และมีความเชื่อมโยงกันไปตามกรอบงบประมาณในแต่ละปีที่ค่อนข้างจำกัด
ที่สำคัญท่านย้ำว่า ต้องวางแผนงานให้เกิดความเชื่อมโยงในการแก้ปัญหาต่อเนื่องไม่ใช่ขุดคลองลอกคลอง ซ้ำๆ ที่เดิมพอน้ำมาก็ตรวจสอบไม่ได้ขุดซ้ำซากจนแล้งซ้ำซาก งานนี้ต้องบอกว่า ท่าน “นายกฯตู่”น่าจะรู้จริง เอาจริงกันหละงานนี้ หากใครยังเดินทางสายเก่า เดิมๆ ทำงานแบบหลงจู๊ ระวังอาจมีฟ้าฝ่าตามมาเป็นระลอก กันหละครับ เรื่องการวางแนวทางการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ คงอีกยาวไกล แต่เรื่องที่ใกล้และน่าเป็นห่วงคือ ปัญหาเรื่องของภัยแล้ง และก็ไม่ได้มีการพูดถึงในงานแถลงผลงาน ซึ่งเรื่องนี้ต้องบอกว่า แนวทางที่กระทรวงเกษตรฯ บอกจะให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อย หลังเก็บเกี่ยวข้าวและเตรียมการไว้ล่วงหน้ามาหลายเดือนก่อนเก็บเกี่ยวข้าวนาปีจนถึงขณะนี้ ต้องบอกว่าเมล็ดพันธุ์ยังไม่ถึงมือชาวบ้านนะขอรับ ซึ่งคิดว่าหากเร็วสุด น่าจะได้เมล็ดพันธุ์ในช่วงมกราคม นั้นเอง ซึ่งก็ไม่รู้เตรียมการอย่างไร ที่สำคัญ ถึงวันนี้ต้องไล่ไปอีก 2 เดือนที่ปลูกพืชระยะสั้น ซึ่งเป็นตระกูลถั่ว และเหลื่อมไปถึงเดือนมีนาคม เอากันให้ชัดนะครับ มีนาคมปีนี้คงแล้งสุดๆ คิดกันดูว่า ปลูกไปจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็น่าจะพอเดาออก
มาอีกเรื่องที่ท่านนายกรัฐมนตรีพูดถึงคือเรื่องของข้าว โดยท่านนายกฯ เน้นเรื่องการส่งเสริมการปลูกข้าว ที่เน้นเรื่องการสร้างมูลค่า ไม่ใช่ปริมาณการส่งออก งานนี้ก็คงหนีไม่พ้น กรมการข้าวที่ต้องไปดู ว่า จะส่งเสริมการปลูกข้าวอย่างไร ให้เกิดการเพิ่มมูลค่าให้ได้มากที่สุด แต่ที่แน่ๆ ถึงวันนี้ทางกรมการข้าว เขาก็แอบปิ๊งไอเดีย สร้างมูลค่าข้าว ไหนๆ ก็ใกล้เทศกาลปีใหม่ เลยถือ
โอกาสจัดงาน “เทศกาลของขวัญจากข้าว” ระหว่างวันที่ 21-25 ธันวาคมที่ผ่านมา ชวนช็อปสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์แปรรูปคุณภาพเป็นของสวัสดีปีใหม่ ให้ของขวัญด้วยข้าว
ซึ่งก็มีข้าวชนิดต่างๆ มาจำหน่ายจำนวนมาก เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกษตรกรอีกทาง จากนี้ไป คงต้องติดตามว่า กรมการข้าวจะเดินหน้าอย่างไร กับการวางแนวทางการส่งเสริมเรื่องของข้าว ให้ถูกที่ถูกทางตามแนวทาง “นายกฯตู่”
มาถึงท่านรัฐมนตรี “ฉัตรชัย”ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำงานแบบ 4 ช. หรือเปล่าไม่รู้เพราะงานแต่ละอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน และแทบจะไม่ทันกิน เพราะเท่าที่ติดตามผลงานท่านมาหลายเดือน ต้องบอกว่า มีแต่นโยบายที่เป็นลมปาก ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาราคายางพารา ก็ยังไม่เดินหน้า และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเองก็อืดเป็นเรือเกลือ แม้มีมติครม.ออกมาชัดเจนว่าจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวสวนยางและคนกรีดยางวันนี้ยังจ่ายไม่ได้ เพราะต้องรอตรวจสอบ การขึ้นทะเบียนที่ชัดเจน ขณะที่การทำสัญญาใหม่กับทางการจีน การยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท. ก็ทำหน้าที่ได้แค่นายหน้าให้กลุ่มพ่อค้ายาง แทนที่จะเอายางในสต๊อกที่ค้างเติ่งหลายแสนตัน ก็ไม่รู้คิดอะไรกันอยู่ หรือนี้จะเป็นอีกผลงานของกระทรวงเกษตรฯ เจรจาขายยางพาราแทนเอกชน เศร้าแทนเกษตรกรจริงๆ
ราชดำเนิน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี