นายสุรพงษ์ เจียสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมภาคีสมาชิกอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 หรือ COP 21 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ให้ความเห็นชอบ “ข้อตกลงปารีส” ซึ่งเป็นข้อตกลงใหม่เกี่ยวกับการลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งจะมีการเริ่มต้นบังคับใช้ทั่วโลกในปี ค.ศ.2020 โดยทุกประเทศจะต้องร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพิ่มความสามารถในการปรับตัวต่อผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การดำเนินข้อตกลงใหม่ครั้งนี้ ประเทศสมาชิกต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันต่อภูมิอากาศและสนับสนุนการพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำโดยจะต้องไม่กระทบต่อการผลิตอาหารของโลก นอกจากนี้ ยังได้กำหนดกรอบการให้เงินทุนสนับสนุนเพื่อดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ข้างต้นนี้แก่ประเทศกำลังพัฒนาอีกด้วย ซึ่งผลการประชุมที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรที่สำคัญสามารถแบ่งออกเป็นสองประเด็นใหญ่ด้วยกัน คือ
ประเด็นแรกเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านการปรับตัว (Adaptation)ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยที่ประชุมให้ประเทศสมาชิกเร่งจัดทำแผนการปรับตัวแห่งชาติ (NationalAdaptation Plans : NAPs) ให้แล้วเสร็จ พร้อมนี้ ที่ประชุมได้กำหนดกรอบการจัดทำแผนปรับตัวแห่งชาติเพื่อให้ประเทศสมาชิกใช้เป็นแนวทาง อย่างไรก็ตาม ภาคเกษตรของประเทศไทยซึ่งมีความเปราะบาง(Vulnerability) ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงจำเป็นต้องเร่งหาแนวทางการปรับตัวที่เหมาะสมเพื่อลดผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ประเด็นที่สอง การกำหนดเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของโลก ตามข้อเสนอการมีส่วนร่วมของประเทศในการลดก๊าซเรือนกระจก และการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภายหลังปี ค.ศ. 2020 (Nationally DeterminedContributions : INDCs) ที่แต่ละประเทศเสนอต่อที่ประชุม โดยที่ประชุมได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันให้แต่ละประเทศสมาชิกต้องดำเนินงานตามเป้าหมายดังกล่าวตามที่ได้เสนอใน INDCs ของแต่ละประเทศ
ทั้งนี้ ประเทศไทยเสนอเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจกอยู่ที่ร้อยละ 20-25 จากกรณีปกติ โดยเป้าหมายดังกล่าวได้รวมการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตรเข้าไว้ด้วย ดังนั้น ภาคเกษตรซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นลำดับที่ 2 รองจากภาคขนส่งและการใช้พลังงาน จึงควรที่จะเตรียมตัวกำหนดแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งแนวทางดังกล่าว จะต้องไม่กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันและต้นทุนการผลิตของสินค้าภาคเกษตร รวมทั้งจะต้องเป็นแนวทางที่ไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรรายย่อยซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้และความสามารถในการแข่งขันน้อย และที่สำคัญที่สุดต้องคำนึงถึงความมั่นคงด้านอาหารของประเทศด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี