8 ม.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานจากว่า สถานการณ์ราคายางพาราตกต่ำถึงขั้นวิกฤติไม่เคยเกิดขึ้นที่จังหวัดนครพนม มาก่อนนับตั้งแต่รัฐบาล คสช.เข้ามาบริหารประเทศเป็นเวลานับ 2 ปี ราคายางจะวิ่งอยู่ระหว่างกิโลกรัมล่ะ 17-25 บาทเท่านั้นล่าสุดร่วงลงมากิโลกรัม 12-13 บาท กระทบอย่างหนักชาวสวนยางในหลายอำเภอปิดหน้ายางงดกรีดไม่คุ้มค่าปุ๋ย และส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่หลายครอบครัวที่รับจ้างกรีดยางแบ่งกับเจ้าของสวน 60-40 ต้องตกงานไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว
นางพิศ งอยภูธร วัย 40 ปี ชาวบ้านน้อยลวงมอง ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน เปิดเผยว่า ครอบครัวตนและสามีไม่มีที่นาต้องซื้อข้าวกินเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างกรีดยางกับเจ้าของสวนยางแบ่งกัน 60-40 โดยจะขายในรูปแบบยางถ้วยแต่ก่อนช่วงยางราคาดีขายยางรอบหนึ่งตนจะมีรายได้ 7 พันบาทเดือนหนึ่งก็เกือบหมื่นบาทต่อมาราคายางก็ตกลงมานับตั้งแต่รัฐบาล คสช.บริหารประเทศราคายางถ้วยอยู่ระหว่าง 17-25 บาท ถึงแม้ราคาไม่ดีก็ยังพอมีรายได้เลี้ยงครอบครัวมีค่าลูกไปโรงเรียนใช้จ่ายเปิดเทอมพอถูไถไปได้ แต่ขณะนี้ยางตกลงมากิโลกรัมล่ะ 13 บาท เจ้าของสวนสั่งปิดหน้ายางงดกรีดเสี่ยหน้ายางไม่คุ้มค่าปุ๋ยทำให้เดือดร้อนมากยังไม่รู้จะไปทำงานอะไรเพราะกรีดยางมากว่า 20 ปีแล้ว
นายทัยฮง พ่อสาร อายุ 57 ปี ประธานสหกรณ์ชาวสวนยางตำบลพุ่มแกจำกัด อ.นาแก เปิดเผยว่า ผลกระทบเกี่ยวกับปัญหาราคายางตกต่ำ ในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม ปัจจุบันกำลังประสบปัญหาหนักจากปัญหาราคายางตกต่ำในรอบ 10 ปี ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากปัจจุบันราคายางก้นถ้วย อยู่ที่ประมาณแค่ 13 บาท ส่วนราคายางแผ่น ประมาณ กิโลกรัมละ 25 บาท ส่งผลให้เกษตรกรสวนยางในพื้นที่ เดือดร้อนหนักต้องแบกภาระต้นทุน ค่าปุ๋ย ค่าน้ำมัน ค่าแรงงานกรีดยาง ทำให้บางรายยอมหยุดกรีดยาง ปล่อยทิ้งชั่วคราว เนื่องจากกรีดไปขายแต่ได้ราคาต่ำขาดทุน ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน โดยในพื้นที่ จ.นครพนม มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่กรีดยางพารา ประมาณ 2.6 แสนไร่ เฉพาะพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม มีประมาณ 90,000 ไร่ เดิมสหกรณ์ชาวสวนยางตำบลพุ่มแกจำกัด อ.นาแก จ.นครพนม จะมียอดรับซื้อประมาณวันละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท แต่ปัจจุบันมีปัญหาราคาตกต่ำ เหลือยอดรับซื้อแค่วันละประมาณ 1 แสน เพราะส่วนใหญ่งดกรีดยางมาขาย อีกทั้งไม่มีพ่อค้าคนกลางมาประมูลรับซื้อเลย ชาวบ้านต้องเดือดร้อนแบกภาระหนี้สิน และต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลหาทางช่วยเหลือแก้ไขเร่งด่วน
ทั้งนี้อยากฝากถึงรัฐบาลให้หาทางแก้ไขจริงจัง เพราะเป็นความเดือดร้อนของเกษตรกร เพราะบางรายไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้จากทางอื่นนอกจากทำสวนยาง บางคนภาระหนี้สิน ผ่อนรถ ผ่อนธนาคาร ซื้อปุ๋ยเงินผ่อน ค่าแรงงานสารพัด หากช่วยเหลือล่าช้าปัญหาตามมามากมายแน่นอน ส่วนหนึ่งเป็นปัญหาที่เคยเกิดขึ้นมานานแต่แก้ไขไม่จบ จึงอยากให้ทางรัฐบาลพิจารณาทบทวน หาทางแก้ไขเป็นปัญหาเร่งด่วน ซึ่งทางออกน่าจะเริ่มจาก การนำยางพาราไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใช้ในประเทศ ให้มากที่สุด พร้อมหาทางแปรรูปสต็อก เพื่อต่อรองราคากับตลาดยางพาราต่างประเทศ และหาทางเยียวยาในช่วงที่เกิดปัญหา เพราะหากแก้ไขล่าช้า เกษตรกรจะต้องมีภาระหนี้สินล้นตัว เนื่องจากแบกภาระต้นทุนมานาน จึงขอให้รัฐบาลช่วยเหลือเร่งด่วน ยอมรับว่าท้อมากกับปัญหาราคายางพาราตกต่ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี